เอ๋ ปารีณา งานเข้าเต็มๆถูกสั่งจำคุก16เดือนหลังเเพ้คดีคนนี้

หากใครที่ติดตามข่าวการเมืองมาอย่างยาวนานจะทราบได้ว่า เอ๋ ปารีณา และ ครูใหญ่ อรรถพล นั้นมีกรณีพิพาทกันมาอยู่ตลอดตั้งแต่ช่วงปี 63 โดยมีการฟ้องร้องเกี่ยวกับคดีหมิ่นประมาทซะส่วนใหญ่ ซึ่งในตอนนั้นทั้งคู่ก็ได้ออกมาโต้แย้งกันผ่านโซเชียลมีเดียบ่อยๆ จนทำให้เป็นเรื่องที่ฟ้องกันไปกันมาจนไม่รู้ว่าคดีไหนคือคดีไหนนานนับ 2 ปี

ล่าสุด 22 ก.พ. 66 ทนายของ ครูใหญ่ อรรถพล นั้นได้ออกมารายงานว่า ครูใหญ่ เป็นผู้ชนะในคดีหมิ่นประมาท โดยทางทนายนั้นได้ระบุข้อความว่า คดีนี้ผมได้เป็นทนายโจทก์ให้กับ ครูใหญ่ อรรถพล บัวพัฒน์ - Attapon Buapatว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่นพรรคก้าวไกล ฟ้องดำเนินคดีกับคุณปารีณา ไกรคุปต์ จำเลย ซึ่งอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคพลังประชารัฐ ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ศาลได้มีคำพิพากษาให้โจทก์เป็นฝ่ายชนะคดี

เอ๋ ปารีณา แพ้คดี ครูใหญ่ อรรถพล
-ลงโทษจำคุกคุณปารีณาฯ 16 เดือน ปรับ 80,000 บาท รอลงอาญา 2 ปี
-ให้คุณปารีณาโฆษณาคำพิพากษาของศาลในหนังสือพิมพ์อย่างน้อย 2 ฉบับเป็นระยะเวลา 3 วัน ต่อเนื่องกัน
-ให้คุณปารีณาชดใช้ค่าเสียหายให้กับโจทก์เป็นเงิน 100,000 บาท

โดยทางทนายนั้นได้ทิ้งเอกสารการยื่นฟ้องเพิ่มเติมเพื่อให้สังคมได้นำมาเป็นความรู้ ซึ่งหนึ่งในข้อความดังกล่าวนั้นมีส่วนที่บอกว่าศาลตัดสินส่าอย่างไรบ้าง ดังนี้

พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิด ไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 จำคุกกระทงละ 1 ปี และปรับกระทงละ 60,00 บาท ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกกระทงละ 8 เดือน และปรับกระทงละ 40,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 16 เดือน และปรับ 80,000 บาท ไม่ปรากฎจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29,30 ให้จำเลยโฆษณาคำพิพากษาของศาลบางส่วน พอได้ใจความในหน้าใดก็ได้ในหนังสือพิมพ์รายวันอย่างน้อยสองฉบับตามรายชื่อหนังสือพิมพ์ที่โจทก์

ขอไว้ท้ายคำฟ้องเป็นระยะเวลา 3 วัน ต่อเนื่องกัน โดยให้จำเลยเป็นผู้ชำระค่าใช้จ่ายหากจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้โจทก์เป็นผู้ดำเนินการโฆษณาแทน โดยให้จำเลยเป็นผู้ชำระค่าใช้จ่ายให้จำเลยชำระเงิน 10,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับถัดจากวันฟ้อง