ดูเลย! โฆษณาสินค้าเกินจริง คำไหนห้ามใช้บ้าง จะได้ไม่โดนปรับ-ติดคุก


 ดูเลย! โฆษณาสินค้าเกินจริง คำไหนห้ามใช้บ้าง จะได้ไม่โดนปรับ-ติดคุก


วันที่ 5 ก.พ.2566 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เพื่อให้การโฆษณาสินค้าเป็นธรรมแก่ผู้บริโภค ไม่ใช้คำอวดอ้างสรรพคุณที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ รวมถึงสาระกฎหมายมีความทันสมัย สอดคล้องกับสถานการณ์สื่อที่มีหลายช่องทาง

สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จึงได้ออกประกาศคณะกรรมการว่าด้วยการโฆษณา เรื่อง แนวทางการใช้ข้อความโฆษณาที่มีลักษณะเป็นการยืนยันข้อเท็จจริงอันยากแก่การพิสูจน์ และแนวทางการพิสูจน์เพื่อแสดงความจริงเกี่ยวกับข้อความโฆษณา พ.ศ.2565 มีผลใช้บังคับตั้งแต่ วันที่ 13 ม.ค. 66

ซึ่งมีสาระสำคัญ อาทิ การใช้ข้อความโฆษณาไม่ว่าจะกระทำทางสื่อโฆษณาใดก็ตาม จะต้องมีข้อความเป็นภาษาไทยที่สามารถเห็น ฟัง หรืออ่านได้ชัดเจนตามประเภทของสื่อโฆษณา ไม่ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ ถ้าข้อความโฆษณาทำเป็นภาษาต่างประเทศ ต้องมีคำแปลภาษาไทยกำกับข้อความที่เป็นสาระสำคัญด้วยทุกครั้ง




มากไปกว่านั้น ในประกาศ ยังห้ามไม่ให้มีข้อความปัดความรับผิดชอบหรือสงวนสิทธิ์การเปลี่ยนแปลงต่างๆ อาทิ

(1) สงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า โดยเฉพาะเรื่องของราคาและตัวสินค้า ตัวอย่างข้อความที่อาจจะเข้าข่าย เช่น บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงราคาและเงื่อนไขโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า, ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้า, ภาพสินค้าเป็นเพียงตัวอย่างอาจไม่ตรงกับรุ่นที่จัดโปรโมชั่นหรือข้อความอย่างอื่นที่มีลักษณะในทำนองเดียวกัน

(2) ข้อความเสริมบารมี เพิ่มยอดขาย เพิ่มเสน่ห์ เรียกคนรัก แก้เคราะห์ แก้กรรม

(3) ข้อความที่เน้นเจาะเรื่องความเชื่อส่วนบุคคล หรือเจาะกลุ่มคนที่กำลังมีปัญหาและความทุกข์ ต้องการที่พึ่งทางใจ เรียกว่าเป็นกลุ่มที่มีความเปราะบาง อาจจะหลงเชื่อได้ง่าย ตัวอย่างข้อความที่อาจจะเข้าข่าย เช่น เมื่อใช้แล้วจะเห็นผลทันที เห็นผลภายใน 7 วัน รับทำพิธีเรียกคนรักกลับคืนมา รับแก้เคราะห์ แก้กรรม เสริมบารมี เพิ่มยอดขาย เพิ่มเสน่ห์ ใครเห็นใครรัก

(4) หากใช้ข้อความที่มีการเปรียบเทียบกับคู่แข่งหรืออ้างอิงผลวิจัย สถิติ ต่างๆ ต้องมีข้อมูลยืนยันชัดเจน และเมื่อถูกเรียกตรวจสอบในการพิสูจน์ข้อความโฆษณาต้องรวบรวมหลักฐานดำเนินการภายใน 15 วัน




น.ส.รัชดา กล่าวต่อว่า หากคณะกรรมการว่าด้วยการโฆษณาเห็นว่ามีเหตุอันควรสงสัยว่าข้อความใดที่ใช้ในการโฆษณาเป็นเท็จหรือเกินความจริงดังกล่าว คณะกรรมการฯ อาจออกคำสั่งให้นำข้อมูลมาพิสูจน์เพื่อแสดงความจริงได้ และในกรณีเร่งด่วน คณะกรรมการฯจะออกคำสั่งระงับการโฆษณาดังกล่าวเป็นการชั่วคราวจนกว่าจะทราบผลการพิสูจน์ได้

ทั้งนี้ ผู้ที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และประชาชนสามารถแจ้งเรื่องร้องเรียนได้ที่ สายด่วน สคบ. 1166 ซึ่งในปี 65 เรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับโฆษณา มีจำนวน 2,764 เรื่อง



เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
คุณ : พูดความจริง
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 1.47.157.245

1.47.157.245,,1.47.157.245 ความคิดเห็นที่ 1 [อ้างอิง]
กฏหมายไทยนับวันยิ่งโหด แต่ข้าราชการก็ยังรีดไถ โกงกิน ไปออกฏหมายจัดการพวกข้าราชการที่เบิกเงินภาษีไปใช้บ้างสิ เบิกไปกินเปล่ากันเยอะแยะ แบบนั้น เข้าข่ายทุจริตฉ้อโกง งบประมาณภาษีประชาชน


[ วันอาทิตย์ ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 11:07 น. ]
คุณ : 8 ปีแล้ว พอเถอะนะ
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 58.10.221.93

58.10.221.93,,cm-58-10-221-93.revip7.asianet.co.th ความคิดเห็นที่ 2 [อ้างอิง]
"ท็อปฟอร์ม”ตั้งฉายาให้“ลุง”ได้เจ็บสุดในพี่น้อง 3 ป.ว่า “แปดเปื้อน”


[ วันจันทร์ ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 18:35 น. ]
คุณ : me
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 203.151.136.238

203.151.136.238,,238.136.151.203.sta.inet.co.th ความคิดเห็นที่ 6 [อ้างอิง]
wellcome


[ วันอาทิตย์ ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 11:24 น. ]
รวมข่าวในกระแส คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์