จ่อฟ้องครอบครัวเด็ก15 ซิ่งบีเอ็มชนบัณฑิตดับ คาดจำนวนเงินเรียกค่าเสียหาย
ทั้งนี้นายวีระศักดิ์ บุญเพลิง กรรมการบริหารสภาทนายความภาค 3 กล่าวว่า เรื่องนี้ตั้งแต่กระบวนการเริ่มต้น สภาทนายความได้ส่งทนายความอาสาไปดูแลตั้งแต่กระบวนการพนักงานสอบสวน เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรมที่สุดเท่าที่จะมีสิทธิ์ทางกฎหมาย เพราะในขณะนั้นกระแสสังคมมีความกังวลว่าผู้ก่อเหตุเป็นผู้เยาว์และที่บ้านมีฐานะ เกรงว่าผู้เสียหายจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
นายวีระศักดิ์ กล่าวต่อว่า ทางศาลได้ออกมาตรการควบคุมเด็กภายในระยะเวลา 3 ปีนับแต่ศาลมีคำสั่ง ให้รายงานตัวทุก 3 เดือน จะต้องทำกิจกรรมสาธารณะต่างๆ ตามแผนฟื้นฟูเป็นเวลา 3 ปีต่อเนื่องกัน ห้ามขับรถยนต์ทุกชนิดจนกว่าจะมีใบขับขี่ ห้ามยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและต้องมีการรายงานผลการศึกษาอย่างต่อเนื่อง หากมีการเดินทางไปต่างประเทศต้องมีการรายงานต่อศาลทุกครั้ง และศาลจะพิจารณาผลอีกครั้งหนึ่งในปี พ.ศ.2569 ถ้ามีการฝ่าฝืนศาลจะยกคดีขึ้นมาพิพากษา หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ นี่คือในส่วนของอาญาที่เราได้เข้าไปช่วย
นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนของการเจรจาค่าเสียหาย ปรากฏว่าไม่สามารถตกลงกันได้ ซึ่งในชั้นของคดีอาญาได้เสนอวางเงินเพื่อเยียวยาจำนวน 860,000 บาท อ้างว่าเป็นจำนวนที่เขาสามารถหามาให้ได้ แต่ครอบครัวของนายธนพลผู้เสียหายมองว่าการสูญเสียครั้งนี้เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ เพราะนายธนพล จบวิศวกรรมด้านโทรคมนาคม และเริ่มมีรายได้ประจำเป็นจำนวน 30,000-40,000 บาท และมีการส่งเงินกลับมาให้ทางครอบครัว
นายวีระศักดิ์ กล่าวอีกว่า การปล่อยปละละเลยให้เด็กขับขี่รถยนต์โดยไม่มีใบขับขี่และไปในช่วงเวลาค่ำคืน เป็นสิ่งที่ทีมทนายความของเราเห็นว่าน่าจะเข้าข่ายส่วนความผิดละเมิด ในฐานะที่เป็นผู้ดูแล เราจะดำเนินการฟ้องคดีนี้ภายใน 7 วัน ส่วนมูลค่าความเสียหายก็ไม่น้อยกว่า 15 ล้าน นี่เป็นตัวเลขที่ประมาณการ คิดคำนวณจากในอนาคตถ้าน้องยังอยู่จะทำประโยชน์ที่ทางคุณพ่อแม่ของน้องเต้ควรได้รับจนกว่าท่านจะมีอายุถึง 70- 80 ปี หากเสียชีวิตยังอยู่คิดว่าน่าจะสร้างรายได้ตามจำนวนที่ปรากฏอย่างสมเหตุสมผล