ไฟลุกกลางรายการ! ศรีสุวรรณ VS ลุงมือต่อย เผชิญหน้าผลัดกันซัดแรง
ล่าสุดวันนี้ (12 พ.ค.66) รายการโหนกระแส ดำเนินรายการโดย "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ทั้งสองฝ่าย ทั้งศรีสุวรรณ เผชิญหน้ากับ ลุงทศพล แต่ให้อยู่คนละที่กันเพื่อเลี่ยงการปะทะ
ทศพล : พร้อม ไม่สน ในใจกรุ่นๆ ก็มีบ้าง
พี่ศรีปากเป็นไงบ้างตอนนี้?
ศรีสุวรรณ : ก็ยังเจ่ออยู่ กินน้ำพริกไม่ได้ไปหลายวัน (เปิดปากให้ดู)
ปากเหมือนครุฑ?
ศรีสุวรรณ : ของดีให้ดูแว้บเดียว
ลักษณะคือเหมือนโดนตบหรือต่อย?
ศรีสุวรรณ : โดนต่อย
มันเกิดอะไรขึ้นเมื่อวานนี้?
ทศพล : ผมไม่ได้ต่อยครับ ผมใช้ฝ่ามือผมตบ ยืนยันครับตบด้วยมือขวา ตอนแรกผมก็ไปนัดกับเพื่อนไปอยู่ที่นั่นศูนย์ราชการ นัดทานข้าวกันตอนเที่ยง ผมนัดเพื่อนทานข้าว
รู้มาก่อนมั้ยว่าศรีสุวรรณจะไป?
ทศพล : ผมไม่ทราบ ข้างบนศูนย์ราชการเขามีขายสินค้า ผมก็ไปเดิน เอ๊ะทำไมเขาถึงมีข่าวเรื่องอะไรกัน ผมยังไปถ่ายรูปคุณศรีจรรยา เพราะเขามายื่นเอกสาร
แม้แต่ชื่อก็เรียกผิด หรือไม่อยากเรียก?
ทศพล : (หัวเราะ) ชื่อยังเรียกผิดเลย
เขาเรียกศรีจรรยา ยังเรียกชื่อเขาผิดเลยนะ ไม่ได้ต่อยผิดตัวนะ?
ทศพล : ไม่ได้ต่อยผิดตัวครับ ผมเห็นเขาถือใบที่จะไปยื่นที่กกต. ผมก็ฟังแล้ว ผมยังถ่ายรูปไว้อยู่ ได้ฟังแล้วผมหมั่นไส้แทนประชาชน ตอนแรกไม่ได้คิดอะไรเลย
เป็นแฟนคลับเหรอถึงไปถ่ายรูป?
ทศพล : ไม่ใช่ ผมรู้สึกว่าไอ้คนนี้ทำไมร้องบ่อยร้องอยู่ได้ทุกวัน ทุกเมื่อ ร้องตะพืดตะพือ ถึงเวลาแล้วประชาชนจะเลือกตั้งก็ยังไปร้องอีก ขอยุบพรรค ผมฟังแล้วเรื่องเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท
ทศพล : ใช่ เขาสัมภาษณ์แล้วยื่นหลักฐานที่จะยื่น เรื่องเงินดิจิทัล ผมก็คิดว่าเป็นสิทธิประชาชนนี่นา ที่เขาจะได้ส่วนนี้ ประชาชนก็อยากเลือกตั้งแต่สิทธิประชาชนที่เขาจะได้ ถ้าคุณศรีสุวรรณไปขวางเขา แล้วมีปัญหา ถ้าเขายุบพรรคเพื่อไทย ถามว่าประชาชนที่เขาชอบทั่วประเทศ เมื่อมีการยุบพรรคแล้ว เขาจะไปเลือกที่ไหนได้
ระหว่างนั้นนักข่าวกำลังสัมภาษณ์มั้ย?
ทศพล : ผมมีจรรยาบรรณ รอให้สัมภาษณ์ให้เสร็จก่อน
พี่มีจรรยาบรรณ รอให้เขาสัมภาษณ์เสร็จก่อนแล้วค่อยตบ?
ทศพล : ใช่ครับ ผมเป็นตัวแทนประชาชน
คนก่อนไม่มีจรรยาบรรณ เพราะต่อยตอนสัมภาษณ์ พี่ศรีคิดยังไง?
ศรีสุวรรณ : ดีครับ ทุกคำพูดของท่านจะเป็นหลักฐานในคดีความ ให้ศาลได้พิจารณา ขอบคุณมากครับที่พูดคำนี้ออกมา
ทศพล : ผมเห็นเขาทำข่าวอยู่ ผมให้เกียรตินักข่าวด้วย ไม่ไปทำอย่างนั้น
แล้วพี่ทำไงต่อ?
ทศพล : ผมถ่ายรูปเขาก่อน ด้านซ้ายถ่ายรูป แล้วก็ตบด้านขวา ตบครับ ไม่ใช่ชกครับ เขายังทักเลยว่าถ่ายรูปทำไม เป็นใครมาจากไหน ผมก็ซัดเลย มือก็โดนปาก แต่ตอนถ่ายกล้องไม่ติด
พอตบแล้ว พี่ศรีเป็นไง?
ทศพล : เขาบอกว่าตบผมทำไม ก็ไปร้องเขาเพื่ออะไร เขาจะเลือกตั้งอยู่แล้ว ผิดถูกคือหน้าที่กกต. ยังไม่ถึงเวลาเลือกตั้ง ทำไมไม่รอก่อน แล้วประชาชนเขาไม่มีโอกาส
พี่ศรีไปที่นั่นทำไม?
ศรีสุวรรณ : กกต.เชิญผมไปให้ถ้อยคำ ก่อนหน้านี้ที่ผมไปร้องเรียนเรื่องนโยบายแจกเงินดิจิทัลพรรคเพื่อไทย เข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรา 73 อนุมาตรา 1 หรืออนุมาตรา 5 ของพรบ.เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปี 61 แก้ไขเพิ่มเติมหรือไม่ ผมก็ได้ไปให้ถ้อยคำเรียบร้อยแล้ว เสร็จจากการให้ถ้อยคำก็ลงมา เผอิญมีพี่ผู้สื่อข่าวอยากสัมภาษณ์ ผมเลยไปยืนให้สัมภาษณ์หน้าสำนักงานกกต. จากนั้นเมื่อให้สัมภาษณ์เสร็จ มีพี่เรืองไกร เข้ามายื่นเอกสาร พี่ๆ ผู้สื่อข่าวเลยให้พี่เรืองไกรมาสัมภาษณ์ต่อจากผมเลย ผมเลยปลีกตัวออกมาหลังจากสัมภาษณ์เสร็จแล้ว เดินออกมาจะกลับบ้าน อยู่ๆ ก็มีตาลุงคนนี้เดินมาแล้วชกหน้าผมเลย
เรียกตาลุงเหรอ?
ศรีสุวรรณ : แล้วจะให้เรียกมันว่าอะไร
เรียกคุณได้มั้ย?
ศรีสุวรรณ : ไม่ได้ มันเพราะเกินไป มันมีเกียรติอะไรที่จะให้คนอย่างศรีสุวรรณเรียกมันว่าคุณ
เขาเรียกพี่ว่ามัน?
ทศพล : ไม่เป็นไร เขาจะเรียกอะไรก็เรียกไป สิทธิของเขา จะเรียกก็เรียกไป
ทศพล : 67
พี่ศรีสุวรรณอายุเท่าไหร่?
ศรีสุวรรณ : อย่าไปรู้เลย ก็ไล่ๆ กับพี่หนุ่มนั่นแหละ
เขามาแล้วยังไง?
ศรีสุวรรณ : เขาชกได้ครั้งเดียวแล้วพอดีทีมงานผมมาแยกตัวออกไปให้
ถ้าทีมงานไม่มากะเอาอีกมั้ย?
ทศพล : มีคนใส่เสื้อเขียวห้ามผมไว้ ผมก็แค่ตบสั่งสอน ซึ่งนายศรีสุวรรณ ไม่รู้จริง ทำความผิดตามมาตรา 101(1) ว่าด้วยเรื่องการเลือกตั้ง และมาตรา 173 จะมีการเลือกตั้ง แล้วต้องปล่อยให้สิทธิประชาชนและหน้าที่กกต.เสียก่อน
พี่ศรี หลังจากเขาเดินมาต่อย มีคนไปล็อกเขา พี่จะเข้าไปซ้ำเขามั้ย?
ศรีสุวรรณ : ไม่ครับ พอเขาชกผมแล้ว ทีมงานผมแยกตัวออกไป ผู้สื่อข่าวก็เลิกสัมภาษณ์พี่เรืองไกร แล้วมาห้อมล้อมตาลุงคนนี้ ตาลุงคนนี้ก็โวยวายด่าผมโน่นนี่อยู่ เจ้าหน้าที่ตร.ก็มาเชิญตัวผมว่าออกไปจากสถานที่ดังกล่าวเถอะ ผมก็เลยออกไปที่สน.ทุ่งสองห้องเพื่อแจ้งความดำเนินคดีอาญาฐานทำร้ายร่างกายผมต่อ
เรื่องแบบนี้ที่เกิด พอเขาเดินเข้าไป พี่รู้อยู่แล้วมั้ยว่าเขาจะไปต่อยพี่?
ศรีสุวรรณ : ผมไม่ทราบเลยว่าเขามีเจตนาทำร้ายผม ก็คิดว่าเขาเองอาจเป็นสื่อมวลชน หรือผู้สมัครรับเลือกตั้งที่มายื่นหนังสือหรือติดต่อธุระกับกกต. เนื่องจากเขาเองก็ใส่สูทผูกเน็กไทด์ ท่าทางเหมือนผู้หลักผู้ใหญ่ทั่วไป แล้วเห็นใช้มือถือถ่ายคลิปในขณะที่ผมยืนสัมภาษณ์อยู่ด้วย ก็คิดว่าไม่น่ามีอะไรผิดปกติ แต่พอผมสัมภาษณ์เสร็จ แกก็เดินตามผมมา พอผมหันหน้าไป คิดว่าแกจะมาขอถ่ายรูปด้วย แต่แกก็ง้างหมัดแล้วชกผมทันที
พี่ไม่ทัน?
ศรีสุวรรณ : ก็กันอยู่ แต่คนตั้งใจทำร้ายคนอื่นกับคนไม่ทันป้องกันตัวก็อาจพลาดไป ก็ได้หมัดเดียว คนตั้งใจกับคนไม่ตั้งใจก็ผิดธรรมชาติกันอยู่แล้ว
ถ้าตั้งตัว พี่ใส่กลับมั้ย?
ศรีสุวรรณ : ผมก็กะใส่กลับเหมือนกัน เพราะผมก็เป็นลูกศิษย์หย่งชุนอยู่เหมือนกัน
พี่เกือบโดนหย่งชุนแล้วนะ?
ทศพล : ต่อให้หย่งชุนยังไง ผมก็สู้ตาย เพื่อแทนจิตใจประชาชน เพราะประชาชนเขาไม่มีโอกาส แต่วันนั้นผมไม่รู้มีโอกาสได้ยังไง
ถ้าพี่โดนหย่งชุนพี่ไหวมั้ย?
ทศพล : สบายมาก
เขาบอกเขาเอามือตบพี่นะ?
ทศพล : ทุกวันนี้วิ่งแข่งกันก็ได้ วิ่งแข่งกับผมหรือเปล่าละ
ศรีสุวรรณ : ผมไม่สู้ครับ ผมไม่อยากทำร้ายคนมีอายุ
ทศพล : โธ่ วิ่งแข่งกับผมยังได้เลย ผมหมั่นไส้แทนประชาชนมาก
ทำไมพี่ศรีไม่มานั่งตรงนี้ต่อหน้าเขา?
ศรีสุวรรณ : ไม่เกิดประโยชน์ครับ จริงๆ แม้มาออกรายการเวลาเดียวกัน ผมก็ไม่ประสงค์ แต่ด้วยความเคารพ เกรงใจพี่หนุ่ม ผมเลยรับปาก ไม่งั้นผมไม่มาหรอก
แต่เมื่อวานไปรายการคุณปอเปี๊ยะไปแล้วนะ?
ศรีสุวรรณ : เมื่อวานก็ตำหนิคุณปอเปี๊ยะไปเหมือนกันว่าเวลาจะเชิญแขกต้องบอกด้วยนะครับ ว่าเชิญบุคคลอื่นมาด้วยหรือไม่ ไม่ใช่ว่าเชิญผมแล้วไม่บอก ผมไปรู้ทีหลังเมื่อไปถึงสถานีแล้วว่ามีคู่กรณีมาด้วย ผมจะหันหลังกลับก็เกรงใจคุณปอเปี๊ยะ
เขาไม่ได้ตั้งใจ เขาคิดว่าเจอกันได้?
ศรีสุวรรณ : รายการคุณไม่ใช่อนุญาโตตุลาการที่จะตัดสินหรือทำให้คู่กรณีเขาหายความขัดแย้งกัน มันไม่เกิดประโยชน์นะครับ
แต่รายการผมบอกก่อนนะ?
ศรีสุวรรณ : ถูกต้องครับ คุณบอกก่อน
ตรงรอยช้ำเหมือนโดนต่อย แต่ข้างบนไม่เหมือนโดน ไม่ใช่เริมนะ?
ศรีสวุรรณ : ไม่ใช่ เป็นรอยที่แตก เมื่อวานหมอก็ทำแผลให้ เดี๋ยวเสร็จรายการก็ไปหาคุณหมออีก และไปยื่นเอกสารที่กกต.เพิ่มเติมอีก
ทศพล : เป็นไรถึงไม่อยากเจอ
ศรีสุวรรณ : ผมไม่อยากเจอคนประเภทนี้ ไม่ให้ค่า คนสูงอายุประเภทนี้ไม่อยากเจอหน้า ไม่ให้ค่า
พี่กลัวเขาใช่มั้ย?
ศรีสุวรรณ : จะกลัวอะไร ผมยังหนุ่ม อายุน้อยกว่าเขาตั้งเยอะ ถ้าสู้ด้วยแรงกำลัง ไม่คณามือหรอก
เขาท้าวิ่ง?
ศรีสุวรรณ : จะวิ่งทำไม ไม่มีประโยชน์
พี่ทศอยากพูดอะไรกับพี่ศรี?
ทศพล : ผมอยากถามคุณศรีสุวรรณว่าทำไมคุณต้องไปร้องกกต. ไปร้องยุบพรรคเพื่ออะไร ทำไมไม่ปล่อยให้ประชาชนเขาเลือกตั้งก่อนโค้งสุดท้าย ในกฎหมายเขาก็ระบุชัดเจนอยู่แล้ว ตามมาตรา 137 เขาให้มีการเลือกตั้ง แต่คุณรู้หรือเปล่ากฎหมายการเลือกตั้ง อีกมาตรานึง 101/1 ชัดเจนมั้ย
ศรีสุวรรณ : 101 กับ 107 เขาเขียนว่าไง อ่านให้ฟังหน่อยซิ
ทศพล : คุณรู้กฎหมาย คุณก็ตอบมาดิ
ศรีสุวรรณ : ไม่แน่จริงนี่หว่า แน่จริงอ่านถ้อยคำในกฎหมาย มาตรา 101 กับ 107 ให้ฟังหน่อยดิ (ชี้หน้า) ถ้าอ้างกฎหมายข้อนี้ก็อ่านให้ฟังหน่อย
ทศพล : ผมไม่อ่านหรอก
ศรีสุวรรณ : คุณเคยเป็นครูบาอาจารย์คนมาก่อน คุณน่าจะรู้ดี
ทศพล : ผมไม่บอกหรอก
ศรีสุวรรณ : เคยสอนเด็กว่ายังไง คุณน่าจะรู้ดี อย่าเป็นคนแก่กะโหลกกะลา เข้าใจมั้ย อย่ามาอ้างกฎหมายกับคนชื่อศรีสุวรรณ ผมเป็นนักฎหมาย ผมรู้ การใช้สิทธิทางกฎหมาย คุณเป็นครูบาอาจารย์ต้องรู้ข้อกฎหมาย
ทศพล : ร้องตะพึดตะพือ
ศรีสุวรรณ : ไม่ใช่มาเถียงข้างๆ คูๆ คนไปร้องเรียนเลือกตั้งเยอะแยะมากมาย
ทศพล : คุณร้องเรียนประเทศชาติเขาเสียหาย
พี่ศรีเขารู้เรื่องกฎหมายมากกว่าพี่ พี่ไม่ได้รู้ข้อกฎหมายแต่อ้างในสิ่งที่ผิด พี่มองยังไง?
ทศพล : ศรีสุวรรณไปร้องกกต. จะถามว่าทำไมไม่ปล่อยให้เขาเลือกตั้งก่อน ไปร้องเพื่ออะไร คุณไปรับจ้างมาหรือเปล่า
ศรีสุวรรณ : ในกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. กฎหมายพรรคการเมือง กฎหมายกกต. ระบุชัดว่าประชาชนมีสิทธิ์ร้องเรียน หากเห็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หากผู้สมัครรับเลือกตั้งหรือพรรคการเมืองดำเนินการไม่ชอบด้วยกฎหมาย ฝ่าฝืนกฎหมาย ประชาชนหรือผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง มีสิทธิ์นำความไปร้องต่อกกต. เพื่อดำเนินการสอบสวนตามกฎหมาย ไปอ่านหนังสือดูบ้างสิ อย่ากะโหลกกะลา
ทศพล : แค่นี้คุณก็พูดผิดแล้ว มันยังไม่มีการเลือกตั้งเลย มันผิดตรงไหนล่ะ ไปร้องขอยุบพรรคเขา
ศรีสุวรรณ : ผมไม่ได้วินิจฉัยว่าเขาผิด แต่ผมไปร้องให้กกต.ตรวจสอบ คุณอย่ากะโหลกกะลา
ทศพล : มันหน้าที่ประชาชน ผมเป็นตัวแทนประชาชน ผมหมั่นไส้คุณมานานแล้ว ผมเป็นตัวแทนประชาชน และประชาชนมีสิทธิ์ไม่มีโอกาส
ศรีสุวรรณ : ใครแต่งตั้งมึงให้เป็นตัวแทน
ทศพล : ไม่มีใครแต่งตั้ง สมัครใจผมเอง รู้ซะบ้าง นี่แค่สั่งสอนนะ มือขวาเนี่ย ไม่ได้ชก ถ้าชกหนักกว่านี้อีก
ทำไมพี่ศรีไปร้องอีกขั้วนึง แต่ไม่เคยร้องอีกขั้ว?
ศรีสุวรรณ : คุณเป็นผู้สื่อข่าว ก่อนหน้านี้คุณก็รู้ว่าผมไปร้องเรียนใครบ้าง ผมเคยไปร้องรวมไทยรักษาชาติ ดึงสถาบันมา ไปร้องพลังประชารัฐ ไปปราศรัยดึงสถาบันมา ผมก็ร้องมาโดยตลอด เมื่อวานเขาก็อ้างว่าค่าไฟ ทำไมศรีสุวรรณไม่ไปร้อง ผมก็ไปร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน ปรากฏเป็นข่าวเยอะแยะ แกไม่รู้เรื่อง กะโหลกกะลา
เขาบอกเขาไปร้องนะ?
ทศพล : โธ่ ร้องที่ไหน ถ้าร้องจริงเอาหลักฐานมาแสดงเด่ะ ทำไมไฟฟ้าแพงแบบนี้ล่ะ เรื่องข้าวของแพงทำไมไม่ไปร้อง
ศรีสุวรรณ : ผมก็ร้อง ไปดูข่าวสิ ไปอยู่รูไหน
ทศพล : ทำเพื่อประชาชนบ้างสิ มีมั้ย ข้าวของแพงอย่างนี้ ผมตัวแทนประชาชน ผมหมั่นไส้คุณไง
พี่ศรีเขาไปร้องมาแล้วนะ แต่พี่ไม่ได้ดูข่าว เขาบอกอย่างนั้น พี่บอกยังไง?
ทศพล : ผมดูข่าวตลอดอยู่แล้ว ไม่มี
ศรีสุวรรณ : ไปกดกูเกิ้ลดูก็ได้ ขึ้นมาเป็นตับ ศรีสุวรรณร้องผู้ตรวจการแผ่นดินเรื่องไฟฟ้าแพง อย่ามัวรุดอยู่ในรูหนูรูอะไรก็ไม่รู้
ทศพล : ไม่ได้อยู่รูหนูหรอก อยู่บนบก ถ้าอยู่รูหนูไม่โดนฝ่ามือบอก จะบอกไว้ให้ นี่คือตัวแทนประชาชน ประชาชนไม่สามารถทำแบบนี้ได้
ปอเปี๊ยะโทรมาบอกว่าขอชี้แจงที่พี่พูดถึงเขา?
ปอเปี๊ยะ : ขอบพระคุณที่อนุญาตให้ปอเปี๊ยะชี้แจง ขอบคุณพี่ศรีและลุงทศพลที่มารายการเรา เมื่อวานมันร้อนมาก และกะทันหัน ซึ่งสองฝ่ายเราไม่แน่ใจว่ามารายการทันกันมั้ย เราให้สองทีมไปหาทั้งสองท่าน เป็นช่วงเวลาที่เส้นยาแดงผ่าแปด อันนี้ต้องยอมรับว่าปอเปี๊ยะไม่ได้แจ้งพี่ศรี แต่ไม่รู้ว่าใครจะมาถึงหรือใครจะคลาดกัน จังหวะที่ปอเปี๊ยะโทรไปมีช่วงที่พี่ศรีไม่รับสาย ก็เลยตกหล่นตรงนั้น ขณะนั้นปอเปี๊ยะก็เตรียมเข้ารายการ ตรงนี้ก็ขออภัยพี่ศรีด้วยที่อาจทำให้เข้าใจว่าไม่ได้แจ้ง แต่พี่ศรีก็ทราบว่าปอเปี๊ยะเชิญพี่ศรีมาอย่างไร แขกเคสไหนปอเปี๊ยะก็ชัดเจนทุกครั้ง อันนี้ไม่ได้มาเจตนาว่าจะให้จ๊ะเอ๋กัน พอพี่บอกว่าไม่อยากเจอ ปอเปี๊ยะก็ไม่ทู่ซี้นะคะ และไม่เอามาเซอร์ไพรส์ด้วย
ศรีสุวรรณ : ไม่มีอะไรติดใจปอเปี๊ยะอยู่แล้ว คนน่ารักอย่างปอเปี๊ยะจะไปโกรธลงได้ยังไง
เดี๋ยวโดนผัวเขาต่อยอีกทีนึงหรอก เรื่องคดีความลุงศักดิ์ เป็นยังไง?
ศรีสุวรรณ : ก็สู้คดีกันไป เนื่องจากเขายอมรับในคดีอาญา แต่คดีแพ่งเขาปฏิเสธอยู่ ก็ต้องสืบกันต่อไป
พี่ศรีมีแสงในตัว?
ศรีสุวรรณ : แน่นอนอยู่แล้ว แต่หลายคนชอบมาเกาะกระแสผม ชอบมาเป็นข่าวเพื่อมีแสง
ไหนๆ พูดเรื่องแสง พี่ไปร้องเรื่องการยิงเลเซอร์สะพานพระราม 8 มั้ย?
ศรีสุวรรณ : เนื่องจากผมเห็นหนังสือกกต.เมื่อต้นๆ เม.ย. ปี 66 นี้แล้วว่าการใช้ข้อความหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ไม่ผิดประกาศของกกต. แล้วกกม.ออกมายืนยันว่ามีการขออนุญาตแล้ว เมื่อมีการขออนุญาตถูกต้อง กกต.ประกาศว่าไม่ผิดประกาศ มันก็ไม่ผิดกฎหมาย แล้วจะไปร้องทำสากกะเบือเรือรบทำไม
พี่ทศ มีกรณีที่พี่พูดติดไว้ พี่ศรีไปหามาให้แล้ว ที่เขาไปร้องเรื่องค่าไฟแพง พี่ศรีบอกเอาให้มันดูหน่อย พี่ไปร้องมา?
ศรีสุวรรณ : ถูกต้อง (เสียงสูง) เมื่อวันที่ 20 เม.ย. 66 มันสะท้อนให้เห็นว่าคนอย่างศรีสุวรรณ พูดจริงทำจริง
ศรีสุวรรณ : ก็ถูกต้องต่อยไง ก็ไปแจ้งความดำเนินคดีมาแล้ว
ทุกวันนี้กลัวโดนต่อยมั้ย?
ศรีสุวรรณ : กลัวทำไม ยิ่งผู้มีอายุไม่น่ากลัวใหญ่
ทศพล : อยากลองอีกมั้ยล่ะ การร้องไฟฟ้า คุณร้องล่าช้า คุณต้องไปร้องก่อนเดือนเม.ย.
ศรีสุวรรณ : ร้องล่าช้าอีกแล้ว กะโหลกกะลาจริงๆ
ทศพล : เขาเก็บค่าไฟไปแล้ว คุณก็ไปร้องว่าค่าไฟแพง ประชาชนเขาเดือดร้อนเนี่ย
ศรีสุวรรณ : เมื่อกี้บอกศรีสุวรรณไม่ไปร้องค่าไฟ โธ่ กะโหลกกะลา ผมถึงไม่อยากออกรายการด้วยไง
ทศพล : โธ่ ร้องทีหลังเขาเก็บค่าไฟไปแล้วเดือนเม.ย. ประชาชนเขาเดือดร้อน
เรื่องนี้พี่จะเรียกร้องค่าเสียหายยังไง?
ศรีสุวรรณ : แน่นอนเข้าข่ายความผิดทั้งคดีอาญา เจตนาทำร้ายร่างกาย จะตบจะต่อยจะเตะก็ทำร้ายร่างกายตามกฎหมายอยู่แล้ว นอกจากนั้นมีเรื่องหมิ่นประมาทด้วยถ้อยคำ
ทศพล : ผมรู้แล้วว่าเขาตั้งไว้ 1 ล้าน
ศรีสุวรรณ : การไปกระทำผิดกฎหมายในสถานที่ราชการก็มีองค์ความผิดตามกฎหมายอยู่ มีอีกหลายกระทงที่ผมจะดำเนินการในทางแพ่งด้วย
เรียกแพ่งเท่าไหร่?
ศรีสุวรรณ : ยังต้องไปคิดคำนวณอยู่ เพราะผมเป็นคนมีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักของสาธารณชน
พี่คิดเองหรือเปล่า?
ศรีสุวรรณ : มันมีองค์ประกอบในการแถลงศาลได้อยู่ แต่ผมมีทีมทนายหลายคนที่ต้องไปนั่งปรึกษาหารือ
ล่าสุดบอกว่าล้านนึง?
ศรีสุวรรณ : ใช่ครับ อยู่ในเกณฑ์ประมาณนี้ ก่อนหน้านี้ที่มีคนมาทำร้ายผม ผมก็เรียกเท่านี้
ทศพล : ล้านนึงที่คุณเรียกไป คุณได้หรือยัง คนที่เขาชกคุณครั้งแรก
ศรีสุวรรณ : อยู่ในขั้นตอนการไต่สวนของศาล
ทศพล : แล้วมาเอาล้านที่สองอีก
ล่าสุดพี่ศรีเปิดประเด็นว่าฝั่งลุงทศ มีเลศนัยทางการเมือง?
ศรีสุวรรณ : ก็เขาเคยไปถ่ายรูปคู่กับผู้บริหารพรรคเพื่อไทย ใส่เสื้อสีแดงโร่ของพรรคเพื่อไทย เขาเองก็เป็นสมาชิกพรรคการเมืองพรรคการเมืองหนึ่ง ซึ่งหัวหน้าพรรคการเมืองดังกล่าวก็ฟ้องเป็นคดีกับผมในศาลอยู่
ทศพล : คุณว่าผมเป็นสมาชิกของใคร พรรคอะไร
ศรีสุวรรณ : ผมไม่ตอบ คุณรู้ด้วยตัวของคุณเองว่าคุณเป็นสมาชิกพรรคอะไร ผมจะไม่พูด
ทศพล : คุณรู้ไม่จริง แล้วมากล่าวหาว่าผมเป็นสมาชิกพรรค ผมบอกให้ผมไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยแล้วกัน แต่ผมยืมเสื้อเขามาใส่
ศรีสุวรรณ : ก็ยืมไปสิ
ทศพล : แล้วหนักกบาลมึงหรือไง
ศรีสุวรรณ : ผมไม่ได้กล่าวหาว่าเขาเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยนะ เพียงแต่ว่ามีรูปใส่เสื้อ ผมบอกว่าคุณเป็นสมาชิกพรรคการเมืองพรรคนึงแต่ไม่ได้บอกว่าพรรคเพื่อไทย
ทศพล : ก็ตอบมาดิว่าพรรคอะไร ก็ไม่กล้านี่หว่า คนกล้าจริงต้องตอบมา ถ้าแน่จริงต้องตอบมา นี่คือจิตใจประชาชนที่แท้จริง ประชาธิปไตย จะบอกไว้ให้
เห็นบอกว่าพี่จะฟ้องเพิ่ม?
ศรีสุวรรณ : แน่นอน ผมเช็กรอบด้าน ปรากฏว่าเขาก็เคยไปยื่นฎีกาถวายเพื่อขอให้ดำเนินการในเรื่องการยุติม.44 ของคสช. เคยไปยื่นฎีกาให้ปลดนายกฯ ประยุทธ์ออก เขาเคยเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมืองมาก่อน
จะบอกว่าคนละขั้วกัน?
ศรีสุวรรณ : เขาบอกเขาเกษียณอายุไม่ได้ทำงาน อยู่กับบ้านเฉยๆ ปรากฏว่าเขาเองก็เป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมือง จะขั้วไหนก็เรื่องของเขา
พี่จะบอกว่าถ้าอย่างนั้น สิ่งที่พูด พี่อยู่ขั้วนึง เขาอยู่ขั้วนึง?
ศรีสุวรรณ : เขาเองไปนั่งถ่ายรูปกับนักการเมืองซึ่งกำลังหาเสียงกันอยู่ ส่วนเขาจะเป็นสมาชิกหรือไม่ ผมไม่ได้ระบุ และผมไม่จำเป็นต้องรู้ว่าเขาเป็นสมาชิกพรรคที่เขาถ่ายรูปด้วยหรือไม่ แต่ผมทราบข้อมูลมาแล้วว่าเขาเป็นสมาชิกพรรคการเมืองหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่พรรคเพื่อไทย แต่ผมพูดไม่ได้ว่าพรรคอะไร แต่เจ้าตัวรู้อยู่แล้วว่าเป็นพรรคการเมืองใด
พี่เคยดูคอมเมนต์มั้ย?
ศรีสุวรรณ : จะไปดูทำไม ไปอ่านทำไมให้เสียสายตา ด่าก็ด่าไป จะไปสนใจทำไม คิดว่าพี่หนุ่มเป็นคนดีมหาศาลไม่มีใครด่าพี่หนุ่มเลยเหรอ พี่หนุ่มทำอะไรเขาได้มั้ย ผมจะไปสนใจอะไร
เวลาคนด่าผม ผมก็ทบทวนและแก้ แต่พี่ไม่สนใจอะไรเลย?
ศรีสุวรรณ : เวลาเราจะทำอะไร เราเห็นว่าเป็นประโยชน์กับสังคม เป็นสิ่งที่ดี ก็ทำไปเถิด อย่ามัวโน่นนี่นั่น ในโซเชียลก็มีไอโอ มีหน่วยจัดตั้งเยอะแยะมากมาย
ศรีสุวรรณเป็นน้ำเต็มแก้วมั้ย?
ศรีสุวรรณ : ไม่ใช่ ผมไม่ใช่น้ำเต็มแก้ว ใครอยากมาเตือนก็เตือนกันดีๆ
วันนี้จะเอายังไงกับศรีสุวรรณ ?
ทศพล : ไม่เคยทำอะไรต่อประชาชนเลยสักอย่าง ไม่มีประโยชน์ต่อประชาชนเลย ประชาชนเดือดร้อนแต่ละเรื่อง คุณก็ไม่ได้มีการช่วยเหลือสักอย่าง จะบอกให้ประชาชนเขาหมั่นไส้มานานแล้ว ดูเฟซบุ๊กได้เลย ทุกวันนี้เขาด่าใคร ตั้งแต่โดนตบหน้าเนี่ย คุณไปดูดิ เขาด่าใคร เขาเกลียดชังมึง อย่างร้ายแรงเลย ทั่วประเทศเลย เขาหาโอกาสไม่ได้ แต่กูนี่จะบอกให้ ลูกพ่อขุน
ศรีสุวรรณ : อย่าพูดไป เดี๋ยวเป็นลมช็อกตายกลางเวที
ทศพล : ไม่กลัวหรอก มึงยังไม่กล้าวิ่งแข่งกับกูเลย
ศรีสุวรรณ : ก็ได้จากพี่หนุ่มนี่แหละ
พี่ยืนยันว่าเขาต่อย แต่เขาบอกว่าเขาตบ?
ศรีสุวรรณ : อย่าไปซีเรียสคำว่าต่อยหรือตบ เพราะยังไงก็คือทำร้ายร่างกาย
เขาขึ้นมึงขึ้นกูแล้ว เขาบอกเป็นคนของประชาชน พี่ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการทะเลาะระหว่างขั้ว เหมือนพี่เป็นขั้วฝั่งรัฐบาล?
ศรีสุวรรณ : ผมก็ร้องเรียนเกือบทุกพรรค เพียงแต่ว่าหลังๆ เป็นประเด็นเกี่ยวข้องกับพรรคฝ่ายค้านมากสักหน่อย ก็เท่านั้นเอง
เคยจับตาดูฝั่งพรรคลุงตู่ ลุงป้อม หรือฝั่งอนุทินมั้ย?
ศรีสุวรรณ : มีร้องเยอะแยะ ผลงานที่ทำให้พรรคฝั่งรัฐบาลเสียหายจากคำร้องของผมก็เยอะแยะนำ ขออนุญาตยกตัวอย่าง กรณีคุณปารีณา ก็มาจากคำร้องผม ตอนนั้นเขาอยู่พลังประชารัฐ กรณีรัฐมนตรีช่วยกระทรวงศึกษาธิการ ที่อยู่สระแก้ว ก็มาจากคำร้องผม เรื่องรุกป่า พรรคภูมิใจไทยที่ไปเสียบบัตร รวมพรรคพลังประชารัฐด้วยที่เสียบบัตร ผมก็ร้อง ถูกศาลฎีกายุติการปฏิบัติหน้าที่ไป 4-5 คน
แต่คนมักมองว่าพี่ชอบไปร้องเช่นเพื่อไทย คุณชัชชาติ ก้าวไกล เหมือนพี่เตะตัดขาหรือเปล่า?
ศรีสุวรรณ : ไม่ได้เตะตัดขา ผมก็ร้องอย่างนี้มาทั้งปีทั้งชาติอยู่แล้ว ไม่ใช่ลุกมาร้องเพราะมีการเลือกตั้งเสียเมื่อไหร่
ฤดูกาลเลือกตั้งพี่เคยไปร้องฝั่งรัฐบาลเก่ามั้ย?
ศรีสุวรรณ : ก็ไปร้องไง กรณีคุณไตรรงค์ปราศรัยแล้วดึงสถาบัน ผมก็ร้อง กรณีพลังประชารัฐไปปราศรัยที่กาญจนบุรี ผมก็ไปร้อง
ร้องเบาๆ มั้ย?
ศรีสุวรรณ : การร้องก็ร้องปกติ เป็นข้อกฎหมาย เพียงแต่ว่าคนจ้องจับผิดผม ก็หยิบแต่ประเด็นฝ่ายที่เขาสนับสนุนและเป็นเอฟซีเท่านั้น เช่นที่ผมมาร้องเพื่อไทย และโดนต่อยนี่แหละ
พี่ทศจับจ้องแต่ประเด็นที่เขาไปร้องเพื่อไทยหรือก้าวไกลอีกขั้วนึง?
ทศพล : เขาไม่เคยไปร้องพรรครัฐบาลนะ ไม่เคยร้อง
ศรีสุวรรณ : ก็มัวแต่ไปอยู่ในรูหนู
ทศพล : ร้องแต่พรรคก้าวไกล เพื่อไทย เสรีรวมไทย ร้องเพื่ออะไร
พี่เป็นสมาชิกพรรคคุณเสรีพิศุทธิ์มั้ย?
ทศพล : เป็นครับ ผมยอมรับ
เป็นไปได้มั้ยเรื่องนี้เลยส่งต่อกันมา ทางนี้เขาก็มีการฟ้องร้องกับท่านเสรีอยู่?
ทศพล : ไม่ควรไปพัวพันครับ อันนั้นเขาไปฟ้องกันเอง
กลัวไปสะเทือนท่านเสรีพิศุทธิ์หรือเปล่า?
ทศพล : ไม่เกี่ยวครับ
วันนี้เขาจะฟ้อง?
ทศพล : ก็ฟ้องไปสิ ร้องมากี่ราย มั่วไปหมด ร้องทุกเรื่อง ประชาชนเขาเดือดร้อน ร้องมั่วไปหมดเลย ช่วยเหลือประชาชนมั่งมั้ย ไม่มี คนเลวๆ แบบนี้ เลวที่สุด ศรีธัญญา ไม่เคยช่วยประชาชน เขาเดือดร้อน
การไปพูดแบบนี้จะถูกเขาฟ้องอีกนะ?
ทศพล : ฟ้องไปดิ มันฟ้องมั่วไง
ศรีสุวรรณ : ผมไม่ตอบโต้ ทุกถ้อยคำที่เขาพูดจะไปปรากฏอยู่ในชั้นศาล
ทศพล : พระเจ้าก็ไม่เว้นเลย ร้องมั่ว พระสมปอง พระอะไรก็ร้องเขา
ศรีสุวรรณ : (หัวเราะ)
ทศพล : แม้แต่ผู้ว่าฯ ชัชชาติ เขาเป็นผู้ว่าฯ ได้ไม่กี่วันก็ไปร้องเขา คนแบบนี้ประชาชนรังเกียจ ถือโอกาสไม่ได้ ผมเป็นตัวแทนประชาชน เมื่อวานผมหมั่นไส้ไง มันน้อยไปที่โดนตบมือขวา จริงๆ ต้องมากกว่านี้ ไม่สะใจเลย มันเก่งนัก ร้องตะพืดตะพือ ร้องไม่เลือกหน้า
เขาบอกพี่กะโหลกกะลา ร้องมาแล้วแต่พี่ไม่รู้?
ทศพล : โธ่ แล้วมาบอกผมอยู่ในรู คนอยู่ในรูมันไม่ออกมาตบต่อหน้ามึงหรอก จะตบได้ยังไง คนอย่างมึงต้องเจอเสียบ้าง ประชาชนถือโอกาสไม่ได้ แต่กูเนี่ยประชาชนเต็มขั้นเลย ประชาธิปไตย มึงไม่รู้จริง
ศรีสุวรรณ : อยากพูดไรก็พูดมา
ทศพล : มึงเรียกเงินล้านกู กูไม่มีให้หรอก กูไม่มีเงิน ไม่มีรายได้ แต่กูสมัครใจแทนประชาชน กูเจ็บใจมากเลย ร้องยุบพรรคก้าวไกล เพื่อไทย พรรคที่ประชาชนเขาชอบ มึงไปร้องยุบพรรคเขาเนี่ย เขาเสียโอกาส มึงเลว แย่มากๆ นะแบบนี้ ไม่ให้ประชาชนมีโอกาสเลือกตั้งเลย ไปขวางทางเขา
เชื่อว่าพี่ศรีฟ้องแน่ ไม่กังวลใจนะ?
ทศพล : ให้เขาฟ้องไปครับ ผมเจ็บใจแทนประชาชนมาก ประชาชนไม่มีโอกาส
ผมต้องไปเป็นพยานอีกมั้ย?
ศรีสุวรรณ : ไม่จำเป็น คดีแบบนี้แค่เอารายการไปแถลงถอดเทป ถอดข้อความไปแถลงก็จบแล้ว ไม่จำเป็นต้องมีพยาน
ศรีสุวรรณ : เครื่องฟอกอากาศ
พี่ใส่หน้ากาก แล้วพี่จะได้อะไร?
ศรีสุวรรณ : พี่จะมาแซวอะไรผม อยากมีเรื่องกับผมเหรอ
พี่ใส่เครื่องฟอกอากาศ ก็ต้องถอดหน้ากากเพื่อรับโอโซน มันดูเป็นคนย้อนแย้ง?
ศรีสุวรรณ : หน้ากากมันป้องกันฝุ่นได้ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ หนุ่มต้องเข้าใจนะ ไม่ใช่เครื่องฟอกอากาศแบบ 3m หน้ากากแบบนี้ป้องกันได้แค่ฝุ่นละอองขนาดใหญ่ แต่ pm2.5 มันป้องกันไม่ได้ เท่านั้นเอง ดังนั้นการมีเครื่องแบบนี้ก็ช่วยบางส่วนเท่านั้นเอง ไม่ได้ทั้งหมด ขออนุญาตสอนนะ
ไม่เป็นไรครับ ผมยินดีรับ ผมน้ำไม่เต็มแก้ว พี่สอนผมได้หมดเลย ณ วันนี้พี่จะเอายังไง จะมีการระวังตัวมากกว่านี้มั้ย?
ศรีสุวรรณ : ทุกวันนี้ก็เริ่มปรึกษาทีมงาน ตั้งทีมดูแลความปลอดภัยมากขึ้นแล้ว ไปไหนผมมีคนขับรถคอยดูแลเบื้องต้นแล้ว
ทศพล : นักร้องรับจ้างมากกว่า
จะบอกว่ามีคนจ้างเขาเหรอ?
ทศพล : ใช่
ศรีสุวรรณ : คุณบังอาจกล่าวหาผม ก็ไปว่ากันในชั้นศาล
ทศพล : ผมสงสัยไง ว่าคุณอาจเป็นนักร้องรับจ้าง ร้องตะพึดตะพือทุกวัน ร้องไม่เข้าเรื่อง ไม่ฟังเลย ประชาชนต้องการเลือกตั้ง ไปร้องทำไม ถามคุณดิ
ตัวพี่จะตั้งทีมป้องกัน?
ศรีสุวรรณ : คือเวลาไปไหน นอกจากคนขับรถผม ก็จะมีทีมล่วงหน้า ไปปนเปอยู่กับผู้สื่อข่าว จะดำเนินการอย่างนั้น
แนะนำไม่ได้สอน พี่ต้องซื้อหน้ากากอนามัยเป็นเหล็ก ใส่ไว้เลย เวลาต่อยคนต่อยจะเจ็บมือ?
ศรีสุวรรณ : ให้เหมือนภาพยนตร์ Fast And Furious
พี่จะเลิกเป็นนักร้องเมื่อไหร่?
ศรีสุวรรณ : ไม่เลิก ตราบใดที่สังคมไม่ได้รับการถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้มีอำนาจรัฐ
แต่คนส่วนหนึ่งอาจไม่เอาพี่ก็ได้?
ศรีสุวรรณ : รู้ได้ไง คนสนับสนุนผมมีเยอะแยะมากมาย คนไลน์มาสนับสนุน เห็นอกเห็นใจ มีเยอะแยะมากมาย คุณอย่าไปมองเฉพาะกลุ่มไอโอที่มาตำหนิในเฟซผมสิ เหรียญมีสองด้าน มีคนหนุนผม ก็มีคนคัดค้านผมเป็นเรื่องปกติ พระพุทธรูปที่อยู่ในโบสถ์ ก็ยังโดนติเตียนเลย จะไปสนใจอะไรกับเสียงนกเสียงกา
มีคนต้องการให้เราไปร้องเพื่อเขาเหมือนกัน?
ศรีสุวรรณ : ถูกต้อง คนไปร้องก็ไม่ได้ชื่อศรีสุวรรณคนเดียว
บางคนมองว่าพี่ร้องไม่สุด พี่ร้องแล้วทิ้ง?
ศรีสุวรรณ : จะไปทิ้งได้ไง เรื่องบางเรื่องเราไม่สามารถตัดสินสองสามวัน อย่าผมร้องคุณช่อ กณิการ์ ที่ไปยืนถ่ายรูปในลักษณะกระทบกระทั่งสถาบัน ผมร้องไปตั้งแต่ปี 62 63 ปปช.เพิ่งเรียกไปสัปดาห์ที่แล้ว บางเรื่องไม่ใช่มีข้อสรุปภายในเดือนหรือปี เพียงแต่ต้องปล่อยให้หน่วยงานมีอำนาจทำหน้าที่ของเขาไป เท่านั้นเอง แต่นานๆ ก็ทำหนังสือทวงถามไป แต่ทำหนังสือทวงถาม ทำไมต้องมาร้องแร่แห่กระเชอว่าเฮ้ย ทวงถามแล้วนะ ไม่จำเป็น คนอยากรู้ก็ทำหนังสือทวงถามไปสิ หรือไปร้องเองสิ
พี่บอกไปร้องเพื่อประชาชน แต่แค่ตรงนั้นแล้วจบ เขาอยากรู้ว่าพี่ไปตามเรื่องให้มั้ย?
ศรีสุวรรณ : ถ้า 6 เดือนไม่มีความคืบหน้า ผมก้ทำหนังสือสอบถามไปยังหน่วยงานที่ผมร้องเรียน แล้วเขาก็บอกว่าเรื่องที่คุณร้องเรียนอยู่ในขั้นตอนสอบสวนพิจารณา ไต่สวนอยู่ เขาก็ตอบมาอย่างนี้ แล้วทำไมต้องมาบอกทุกเรื่องล่ะครับ มันมีประเด็นใหม่ๆ ในสังคมตลอดอยู่แล้ว
ถ้าย้อนกลับไปได้ พี่ทศจะไม่ต่อยเขามั้ย?
ทศพล : ก็ไม่ตบแล้ว มันโดนแค่ครั้งนี้แค่สั่งสอน แต่พอแล้ว เลิกกันที ถ้าคนมีจิตสำนึก ต่อไปเขาจะไม่ร้องแล้ว ร้องไปเพื่ออะไร ประชาชนให้โอกาสแล้ว ต้องให้ประชาชนได้รับโอกาสบ้างดิ นี่ไม่ดูตาม้าตาเรือเลย ร้องตะพึดตะพือ ร้องไม่เข้าเรื่อง ร้องเพื่ออะไร หรืออยากเป็นมือปืนรับจ้างเหรอ
เขาบอกพี่มีคนจ้างให้ไปร้อง?
ศรีสุวรรณ : ไม่มีหรอกครับ การกล่าวหา เป็นความผิดทางอาญานะครับ
ทศพล : ตั้งข้อหาฟ้องเขาอย่างนั้นอย่างนี้ สุดท้ายอยากถามว่าได้หรือยังเงิน 1 ล้าน
เสียใจมั้ยที่ไปต่อยเขา?
ทศพล : ผมไม่เสียใจหรอก ผมดีใจทำแทนเพื่อประชาชนทั่วประเทศ เพื่อประชาธิปไตย รู้ซะบ้าง
ศรีสุวรรณ : คำก็อ้างประชาธิปไตย สองคำก็อ้างประชาธิปไตย เป็นครูบาอาจารย์ ไม่รู้หรือสะกดไม่เป็นหรือว่าประชาธิปไตยแปลว่าอะไร ประชาธิปไตยคือการลงไม้ลงมือหรือ ประชาธิปไตยของคุณลุงใช่มั้ย
ทศพล : เขาหมั่นไส้มึงไง
ศรีสุวรรณ : แบบนี้แหละเขาเรียกกะโหลกกะลา
ทศพล : ไม่ดูแลประชาชน เขาเดือดร้อนเพราะมึงไง เขาเสียโอกาส กูเนี่ยจะบอกให้ตัวแทนประชาชน รู้เสียบ้าง
ศรีสุวรรณ : ไม่เป็นไร มีอะไรสำรากออกมา
ทศพล : มึงไม่ได้เห็นแก่ประชาชนเลย เขาเดือดร้อนเยอะแยะ ให้การช่วยเหลือประชาชนสิ
ศรีสุวรรณ : ทุกคำพูดที่ท่านพูดมา ถูกบันทึกอยู่ในชั้นศาลทั้งหมดนะครับ
ทุกวันนี้ทำงานอะไร?
ทศพล : อยู่เฉยๆ ผมออกกำลังกาย ไม่ซ้อมมวย ไม่ได้เป็นนักมวย แต่เป็นมือจิตใจประชาชนที่แท้จริง อัดอั้นตันใจแทนประชาชน ทนไม่ไหวไง ถึงได้โดนแบบนี้ไง สั่งสอน
โกรธมั้ยเขาบอกเรากะโหลกกะลา?
ทศพล : ไม่โกรธ
อยากบอกอะไรเขา?
ทศพล : มีจิตสำนึกซะบ้างเด่ คนอย่างมึงไอ้เหี้x แม่x มีจิตสำนึกต่อประชาชนทั่วประเทศ เขาต้องการ เขาเดือดร้อน ประชาชน แต่ไม่มีโอกาส มึงทำร้ายต่อสังคมประชาชนอย่างร้ายแรง เขาเสียหาย
พี่อยากฝากอะไรมั้ย?
ศรีสุวรรณ : จริงๆ การที่ผมไปร้องเรียนในฤดูกาลเลือกตั้ง ผมว่าเป็นสิทธิโดยชอบของประชาชนคนไทย ทั้ง 70 ล้านคน ก็มีสิทธิ์ไปร้องเรียนถ้าหากเห็นว่าการเลือกตั้งไม่เป็นธรรม ส่อไปในทางทุจริต หรือไม่เที่ยงธรรม การที่ผมไปร้องเรียนให้หน่วยงานมีอำนาจตามกฎหมายดำเนินการสอบสวน ถ้าเรื่องที่ผมร้องมีน้ำหนัก มีพยานหลักฐาน กกต.ก็ทำหน้าที่เอาผิดต่อไป แต่ถ้าเรื่องใด ประชาชน นักการเมือง หรือผู้สมัครร้องเรียน ไม่เข้าองค์ประกอบเขาก็โยนทิ้งถังขยะไป นี่ก็เป็นครรลองทั่วไประบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เท่านั้นเองครับ
ศรีสุวรรณ : ไม่ฝากครับ ไม่ต้องเตรียม เดี๋ยวก็มีหมายไปถึงบ้านเขาเอง
ทศพล : โธ่ะ
เขาหัวเราะเยาะ?
ศรีสุวรรณ : ต่อหน้าโซเชียลยิ่งใหญ่โอฬาร แต่ต่อหน้าศาลหัวละห้อย ผมเจอมาเยอะแล้ว
ทศพล : ไม่มีหรอกจะบอกให้ เขาเรียกว่าหิวแสง
ศรีสุวรรณ : อยากสำรากอะไรก็ว่าไป
ทศพล : ผมถามว่าปัจจุบันคุณทำงานอะไร ไปรับจ้างเขามาตลอดหรือไง
ศรีสุวรรณ : ก็ฟ้องคดีให้พี่น้องประชาชนทั้งประเทศ
ทศพล : ไม่ใช่หรอก มีแต่ทับถมประชาชน ประชาชนได้อะไร ตอบมาสิ
ศรีสุวรรณ : ไม่ตอบครับ ผมไม่ให้ค่ากับคนอย่างคุณ
ทศพล : คนอย่างมึงไม่มีจิตใจต่อประชาชน ทำลายประเทศชาติ
วันนี้ถ้ามีประชาชนส่งเรื่องไปร้องพี่ พี่จะร้องให้เขามั้ย?
ศรีสุวรรณ : ต้องดูข้อเท็จจริงก่อน ต้องกรองก่อน อันไหนมีข้อกฎหมายซัปพอร์ต ไม่ใช่ทุกเรื่องต้องร้อง แต่คนมาร้องผมแต่ละวันเยอะ มาหาที่บ้านก็มี
ถ้าคนบอกว่าศัตรูศรีสุวรรณเยอะมาก ยอมรับมั้ย?
ศรีสุวรรณ : ก็ธรรมดา มีคนรักก็ต้องมีคนเกลียด มีคนชอบก็มีคนชัง คนชอบผมก็เยอะแยะ คนชังผมก็มากมาย เป็นธรรมดาของสังคม อย่าเอามาเป็นภาระที่ทำให้ไม่สามารถทำงานได้ตามเป้าให้สำเร็จเท่านั้นเอง งานของผมคือแสวงหาความเป็นธรรมให้ประชาชน
ครอบครัวเขาห่วงคุณมั้ย?
ศรีสุวรรณ : เขาเข้าใจดีมาตลอด เขาก็เป็นห่วงอยู่แล้วเรื่องธรรมดา เขาไม่ได้ห้าม เพราะรู้อยู่แล้วว่าผมเป็นใคร รู้จักก่อนมาแต่งงานกันแล้ว สังคมไทยต้องมีคนอย่างศรีสุวรรณ ผมจะอยู่ถึง 120 ปี เพื่อเล่นงานพรรคการเมืองต่างๆ อย่างนี้
ขั้วไหน?
ศรีสุวรรณ : ทุกขั้ว
จะไม่เลิกร้อง?
ศรีสุวรรณ : ถูกต้อง
ไม่พูดถึงเขาสักนิดเลยเหรอ?
ศรีสุวรรณ : พี่หนุ่มก็มาคะยั้นคะยอ ไม่ให้ค่า
ทศพล : คนแบบนี้ไม่มีค่าอะไรแล้ว
ศรีสุวรรณ : ขอบคุณพี่หนุ่มที่เชิญมา ทำให้ผมได้เพิ่มไปอีก 1 คดี
ทศพล : ไม่มีน้ำยาแล้ว ประชาชนเขาเกลียด รังเกียจทั่วประเทศ ไปดูโซเชียลสิ
ศรีสุวรรณ : ไม่ตอบโต้
ทศพล : เขารังเกียจขนาดไหน แต่เขาหาโอกาสไม่ได้
เขาจะอยู่ 120 ปี พี่จะอยู่อีกกี่ปี?
ทศพล : ผมอยู่ได้ทุกวัน อยากเจอ ตัวต่อตัวยังได้เลย ผมเกินกว่านั้นอีก ขนาดท้าแล้วยังไม่ไปเลย
VV
V