ชาวบ้านลพบุรี เล่านาทีเห็นกระสือ ป๋อง-เปี๊ยก-หมอปลา สรุปกระสือมีจริงมั้ย?
รายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยกรณีกระแสดังใน จ.ลพบุรี หลังมีเสียงลือว่าพบกระสือออกอาละวาดในหลายพื้นที่ หลายอำเภอ ใน จ.ลพบุรี จนชาวบ้านหวาดผวา ขณะที่บางคนก็ตั้งกลุ่มตามล่าว่ากระสือมีจริงหรือไม่
ลุงวิเชียร ชาวบ้าน ต.โพธิ์ตรุ อ.เมือง ลพบุรี จ.ลพบุรี เล่าเหตุการณ์ว่า ตนเป็นเกษตรกรเลี้ยงสัตว์ คืนเกิดเหตุ ช่วงกลางเดือน ก.ย.2566 ตนนอนเฝ้าหมูเพราะหมูจะคลอดลูก ปรากฏว่าพบแสงไฟแวบๆ ในบริเวณบ้าน มองเห็ฯในระยะ 1-2 เมตร เห็นเฉพาะใบหน้า เป็นหญิงแก่ผมขาวสลับดำ จ้องหน้าตอบกลับมา ยิงฟันใส่ลุงวิเชียร ทำให้เจ้าตัวตกใจ เอาเสียมไล่ตีกระสือ จนหนีออกไปทางถนน
อย่างไรก็ตาม นายวิเชียรได้เห็นภาพในรายการสดๆ ยืนยันว่าใบหน้าที่เห็นไม่ใช่แบบนี้ ไม่ใช่แน่นอน เชื่อว่าสิ่งที่เห็นไม่ใช่คนแน่นอน เพราะมันลอยได้ ถ้าเป็นคนใส่หน้ากากมาหลอก จะลอยได้อย่างไร แล้วในหมู่บ้านก็ไม่มีขโมยด้วย แล้วนายอำเภอ ปลัด กำนันต่างๆ เขาเพิ่งจะมาเมื่อคืนนี้เอง ยืนยันว่าไม่ใช่แน่นอน
ลุงวิเชียรยังเล่าอีกว่า ต่อมาอยากจะพิสูจน์ความจริง จึงเอาเป็ดมาผูกไว้ ล่อผีกระสือ แล้วไปซุ่มรอในเล้าหมู ต่อมาก็เห็นดวงไฟกระซิบแว้บๆ 2-3 ครั้ง พอออกมาดูก็ตกใจ ภาพที่เห็นคือเห็นกระสือกัดแล้วคาบเป็ดหนีไปเลย ตนกับเพื่อนบ้านวิ่งตามไป จนกระสือคายซากเป็ดทิ้ง พบว่าสภาพเป็ดถูกกัดที่ท้อง ไส้เป็ดหายไป ส่วนกระสือหนีหายไปเลย ตามไม่ทันเพราะเร็วมาก ลุงวิเชียรบอกว่า โดยส่วนตัวตนไม่ได้กลัวผี แต่ชาวบ้านเขากลัว
นอกจากนี้ยังมีงานเขียนของ เสฐียรโกเศศ (พระยาอนุมานราชธน) เขียนเรื่องกระสือไว้ว่า เป็นผีมาในรูปลักษณ์ของยายแก่ เวลาออกหากินเป็นผี ก็จะถอดหัวกับไส้ เครื่องใน เห็นเป็นดวงไฟวับวาบ ออกหากินยามค่ำคืน
หรือแม้แต่นอกประเทศไทย ประเทศในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้ง สปป.ลาว เวียดนาม และ ฟิลิปปินส์ ก็มีความเชื่อในเรื่องผีกระสือ มีชื่อเรียกต่างๆ กันไปในแต่ละประเทศ ลักษณะเป็นผีที่มีหัวกับไส้เหมือนกัน
แต่จากประสบการณ์ การทำรายการเรื่องผี ยืนยันว่า ป๋อง กพล ไม่เคยเห็นด้วยตาตัวเอง แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ว่า ความเชื่อเรื่องผีกระสือมันอยู่คู่คนไทยมาทุกยุคทุกสมัยจริงๆ
หมอปลาบอกว่า ผีกระสือไม่ทำอันตรายอะไรคนอยู่แล้ว เขากลัวคน แต่พวกที่รวมตัวกันขับรถขับราออกตามล่ากระสือ มันจะเป็นอันตรายกับตัวเอง ขับรถกลางคืน แล้วยังอาจจะไปรบกวนชาวบ้านด้วย ที่น่าเป็นห่วงก็ตรงนี้
ขณะ เปี๊ยก นครนายก ผู้เชี่ยวชาญเรื่องผีกระสือ โฟนอินมาเล่าว่า ผีกระสือมาจาก สปป.ลาว เข้ามาในไทยในช่วงต้นรัตนโกสินทร์ ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงที่เล่นคุณไสยมนต์ดำ แล้วไปทำอะไรผิดครู มักปรากฏเป็นแสงสีเขียว เป็นผู้หญิงผมยาว แต่ถ้าเห็นเป็นสีแดงสีส้ม ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าเป็นรุกขเทวดาก็ได้ ตนเคยเห็นกระสือกับตา เมื่อครั้งอายุ 14 ปี เห็นที่น้ำตกสาริกา เป็นดวงไฟเขียวๆ เห็นหน้าไม่ชัด
จากตำนานที่ศึกษามา ผีกระสือ เกิดจากการผิดครู ทำบาปที่สร้างมาเอง ต้องคำสาป ส่งต่อถึงลูกถึงหลาน ถึงเวลากลางคืนจะถอดหัวออกจากร่าง ออกไปกินของเน่าของไม่ดี เรื่องนี้ช่วยเหลืออะไรไม่ได้ เขาก่อกรรมขึ้นมาเอง แล้วมันตกถึงลูกถึงหลาน
VV
V