ย้อนมหากาพย์! เพื่อนบ้านยึดบ้านอากู๋ อ้างครอบครองปรปักษ์
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ ย้อนมหากาพย์! เพื่อนบ้านยึดบ้านอากู๋ อ้างครอบครองปรปักษ์
ไล่เรียงไทม์ไลน์มหากาพย์คดีดัง! ปมเพื่อนบ้านยึดบ้านอากู๋ พร้อมยื่นฟ้องอ้างใช้สิทธิ์ครอบครองปรปักษ์ ก่อนอัยการเรียกฟังคำสั่งในคดี
จากกรณีพิพาทระหว่าง เพื่อนบ้าน ที่ลักลอบเข้ามายึดบ้านและอ้างกรรมสิทธิ์ครอบครองปรปักษ์ พร้อมเปิดเป็นร้านขายไก่ทอด กับ อากู๋ เหมทัศน์ พร้อมหลานชายและหลานสะใภ้ ที่กลายเป็นคดีดัง ตั้งแต่เมื่อช่วงปี 2566 จนมาถึงต้นปี 2567 กระทั่งมีรายงานว่า หนึ่งในเพื่อนบ้านที่อ้างสิทธิ์ครอบครองปรปักษ์ ตัดสินใจผูกคอลาโลกนั้น วันนี้ พีพีทีวี จะพามาย้อนเหตุการณ์ต่าง ๆ ว่า กรณีพิพาทดังกล่าวมีความเป็นมาอย่างไรบ้าง
จุดเริ่มต้น-อ้างครอบครองปรปักษ์
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นจากเพื่อนบ้าน ที่อาศัยอยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านของ อากู๋ เหมทัศน์ อาสาเข้ามาตัดต้นไม้ให้ ต่อมาเริ่มใช้สถานที่เป็นที่จอดรถ ที่เก็บของ ที่ทำครัว กระทั่งต่อเติมบ้านอากู๋ ให้เชื่อมกับออฟฟิศส่วนตัวบริเวณข้างกัน
วันที่ 31 ส.ค. 2566 อากู๋ รวมถึง ซันและอาย หลานชายและหลานสะใภ้ ออกมาแสดงตนว่าเป็นเจ้าของบ้านตัวจริง พร้อมเจรจากัน โดยฝั่งเพื่อนบ้านอ้างว่า ตนลงทุนเพื่อปรับเปลี่ยนสถานที่ให้ดีขึ้น พยายามติดต่อขอซื้อ-เช่า ก็ติดต่อไม่ได้ สุดท้ายเพื่อนบ้านยอมถอยออกไป
วันที่ 17 ก.ย. 2566 เมื่อเพื่อนบ้านยอมถอยออกไปแล้ว หลานเจ้าของบ้านจะเข้าไปเปลี่ยนกุญแจบ้านและล็อกบ้าน แต่กลับพบว่าเพื่อนบ้านได้ย้ายเข้าไปอยู่บ้านหลังดังกล้าวอีกครั้ง ทำให้ต้องมีการเจรจาอีกครั้ง ในวันที่ 29 ก.ย. 2566 โดยในการเจรจาดังกล่าว ฝั่งเพื่อนบ้านยอมย้ายออกอีกรอบ และพยายามขอซื้อบ้านต่อจากเธอในราคา 1 ล้านบาท แต่หลานเจ้าของบ้านยังคงยืนยันว่าไม่ขายบ้าน
วันที่ 22 พ.ย. 2566 เพื่อนบ้านยื่นฟ้องในคดีแพ่ง พร้อมอ้างว่าเป็นการ "ครอบครองปรปักษ์"
วันที่ 6 ม.ค. 2567 หลานเจ้าของบ้านได้หมายศาลหลังกลุ่มเพื่อนบ้านยื่นฟ้องในคดีแพ่ง พร้อมอ้างว่าเป็นการ "ครอบครองปรปักษ์" จากนั้นในวันที่ 29 ม.ค. 2567 ฝั่งอากู๋ ได้ยื่นฟ้องเพื่อนบ้านกลับ เป็นการยื่นฟ้องแย้งและฟ้องขับไล่
เปลี่ยนบ้านเป็นร้านขายไก่ทอดน้ำปลา
วันที่ 8 ก.พ. 2567 หลานเจ้าของบ้าน ได้เข้าไปดูบ้านอีกครั้ง พบว่าเพื่อนบ้านมีการนำป้ายไวนิลขายไก่ทอดน้ำปลามาติดไว้ที่หน้าบ้าน และเมื่อดูในบ้าน พบวัตถุดิบสำหรับทำอาหารวางอยู่ และมีโต๊ะวางไว้คล้ายร้านอาหารตามสั่ง นอกจากนี้ เพื่อนบ้านยังติดป้ายแสดงความเป็นเจ้าของ ข้อความว่า
"บ้านหลังนี้ข้าพเจ้าได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ตามกฎหมาย บุคคลใดเข้ามากระทำการใด ๆ ในบ้านและที่ดินและบ้านหลังนี้ ถือว่ามีความผิดฐานบุกรุก จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน" พร้อมลงชื่อ-นามสกุล ตนเองต่อท้าย
หลานเจ้าของบ้านเดินหน้าลุยเอาบ้านคืน
นายซัน หลานเจ้าของบ้าน ได้นำเอกสารหลักฐานไปปรึกษา ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เพื่อแจ้งความเพื่อนบ้านเพิ่มอีก 1 สำนวน หลังจากที่เคยแจ้งข้อกล่าวหาไว้แล้วที่ สน.โคกคราม ในสำนวนแรก เมื่อ 29 ม.ค. 2566 โดยทนายเดชา รับว่าความให้ พร้อมออกมาวิจารณ์ว่า อีกฝ่ายสุดใจกล้าที่ทำผิดกฎหมายรอบ 2 ทั้งที่รู้แก่ใจ ยืนยันว่ามีหลักฐานชัดเจน ว่าเพื่อนบ้านครอบครองไม่ถึง 10 ปี
วันที่ 13 ก.พ. 2567 ทนายเดชา ส่ง ทนายกุ้ง ทีมงานของตนพร้อมกับนายซัน เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.โคกคราม เพื่อลงบันทึกประจำวัน พร้อมขอกำลังตำรวจเข้าไปตัดกุญแจที่บ้านพิพาทและเก็บของกลางเป็นหลักฐานเมื่อมาถึง
พนักงานสอบสวนถามว่ามีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของบ้านหรือไม่ ซึ่งไม่มีบุคคลอื่นมาแสดงตัว มีเพียงนายซันเท่านั้น จากนั้น ช่างกุญแจ ปีนเข้าไปในบ้านเพื่อตัดกุญแจ เมื่อตัดเสร็จก็เข้าไปในบ้าน พบข้าวของเครื่องใช้อุปกรณ์ทำครัวโต๊ะ เก้าอี้และเฟอร์นิเจอร์รับแขกบางส่วน อยู่ด้านในบ้านด้วย
จากนั้น มีการปลดป้ายไวนิลไก่ตะเกียบทอดน้ำปลาออก และนำป้ายแสดงความเป็นเจ้าของของนายซัน ขึ้นมาติดแทน โดยมีข้อความระบุว่า "พื้นที่ส่วนบุคคลห้ามเข้าก่อนได้รับอนุญาตหรือเข้ามากระทำการใด ๆ ทั้งสิ้นหากฝ่าฝืนจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป"
นัดส่งฟ้อง บุกรุก-ครอบครองปรปักษ์
วันที่ 16 ก.พ. 2567 พนักงานสอบสวน สน.โครกคราม นำตัว น.ส.ศรีพรรณ กับพวกรวม 5 คน มาส่งสำนวนอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญามีนบุรี 1 โดยมีความเห็นสั่งฟ้องข้อหา บุกรุก ทำให้เสียทรัพย์ และ ลักทรัพย์ โดยทั้งหมดสวมแว่นดำ และหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า ลงจากรถ SUV สีดำ และรีบขึ้นไปด้านบนของอาคาร
ด้าน นายซัน พร้อมทนายความ เดินทางมาพบพนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญามีนบุรี 1 เช่นกัน เพื่อยื่นหนังสือคำร้องคัดค้านการปล่อยชั่วคราว โดยให้เหตุผลว่า กลุ่มผู้ต้องหาบุกรุกเข้ามาในบ้านตนหลายครั้ง เพื่อครอบครองบ้านและฟ้องปรปักษ์ พฤติการณ์เหิมเกริมไม่เกรงกลัวกฎหมาย จึงอยากให้พนักงานอัยการ ไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว
ทาง นายอานนท์ จิตตกูล อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญามีนบุรี 1 กล่าวว่า หลังจากพนักงานสอบสวนนำสำนวนพร้อมตัวผู้ต้องหามาส่งให้พนักงานอัยการ อัยการจะพิจารณาสำนวนไม่เกิน 1 เดือน เนื่องจากคดีนี้ไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อนอะไร โดยอัยการนัดฟังคำสั่ง ในวันที่ 6 มี.ค. 67
เพื่อนบ้านคิดสั้น ผูกคอลาโลก
ล่าสุดวันที่ 26 ก.พ. 2567 มีรายงานข่าวแจ้งว่า เพื่อนบ้านที่เข้ายึดบ้านอากู๋ เกิดความเครียด ก่อนตัดสินใจผูกคอลาโลก โดยผู้เสียชีวิตคือนางสาวภานุมาศ หญิงวัย 51 ปี สภาพศพมีการใช้ผ้าขนหนู ผูกคอกับประตูห้องน้ำ
ก่อนที่ต่อมา ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของฝั่งอากู๋ เจ้าของบ้าน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า "ผมได้แจ้งให้อากู๋ทราบแล้วอากู๋ถึงกับช็อคและขอแสดงความเสียใจกับการเสียชีวิต ของผู้บุกรุก และขออโหสิกรรม จากทนายเดชา"
ล่าสุดวันที่ 26 ก.พ. 2567 มีรายงานข่าวแจ้งว่า เพื่อนบ้านที่เข้ายึดบ้านอากู๋ เกิดความเครียด ก่อนตัดสินใจผูกคอลาโลก โดยผู้เสียชีวิตคือนางสาวภานุมาศ หญิงวัย 51 ปี สภาพศพมีการใช้ผ้าขนหนู ผูกคอกับประตูห้องน้ำ
ก่อนที่ต่อมา ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของฝั่งอากู๋ เจ้าของบ้าน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า "ผมได้แจ้งให้อากู๋ทราบแล้วอากู๋ถึงกับช็อคและขอแสดงความเสียใจกับการเสียชีวิต ของผู้บุกรุก และขออโหสิกรรม จากทนายเดชา"
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
- เผยคำตัดสินศาล คดีดัง4จำเลยครอบครองปรปักษ์บ้านอากู๋
- 4ผู้ต้องหาบุกรุกบ้านอากู๋ ส่งฟ้องศาลมีนบุรีเจอ3ข้อหาหนัก
- ทนายเดชา อัปเดตคดีครอบครองปรปักษ์บ้านอากู๋ วันนี้พบว่า...!?
- อ.ปรเมศวร์ เผยปมดราม่าบ้านอากู๋ ชี้ถ้าทนายยุยงให้ฟ้องร้อง ถือว่าผิด
- ศรีพรรณ พี่ผู้เสียชีวิตเปิดใจ ยินดีถอนฟ้องคดีครอบครองปรปักษ์
- หนุ่ม กรรชัย ขอพูดในมุมของสื่อ หลังไฟลามทุ่งปมเพื่อนบ้านยึดบ้านอากู๋
- ทนายเดชา เปิดคลิปเสียง คนตายคู่กรณีครอบครองปรปักษ์ ลั่นประโยคนี้
- ทนายบ้านอากู๋ แจงคู่กรณีที่เสียชีวิต ไม่ใช่โดนคดีครอบครองปรปักษ์
- 1ในผู้ต้องหา คู่กรณีบ้านอากู๋ เครียดจัด ตัดสินใจจบชีวิตแล้ว
- ทนายเพื่อนบ้านครอบครองปรปักษ์ ลั่นไม่เล่นแรงก่อน ก็ไม่ตอบโต้
>> ดูทั้งหมด :1ในผู้ต้องหา คู่กรณีบ้านอากู๋ เครียดจัด ตัดสินใจจบชีวิตแล้ว
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!