ทลายโรงงานลูกชิ้นเถื่อนส่งทั่วกทม.-ปริมณฑล ช็อกเด็กกินแล้วเข้า รพ.
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ ทลายโรงงานลูกชิ้นเถื่อนส่งทั่วกทม.-ปริมณฑล ช็อกเด็กกินแล้วเข้า รพ.
ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. , สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติงาน กรณีทลายโรงงานลูกชิ้นเถื่อน ต.คลองหลวง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ตรวจยึดอายัดของกลางกว่า 20 รายการ
สืบเนื่องจากเมื่อประมาณปลายเดือน ม.ค.2565 ปรากฏข่าวมีเด็กจำนวน 6 คน ได้รับประทานไส้กรอกไม่มียี่ห้อ แล้วมีอาหารคลื่นไส้ เวียนศีรษะ หายใจเร็ว และเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล จากเหตุการณ์ดังกล่าว ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ อย. สืบหาแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว นำไปสู่การร่วมกับ อย. นำกำลังเข้าตรวจค้นโรงงานแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 ยึดอายัดของกลาง 32 รายการ มูลค่า กว่า 700,000 บาท
จากเหตุการณ์ดังกล่าว จึงนำมาสู่การมาตรการเชิงรุก เพื่อป้องกันเหตุไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นอีก โดยมีการติดตามเฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อาหารที่มีความเสี่ยงต่อผู้บริโภค ที่อาจซื้อมารับประทานและได้รับอันตรายแก่ร่างกายหรือเสียชีวิต
ต่อมาจากการสืบสวนหาข่าว พบว่ามีโรงงานผลิตลูกชิ้นเถื่อนแห่งหนึ่ง ย่าน จ.ปทุมธานี มีการลักลอบผลิตลูกชิ้นหมูจำนวนมากในสถานที่ไม่ถูกสุขลักษณะ แพ็คบรรจุส่งขายตามตลาดนัดใน กรุงเทพฯ และปริมณฑลหลายแห่ง ตำรวจจึงลงพื้นที่สืบสวนทราบถึงแหล่งผลิตลูกชิ้นดังกล่าว
โดยวันที่ 16 ก.พ.2566 สนธิกำลังกับ เจ้าหน้าที่ อย. นำหมายค้นศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 48/2566 ลงวันที่ 16 ก.พ. 2566 เข้าทำการตรวจค้นโกดังเก่าที่ดัดแปลงเป็นโรงงานผลิตลูกชิ้น หมู่ 2 ต.คลอง 4 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พบนายสัมฤทธิ์ แสดงตนเป็นเจ้าของกิจการผลิตผลิตภัณฑ์ลูกชิ้นยี่ห้อหนึ่ง โดยได้ตรวจยึดของกลาง ผลิตภัณฑ์ลูกชิ้นบรรจุถุงกว่า 30 ถุง , เนื้อไก่และเนื้อหมูสดที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิต , สารกันบูด (วัตถุกันเสีย) จำนวน 12 กิโลกรัม , บรรจุภัณฑ์และส่วนผสมต่าง ๆ ที่เป็นความผิด ตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 กว่า 20 รายการ รวมถึงได้ปิดโรงงานและอายัดผลิตภัณฑ์ลูกชิ้น , เนื้อสัตว์ที่กำลังแปรรูป , ส่วนผสมต่าง ๆ และเครื่องจักรในการผลิต อีก 3 รายการ
การตรวจค้นครั้งนี้พบอีกว่า กระบวนการผลิตลูกชิ้นหมูดังกล่าวขาดสุขลักษณะไม่ผ่านเกณฑ์ตามที่กฎหมายกำหนด โดยผลิตภัณฑ์ลูกชิ้นหมูที่มีการโฆษณาว่าเป็นเนื้อหมูแท้นั้น เจ้าของโรงงานได้ลักลอบนำเนื้อไก่มาผสมกับเนื้อหมูเพื่อเป็นการลดต้นทุนในการผลิต ทำให้ผู้บริโภคเกิดความเข้าใจผิดและ อาจซื้อไปบริโภคได้โดยไม่ทราบถึงส่วนผสมที่แท้จริงของอาหารที่รับประทานเข้าไป
และจากการตรวจสอบสถานที่ผลิตแห่งนี้ตามหลักเกณฑ์ GMP พบว่าไม่ผ่านเกณฑ์ และพบว่าโรงงานดังกล่าว ไม่มีการควบคุมการผลิตในกรณีที่มีการใช้วัตถุเจือปนอาหาร อย่างเหมาะสม อีกทั้งขั้นตอนการผลิตไม่เข้าข่ายโรงงานตามกฎหมาย โดยจากการนำส่วนผสมที่พบในโรงงานมาตรวจสอบกับชุดทดสอบสารปนเปื้อนบอกแรกซ์ในเบื้องต้น พบผลเป็นบวก สันนิษฐานว่าผลิตภัณฑ์ลูกชิ้นที่ผลิตในโรงงานดังกล่าวอาจมีสาร บอแรกซ์ปนเปื้อนอยู่ในลูกชิ้นที่ส่งขายให้กับผู้บริโภค
และจากการตรวจสอบสถานที่ผลิตแห่งนี้ตามหลักเกณฑ์ GMP พบว่าไม่ผ่านเกณฑ์ และพบว่าโรงงานดังกล่าว ไม่มีการควบคุมการผลิตในกรณีที่มีการใช้วัตถุเจือปนอาหาร อย่างเหมาะสม อีกทั้งขั้นตอนการผลิตไม่เข้าข่ายโรงงานตามกฎหมาย โดยจากการนำส่วนผสมที่พบในโรงงานมาตรวจสอบกับชุดทดสอบสารปนเปื้อนบอกแรกซ์ในเบื้องต้น พบผลเป็นบวก สันนิษฐานว่าผลิตภัณฑ์ลูกชิ้นที่ผลิตในโรงงานดังกล่าวอาจมีสาร บอแรกซ์ปนเปื้อนอยู่ในลูกชิ้นที่ส่งขายให้กับผู้บริโภค
นายสัมฤทธ์ รับว่า การผลิตลูกชิ้นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากจาก อย.และ สสจ.ปทุมธานี แต่อย่างใด โดยลูกชิ้นหมูยี่ห้อดังกล่าวไม่แสดงเลขสารบบอาหาร (ไม่ผ่าน อย.) โดยเนื้อหมูและเนื้อไก่ที่ใช้เป็นวัตถุดิบซื้อมาจากตลาดนัดทั่วไป ส่วนสารกันบูดนั้น ซื้อมาจากร้านค้าแห่งหนึ่งย่านเขตจตุจักร กรุงเทพฯ จากนั้นจะนำส่วนผสมต่าง ๆ มาผลิตเป็นลูกชิ้นที่ไม่ได้มาตรฐาน ส่งขายให้ลูกค้าตามตลาดสดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จ.ปทุมธานี , จ.นนทบุรี และ จ. สมุทรปราการ กว่า 41 แห่ง โดยทำมาแล้วเป็นเวลา 2 ปี โดยจำหน่ายผลิตภัณฑ์ลูกชิ้นวันละประมาณ 300 - 800 กิโลกรัม
จากการตรวจสอบบัญชีลูกค้าเพิ่มเติมพบหลักฐานบิลใบเสร็จลงวันที่ 15 ก.พ. 2566 มีการส่งลูกชิ้นไปยัง รร.นานาชาติแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี จำนวน 65 กิโลกรัม โดยในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งประสานไปยังโรงเรียนดังกล่าวให้งดการนำลูกชิ้นหมูดังกล่าวมาประกอบอาหารให้กับเด็กนักเรียนแล้ว
เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522
1. ฐาน "ผลิตอาหารปลอม" ระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสิบปี และปรับตั้งแต่ห้าพันบาทถึงหนึ่งแสนบาท
2. ฐาน"ผลิตเพื่อจำหน่ายอาหาร โดยสถานที่ผลิตอาหารไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์วิธีการผลิตที่ดี (GMP)" ระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
3. ฐาน "ผลิตเพื่อจำหน่ายอาหารที่แสดงฉลากไม่ถูกต้อง" ระวางโทษปรับไม่เกินสามหมื่นบาท
ทั้งนี้ได้เก็บตัวอย่างอาหารเพื่อส่งตรวจวิเคราะห์ หาสารบอแรกซ์ ชนิดและปริมาณวัตถุกันเสีย และจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรค ณ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หากพบสารต้องห้ามในอาหารเพิ่มเติม จะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 ฐาน "ผลิตอาหารไม่บริสุทธิ์" ระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น