กรมวิทย์ฯเผย ไทยพบผู้ป่วย 5 ราย ติดโควิดสายพันธุ์ EG.5.1


กรมวิทย์ฯเผย ไทยพบผู้ป่วย 5 ราย ติดโควิดสายพันธุ์ EG.5.1


วันนี้ (14 ก.ค.2566) นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า กรณีที่มีข่าวพบโควิด-19 สายพันธุ์ EG.5.1 แพร่เร็วกว่า XBB.1.16 นั้น กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้ EG.5.1 หรือ XBB.1.9.2.5.1 เป็นสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอน XBB.1.9.2. มีตำแหน่งกลายพันธุ์เพิ่มเติมบนโปรตีนหนาม คือ S:F456L (กรดอะมิโนที่ตำแหน่ง 456 เปลี่ยนจากฟีนิลแอลานีน เป็น ลิวซีน) และ S:Q52H (กรดอะมิโนที่ตำแหน่ง 52 เปลี่ยนจากกลูตามีน เป็น ฮีสติดีน)

อัตราการแพร่เชื้อในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ในภาพรวมทั่วโลก พบว่า EG.5.1 สูงกว่าสายพันธุ์ลูกผสม XBB.1.16 ร้อยละ 45

ขณะที่สถานการณ์ในภูมิภาคเอเชีย ระหว่างวันที่ 4 มิ.ย.- 4 ก.ค.นี้ พบว่า XBB.1.16 เป็นสายพันธุ์ ที่พบมากที่สุด คิดเป็น 13.71% รองลงมาคือสายพันธุ์ XBB.1.9.1 คิดเป็น 8.68% และสายพันธุ์ EG.5.1 คิดเป็น 7.33%




สถานการณ์ของสายพันธุ์ EG.5.1 ทั่วโลก อ้างอิงจากฐานข้อมูลกลาง GISAID แบ่งตามภูมิภาค ดังนี้ เอเชีย 1,385 คน ยุโรป 203 คน โอเชียเนีย 35 ราย อเมริกาเหนือ 360 คน อเมริกากลาง 4 คน และอเมริกาใต้ 1 คน

นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า สายพันธุ์ EG.5.1 ในภูมิภาคเอเชีย พบรายงานจาก 11 ประเทศ โดยลำดับจากมากไปน้อย ดังนี้ จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฮ่องกง อิสราเอล ลาว อินโดนีเซีย ไต้หวัน ไทย และอินเดีย

สำหรับประเทศไทยพบสายพันธุ์ EG.5.1 จำนวน 5 คน รายงานครั้งแรกในเดือนเม.ย.นี้ 1 คน เดือนพ.ค.นี้ จำนวน 3 คน และเดือนมิ.ย.นี้ จำนวน 1 คน ทั้งนี้ ยังไม่พบข้อมูลเรื่องการเพิ่มความรุนแรง



พบ XBB.1.16 ระบาดหลักในไทย


อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า สถานการณ์โดยรวมในปัจจุบันพบว่า XBB.1.16 เป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดของไทย ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาระหว่างวันที่ 17-23 มิ.ย.นี้ ผลการถอดรหัสพันธุกรรมเชื้อก่อโรคโควิด-19 จำนวน 74 คนพบเป็นสายพันธุ์ลูกผสม XBB.* จำนวน 73 คน (นับรวม XBB.1*, XBB.1.9*, XBB.2.3*, XBB.1.5*, XBB.1.16*) คิดเป็น 98.6%

นอกจากนี้ ยังมีสายพันธุ์ลูกผสม XBL (XBB.1.5* ผสมกับ BA.2.75*) 1 คน สัดส่วนสายพันธุ์ที่ตรวจในสัปดาห์นี้ 2 อันดับแรก ได้แก่ สายพันธุ์ลูกผสม XBB.1.16* และ XBB.1.9.1* คิดเป็น 56.76% และ 16.22 %



WHO จับตาโอมิครอน 8 สายพันธุ์


ปัจจุบันองค์การอนามัยโลกให้ความสำคัญกับการติดตามโอมิครอน จำนวน 8 สายพันธุ์ จากพื้นฐานของข้อมูล การเพิ่มความชุกหรือความได้เปรียบด้านอัตราการเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับสายพันธุ์อื่นๆ และการกลายพันธุ์ในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับการได้เปรียบในการก่อโรค ได้แก่ สายพันธุ์ที่เฝ้าระวัง หรือ Variants of Interest (VOI) 2 สายพันธุ์ ได้แก่ XBB.1.5* และ XBB.1.16*

นอกจากนี้ยังมีและสายพันธุ์ที่ต้องจับตามอง หรือ Variants under monitoring (VUM) 6 สายพันธุ์ ได้แก่ BA.2.75*, CH.1.1*, XBB*, XBB.1.9.1*, XBB.1.9.2* และ XBB.2.3*

ทั้งนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ยังคงเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ของเชื้อก่อโรคโควิด 19 อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในรายที่มีอาการรุนแรง หรือเสียชีวิต



เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี Thai PBS


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์