เปิดใจเหล่าพ่อค้าแม่ค้า วอนหยุดดราม่า คนสมน้ำหน้าว่ากักขังสัตว์
นางกาญจนา เจ้าของร้านขายนก เปิดเผยว่า นกในร้านตนตายหมด ไม่เหลือรอดสักตัว มูลค่าความเสียหายนับล้านบาท อีกทั้งยังกระทบกับการส่งออกขายด้วย อย่างไรก็ตามตนอยากให้หน่วยงานจัดหาล็อก หรือพื้นที่ขายให้ชั่วคราว เพื่อใช้หนี้กับฟาร์มที่ตนรับมาขาย หลายคนที่เห็นข่าวแล้วมาสมน้ำหน้าพ่อค้าแม่ค้าที่กักขังสัตว์ ตนอยากจะบอกว่าตนขายมาเป็นสิบ ๆ ปี ไม่มีทางไม่รักสัตว์ ดูแลดียิ่งกว่าตัวเองอีก
ด้านนายเอก ผู้ประกอบการขายไก่ เปิดเผยว่า หลายคนมาโจมตีพวกตนว่าทรมานสัตว์ แต่อยากบอกว่าผู้ขายนั้นน่าสงสารมาก เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นยากมาก ผู้ขายบางรายมีร้านที่นี่ที่เดียว พอเกิดเหตุเพลิงไหม้แบบนี้ เค้าจะไปทำมาหากินอะไร ตอนเกิดเหตุไม่มีใครอยู่ในร้าน ผมเห็นก็ได้แต่ทำใจ สงสารทุกคน ทั้งผู้ประกอบการและสัตว์เลี้ยง
ในขณะที่ น.ส.สุวรรณณัช แสงดี ผู้ประกอบการค้าปลาคัดสวยงาม เปิดเผยว่าขายมาประมาณ 10 กว่าปีได้ โซนนี้ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ตอนเกิดเหตุกำลังนอนอยู่ที่บ้าน เพิ่งกลับมาจากงานประกวดปลาที่ประเทศอินโดนีเซีย โดยมีพี่ที่ค้าขายด้วยกันโทรมาบอก ตอนนั้นตนช็อก พูดอะไรไม่ถูก ร้องไห้ไม่ออกเพราะมันจุก
เพราะที่นี่เป็นแหล่งทำมาหากินของตน ส่งออกปลาให้ลูกค้าต่างประเทศ จุดรับปลาประกวด ซึ่งตอนนี้ลูกค้าก็ติดต่อเข้ามาสอบถามจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายตอนนี้อยู่ที่ประมาณหลักแสน หลังจากนี้ตนก็รอความช่วยเหลือ ว่าจะมีการจัดที่ทางทำมาหากินให้หรือไม่
ด้านนายธัญญวัฒน์ ภารชาตรี เจ้าของร้าน Landmark betta เปิดเผยเผยว่าขายที่มาเป็นปีที่ 9 แล้ว แน่นอนเราต้องเสียใจ เพราะลงของไว้ที่นี่ทั้งหมด ตอนนี้ที่ร้านไม่เหลืออะไรเลย ปลาตายหมด และส่วนใหญ่ปลาที่ร้านเป็นปลา เกรดแข่ง เกรดประกวด ส่งออกนอกทั้งหมด ไปหาข้างนอก ไม่น่าจะมี
ทั้งนี้ตอนเกิดเหตุนอนอยู่ที่บ้าน ก็รู้สึกสังหรณ์ใจได้แต่ภาวนาอย่าให้เกิดกับร้าน แต่ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องดึงสติให้ได้มากที่สุด ซึ่งมูลค่าความเสียหายประมาณล้านบาท นอกจากความเสียหายในเรื่องของสัตว์แล้ว ก็ยังมีสิ่งของที่มีคุณค่า และสำคัญทางจิตใจ นั่นก็คือถ้วยพระราชทาน 14 ใบ
หลังจากนี้ คาดว่าต้องหาพื้นที่ในการค้าขายใหม่ และเริ่มใหม่อีกครั้ง คาดหวังว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากทางการ เชื่อว่าใครที่ไม่ได้ในวงการตลาดสัตว์สวยงามแบบนี้ อาจจะไม่รู้มูลค่าการตลาด อาจจะนึกว่าเล็กน้อย แต่ความจริงแล้ว สัตว์เหล่านี้เป็นสัตว์มีเกรดทั้งหมด ค่อนข้างหายาก
ตอนนี้อยากให้ทางการรถไฟ และผู้ที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการทั้งหมด รวมถึงสืบหาต้นตอของเพลิงไหม้ในครั้งนี้ด้วย เพราะผู้ประกอบการที่ดี ไม่ได้ร่ำรวยอะไร เป็นคนหาเช้ากินค่ำกันทั้งหมด
ด้านคุณกิม ณัฏฐนิชา เจ้าของร้านคนบ้างู เปิดเผยว่า แน่นอนว่าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังทราบข่าว ก็ร้องไห้มาตลอดทาง ได้แต่ทำใจและทำงานต่อไป ร้านตนไม่ได้อยู่ในโซนที่เกิดเพลิงไหม้ แต่ไฟทะลุเข้ามาด้านหลังร้าน ทำให้งูในร้านจำนวนกว่า 400 ตัว ตายเพราะความร้อนและสำลักควัน
สำหรับมูลค่าความเสียหายทั้งหมดนั้น รวมทั้งค่าสัตว์เลี้ยงและอุปกรณ์ต่างๆ อยู่ที่ประมาณ 5.5 ล้านบาท งูที่แพงที่สุดและตายอยู่ที่ตัวละ 60,000 บาท ซึ่งทรัพย์สินทั้งหมดอยู่ที่ร้าน ตอนนี้ตนจะต้องมีการเก็บซากงูทุกตัวเข้าในถุงซิปล็อก และทำการฟรีซในการรักษาสภาพ เพื่อที่จะสามารถเก็บหลักฐานต่างๆได้
หลังจากนี้ตนก็ยังรอความช่วยเหลือจากทางการว่าจะได้รับการเยียวยาอย่างไรบ้าง แต่ในเบื้องต้นทางผู้ให้เช่าได้ช่วยเหลือตนในการยืดระยะการชำระค่าเช่าไปจนถึงเดือนกันยายน หลังจากนี้ก็ต้องสู้ต้องทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้
ทั้งนี้ผู้ประกอบการร้านข้าง กับร้านคนบ้างูอย่างเปิดเผยอีกด้วยว่า ร้านของตนก็เกือบเสียหาย โดยหลังจากที่เกิดเหตุ มีเจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้พังประตูเข้าไป เพื่อนำงูและสัตว์อื่นๆออกมาจากร้าน ซึ่งสัตว์ต่างๆ อยู่ในความตกใจ