เปิดแอร์ฉ่ำ 5 ตัว แต่จ่ายค่าไฟไม่ถึงพัน จนท.ตรวจปุ๊บเจอปั๊บ!
เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม นายรณชัย อาสนพรรณ พนักงานช่างการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.นครราชสีมา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง ได้ลงพื้นที่ไปร้านอาหารแห่งหนึ่ง ภายในหมู่บ้านพบสุข ต.ปรุใหญ่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา พบอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น 1 คูหา ซึ่งเคยเปิดเป็นร้านค้า แต่ปิดกิจการไปแล้ว เหลือเพียงผู้อยู่อาศัย เป็นสามีภรรยา 2 คน
ภายในมีผู้พักอาศัยอยู่พร้อมแมวสายพันธุ์ไทยและต่างประเทศ 3 ตัว ด้านในติดตั้งเครื่องปรับอากาศ จำนวน 5 ตัว
เจ้าหน้าที่ใช้อุปกรณ์ทำการตรวจสอบการไหลของกระแสไฟฟ้าที่มิเตอร์ไฟฟ้าหน้าอาคารดังกล่าว ก็พบความผิดปกติ มิเตอร์ถูกดัดแปลงด้วยการตัดสายนิวตรอนสลับเฟสทำกราวด์ และตัดสกรูหูข้างมิเตอร์ดัดแปลงให้มิเตอร์หมุนช้าลง เพื่อให้กระแสไฟฟ้าเข้า-ออกไม่ตรงตามการใช้งานจริง
ซึ่งจากการตรวจวัดค่ากระแสไฟฟ้า วัดค่ากระแสไฟฟ้าลดลงกว่าการใช้งานจริงกว่า 90% เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำบันทึกเป็นหลักฐานการตรวจจับกุม พร้อมกับได้แจ้งให้เจ้าของบ้านรับทราบ
ทั้งนี้ เดิมเสียค่าไฟเฉลี่ยเดือนละ 8,000-9,000 บาท แต่จ่ายจริงเดือนละ 800-900 บาท
นายรณชัย อาสนพรรณ พนักงานช่างการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า การลงพื้นที่จับกุมผู้ลักลอบใช้ไฟฟ้าผิดกฎหมายในครั้งนี้ ทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สืบทราบจากการดูจากสถิติการใช้ไฟ และดูจากประวัติผู้ที่เคยลักลอบต่อไฟหลวงโดยผิดกฎหมาย ซึ่งมีนโยบายว่าจะต้องไปตรวจซ้ำ เพื่อเป็นการป้องกัน และปรามไม่ให้กระทำความผิดซ้ำอีก ซึ่งรายนี้เคยมีการลักลอบต่อไฟหลวงใช้โดยผิดกฎหมายมาแล้ว 1 ครั้ง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2519 ซึ่งครั้งนั้นมีการสลับเฟสทำกราวด์ เมื่อตรวจสอบซ้ำก็พบว่าได้กระทำความผิดซ้ำอีก
ครั้งนี้เป็นการลักลอบตัดลวดผูกข้างมิเตอร์ไฟฟ้า และมีการดัดแปลงทำให้กระแสไฟฟ้าเข้ากับออกไม่ตรงกัน ซึ่งจากการใช้เครื่องมือตรวจสอบพบว่า กรณีนี้มีไฟฟ้าเข้ามิเตอร์ 6.38 แอมป์ แต่กระแสไฟฟ้าออกเหลือแค่ 0.39 แอมป์เท่านั้น ทำให้กระแสไฟฟ้าหายไปเกือบ 6 แอมป์เลยทีเดียว ซึ่งเจ้าของบ้านยอมรับว่า อยู่บ้านหลังนี้แค่ 2 คน เป็นสามีภรรยากัน โดยเข้ามาอยู่นานกว่า 6 ปีแล้ว แต่ก่อนเปิดเป็นร้านค้า แต่ตอนนี้ไม่ได้ทำแล้ว
ข้างในบ้านมีเครื่องปรับอากาศติดไว้ทุกห้อง 3-4 ตัว และไม่รู้ว่าใช้ไฟฟ้าทำอะไรบ้าง เพราะเท่าที่เคยจับผู้ลักลอบใช้ไฟฟ้าลักษณะนี้ ก็มักจะมีการนำไปใช้กับเครื่องขุดบิตคอยน์ ซึ่งภาพรวมทั้งประเทศเฉพาะการลักลอบใช้ไฟฟ้าขุดบิตคอยน์ก็สร้างความเสียหายไปปีละไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาทเลยทีเดียวถึงอย่างไรก็ตาม กรณีนี้เคยถูกจับดำเนินคดีการก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้ว 1 ครั้ง ก็ยังไม่เข็ด แต่ครั้งนี้การไฟฟ้าก็ยังเปิดโอกาสให้เจ้าของบ้านเจรจายอมชดใช้ค่าความเสียหายกว่า 1 แสนบาท หากไม่ยอมชดใช้ค่าความเสียหายกจะต้องถูกแจ้งความดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญาต่อไป
"จึงอยากฝากเตือนผู้ที่กำลังคิดจะกระทำความผิดลักษณะนี้ว่า อย่าทำเลย เพราะการลักลอบใช้ไฟฟ้าโดยผิดกฎหมาย มีค่าปรับมูลค่าสูงมาก เฉพาะค่าปรับมิเตอร์ไฟฟ้า ก็ประมาณ 34,500 บาท และยังมีการปรับค่าไฟฟ้าย้อนหลังไม่ต่ำกว่า 2-3 ปีด้วย"