เสี่ยเบนท์ลีย์ เล่าวันเกิดเหตุ ลั่นอุบัติเหตุธรรมดา เป็นรถหรูผิดด้วยหรือ?
จากกรณีรถหรูเบนท์ลีย์เฉี่ยวชนรถยนต์ของผู้อื่น เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณบนทางพิเศษเฉลิมมหานคร กม.21+200B ขาออก แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม. ก่อนกลายเป็นกระแสขึ้นมา เนื่องจากคนขับรถหรูปฏิเสธไม่ยอมเป่าตรวจวัดแอลกอฮอล์ แต่ขอตรวจเลือดแทน ก่อนตำรวจจะออกมาชี้แจงแทนว่า
ส่วนขวดไวน์ที่เจอในรถหรูหลังเกิดเหตุนั้น นายสุทัศน์เล่าว่า ไม่ได้ดื่มในวันนั้น แต่ก่อนหน้านี้ไปกับเพื่อน 4 คน โดยแฟนเพื่อนอยากได้ขวดไวน์นี้ เพราะเป็นไวน์นำเข้าจากต่างประเทศ และเป็นขวดไวน์เปล่า โดยเพื่อนเป็นคนเอามาและลืมทิ้งไว้บนรถของตัวเอง ยืนยันวันนั้นไม่ได้ดื่มไวน์ด้วย โดยวันเกิดเหตุดื่มแชมเปญ 1 ขวดและดื่มกัน 4 คน ส่วนตัวดื่มไปเพียง 1-2 แก้ว และแก้วเล็กๆ
"ผมดูแลตัวเอง ดูแลร่างกายตัวเองและผู้หญิงที่บาดเจ็บ ผมผิดเหรอ ผมก็ไม่สบายใจที่เกิดอุบัติเหตุ โดยวันนี้ให้คนไปเยี่ยมคู่กรณี พร้อมเงินเยียวยา 1 แสนบาท เพราะตัวเองยังมีอาการเจ็บหน้าอกและมาหาหมออยู่ โดยยังฝากความห่วงใยไปด้วยว่า ให้สบายใจและพร้อมรับผิดชอบ เรื่องรถที่ชนหากใช้ไม่ได้ก็จะซื้อรถใหม่ให้"
นายสุทัศน์ กล่าวว่า ยืนยันทั้งหมดไม่ได้เมาและไม่ได้ปฏิเสธการขับ ส่วนภาพการเคี้ยวหมากฝรั่งนั้น เพราะลดอาการอยากบุหรี่ โดยพยายามเลิกอยู่ ตอนนั้นเครียดและอยากสูบบุหรี่มาก
"ความจริงเป็นอุบัติเหตุธรรมดา ถ้าผมขับแท็กซี่ ขับรถธรรมดาก็คงไม่มีอะไร เป็นรถหรูผิดด้วยหรือครับ อุบัติเหตุไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แล้วผมถามว่าค่าตรวจแอลกอฮอล์จากลมหายใจยังไม่ชัวร์ ตรวจจากเลือดชัวร์กว่า"