อดีตภรรยาเสี่ยปาน เปิดใจ หลังครอบครัวฝ่ายชายผิดสัญญาพินัยกรรม
แต่เรื่องดูจะวุ่นวายเกิดขึ้นไม่จบ เมื่ออดีตภรรยาเสี่ยปานออกมาเรียกร้องขอความยุติธรรมให้กับลูกชายคือ น้องเกาลัด วัย 8 ขวบที่เป็นลูกชายของเสี่ยปาน ตอนนี้ไม่ได้ค่าเลี้ยงดูเดือนละ 7,000 บาทและเงินตามพินัยกรรมที่เขียนไว้แล้วอีก 2 ล้านบาท หลังจากเสี่ยปานเสียชีวิตไปแล้ว
"บ้านและที่ดิน 10 ไร่ที่เป็นที่ตั้งบ้านขุนวรเดช ให้ผู้จัดการมรดกเป็นผู้ขาย จำหน่ายถ่ายโอน แล้วนำเงินที่ได้จากการขาย แบ่งให้น้องเกาลัด ซึ่งเป็นลูกชายเสี่ยปาน 3,000,000 บาท โดยแบ่งเป็นเงินสด 2,000,000 บาท โอนเข้าบัญชี ส่วนอีก 1,000,000 บาทให้โอนให้ลูกชาย เดือนละ 7,000 บาทไปจนกว่าจะครบ 20 ปีบริบูรณ์"
น.ส.เสาวณีย์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่อดีตสามีเสียชีวิตในวันที่ 13 พ.ค.65 จากนั้นในวันที่ 25 พ.ค.65 ทนายความอ่านพินัยกรรมที่อดีตสามีเขียนไว้ หลังจากนั้นพี่สาวอดีตสามีก็รับปากจะทำตามสัญญาในพินัยกรรมคือ ส่งเงินให้น้องเกาลัดเดือนละ 7,000 บาท และเงินสดจากการขายที่ดินอีก 2,000,000 บาทเข้าบัญชี แต่ปราฏว่ากว่า 6 เดือนแล้วลูกชายไม่ได้รับเงินเดือนละ 7,000 บาทจากพี่สาวเสี่ยปานที่เป็นคนดูแลมรดกเลย และเงิน 2,000,000 บาที่ได้จากการขายที่ดินก็ไม่ได้
"ที่หนูไม่สบายใจอย่างมากตั้งแต่อดีตสามีเสียชีวิต ลูกชายไม่ได้รับอะไรเลย โทรไปคุยกับป้าแล้วก็บอกเขาไปว่า อย่าทำอะไรหนูกับลูกนะ ทางป้าก็บอกว่าไม่ทำหรอก กลัวบาปเป็นเวรเป็นกรรมเหมือนกัน แต่พอหลังจากอดีตสามีเสียชีวิต เขาก็ไม่ทำตามพินัยกรรม และแอบขายที่ดินโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้าตามที่ตกลงกันไว้ หนูไปรู้ เพราะมีชาวบ้านมาแจ้งข่าวและพอไปขอดูเอกสารที่ดินปรากฎว่าขายหมดแล้วจริงๆ และโทรไปหาอีกครั้งเขาบอกว่าเงินหมดแล้ว หากอยากได้ให้ไปฟ้องเอา หนูอยากเรียกร้องให้ลูกชายคนเดียวของอดีตสามีเท่านั้น จำนวน 3 ล้านบาทตามพินัยกรรม ส่วนที่เหลือเงินบัญชีที่มีข่าวว่ามีเงิน 10 ล้านบาท สร้อยคอทองคำ หรือทรัพย์สินอื่นๆ หนูก็ไม่ไปยุ่งเกี่ยว ขอเรียกร้องสิทธิที่ลูกชายคนเดียวของเขาพึงจะได้" น.ส.มดกล่าวตอนท้าย
ล่าสุดผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังน.ส.สุธีรา แก้วสวนจิก พี่สาวเสี่ยปาน ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกที่บอกว่าไปทำงานร้านอาหารช่วยเพื่อนที่จ.ภูเก็ต ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้แล้วในขณะนี้