ครูบาไก่ตอบแล้วคลิปฉาวตอกเสาเข็ม เรื่องจริงเป็นแบบนี้...

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 26 ม.ค.2566 ที่พักสงฆ์วัดป่าปฐมเทวาราม บ้านป่าผุ ต.สวนหม่อน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น พระสุวิทย์ ชินวโร หรือ ครูบาไก่ กล่าวถึงกรณี นางคมคาย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี, น.ส.วาสนา (ขอสงวนนามสกุล) หรือ อิคคิว อายุ 34 ปี ร้องเรียนกองบังคับการปราบปราม และ ปปง. เพื่อให้ตรวจสอบกรณีกล่าวหาว่า วัดบุกรุกที่ป่าไม้ และคลิปชายคนหนึ่งโกนผมโกนคิ้วระบุว่า เป็นครูบาไก่กำลังมีเพศสัมพันธุ์กับผู้ชาย

พระสุวิทย์ กล่าวว่า กรณีที่มีคลิปชายคนหนึ่งลักษณะเหมือนพระสงฆ์กำลังตอกเสาเข็มอยู่นั้น เห็นคลิปตั้งแต่ก่อนจะมีการออกข่าว โดยมีลูกศิษย์นำมาให้ดู ซึ่งก็ได้คุยกับลูกศิษย์อยู่ว่า เขาจะกล้าเอาคลิปอันนี้มาเผยแพร่จริงหรือไม่ เพราะไม่ใช่ตัวเอง ซึ่งก็นำออกมาจริง ๆ แต่ยืนยันว่าไม่ใช่ตัวเองอย่างแน่นอน อ่าน

"กรณีที่มีคลิปออกมานั้น ทางลูกศิษย์ได้นำมาให้ดูก่อนจะเป็นข่าว ยืนยันไม่ใช่ตัวเอง ส่วนหลักฐานทุกอย่างที่ทางอิคคิวนำไปร้องเรียนนั้น อาตมาก็มีหลักฐานทุกอย่างที่พร้อมจะให้ตรวจสอบและพร้อมที่จะมาชี้แจงทุกอย่าง และไม่กังวลกับสิ่งที่ทางอิคคิวนำหลักฐานทุกอย่างมาร้องเรียน เพราะอาตมาก็ไม่ได้ทำอะไร ทุกอย่างให้ดำเนินการไปตามกฎหมาย" ครูบาไก่ กล่าว

พระสุวิทย์ กล่าวต่อว่า กรณีการเปิดรับบริจาคสร้างท้าวเวสสุวรรณนั้น ขณะนั้นทางอิคคิว และบุ๋ม ได้มาขอเป็นเจ้าภาพเพื่อสร้างท้าวเวสสุวรรณ 2 ตน สูง 8 เมตร พร้อมกับศาลา ตอนนั้นนึกว่าทั้งสองคนจะนำเงินตัวเองมาสร้าง สุดท้ายเป็นการร่วมทำบุญใครสนใจที่จะสร้าง ก็ร่วมบริจาคเข้ามาในบัญชีอิคคิว จนถึงปัจจุบันก็ไม่เห็นมีการก่อขึ้น มีเพียงเสาเข็มอย่างที่เห็น

พระสุวิทย์ กล่าวอีกว่า ส่วนเงินที่ได้จากการบริจาค มีการอ้างว่า โอนเข้ามาในบัญชีวัดนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะบัญชีนั้นเป็นของอิคคิว เงินก็ต้องเข้าบัญชีอิคคิว ทางวัดเป็นแค่สถานที่ ถมดินขุดสระเท่านั้น งบประมาณ 400,000 บาทของทางวัด ส่วนการสร้างท้าวเวสสุวรรณกับศาลานั้น ทางอิคคิวจะเป็นคนสร้างเองทั้งหมด

ครูบาไก่ตอบแล้วคลิปฉาวตอกเสาเข็ม เรื่องจริงเป็นแบบนี้...

พระสุวิทย์ กล่าวด้วยว่า วัดมีหลักฐานยืนยันชัดเจนตั้งแต่บุกเบิกหาที่ดินจนมาถึงการสร้างในปัจจุบันมีหลักฐานในการทำทุกขั้นตอนถูกต้องทั้งหมด เรื่องดังกล่าวจึงคิดว่าไม่มีความผิด เพราะไม่ได้ตั้งอยู่ในเขตของป่าไม้ ตามที่ถูกร้องเรียน เพราะมีขอบเขตแบ่งแนว โดยทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ทำการออกรังวัดเอาไว้ก่อนหน้านี้เพราะมีเรื่องร้องเรียนมาก่อนแล้วก่อนที่จะมาสร้างที่พักสงฆ์แห่งนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ก็ได้มีการตรวจสอบแล้ว ยืนยันได้ว่าอยู่นอกเขตป่าไม้ พร้อมทั้งปักแนวเขตอย่างเรียบร้อยโดยมีป่าเป็นแนวเขต

"ครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่ 2 ที่มีการร้องเรียนเรื่องเดิม ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ลงมาตรวจสอบเหมือนเดิมและถือเป็นการดีที่มีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบพิสูจน์อีกครั้ง จะได้รู้แน่ชัดไปเลยว่าแนวเขตปัจจุบันนั้นถูกต้องหรือไม่ วัดได้ลุกล้ำที่ป่าไม้หรือไม่ หรือทำถูกต้องทั้งหมดแล้ว เรื่องดังกล่าวจะได้ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งช่วงที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ลงพื้นที่ตรวจสอบครั้งแรกนั้น ได้แนะนำว่าห้ามก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ภายในเขตป่าไม้ เรื่องนี้ทางวัดก็ทราบดี เพราะเป็นเรื่องของกฎหมาย คงไม่มีใครอยากทำผิดกฎหมายอย่างแน่นอน" ครูบาไก่ กล่าว

พระสุวิทย์ กล่าวว่า โดยสิ่งปลูกสร้างที่สร้างอยู่ปัจจุบันนี้อยู่นอกเขตของป่าไม้ โดยเป็นที่ดิน สปก. ที่ชาวบ้านได้ถวายให้วัดได้สร้าง บริเวณที่สร้างวิหารนั้นก็มีโฉนดถูกต้องโดยญาติโยมสายบุญผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันซื้อถวายให้กับวัดเพื่อทำนุบำรุงพุทธศาสนา ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องรอทางเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบยืนยันแนวเขตอีกครั้งหนึ่ง

พระสุวิทย์ กล่าวต่อว่า พื้นที่วัดไม่ถึง 100 ไร่ ตรงที่นำไปร้องเรียนเป็นที่ สปก. เนื้อที่ 31 ไร่ ซึ่งเจ้าหน้าที่เคยแนะนำอยู่ว่าหากจะสร้างวัดก็สามารถทำได้ โดยจะแบ่งที่ สปก.ให้ 15 ไร่ตามระเบียบกฎหมายที่กำหนดในการสร้างวัด แต่ทางวัดใช้ที่ดินในการขอโฉนดสร้างวัดเป็นที่ดินคนละแปลงกับที่ สปก. โดยมีเนื้อที่ 12 ไร่ เป็นที่ดินใบจอง นส.2 ที่ชาวบ้านนำมาถวายให้วัด มีเอกสารสิทธิ์ครอบครองอย่างถูกต้อง

พระสุวิทย์ กล่าวอีกว่า กรณีที่สงสัยนั้น ส่วนตัวรู้อยู่แล้วว่าหากรุกล้ำในเขตป่าไม้เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย เริ่มแรกก็มีการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่รวมทั้งสอบถามว่า สามารถวัดได้ตรงไหนบ้างก็มีการแบ่งเขตชัดเจนจึงได้มีการสร้างขึ้น และที่ดินที่สร้างวัดนั้นมีทั้งที่ดินใบจอง นส.2 ที่ดินสปก.และที่ดินที่ญาติโยมร่วมทำบุญซื้อที่ดินมาถวาย ยืนยันว่าโปร่งใสตรวจสอบได้ทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 27 ม.ค.นี้ พนักงานสอบสวน สภ.มัญจาคีรี ได้เรียกทางอิคคิวและบุ๋มพร้อมลูกศิษย์อีก 2 คน มาสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหาตามที่ครูบาไก่ได้แต่งตั้งทนายเข้าแจ้งความเอาไว้ก่อนหน้านี