พยานซองเงินสดบนโต๊ะอธิบดีกรมอุทยานฯ ลั่นไม่ใช่ส่วยแค่เงินทำบุญ-เช่าพระ

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามหากการออกหมายเรียกครั้งนี้ยังไม่มีการตอบรับ ก็จำเป็นต้องทำการออกหมายเรียกเป็นครั้งที่สอง และถ้ายังไม่มีการตอบรับอีกนั้นก็อาจจำเป็นต้องมีการพิจารณาเดินทางไปสอบปากคำและทำการตรวจสอบหน่วยงานนั้นๆ รวมทั้งนำซองเงินของกลางไปตรวจพิสูจน์ทราบลายนิ้วมือแฝง และ ดีเอ็นเอ เพื่อพิสูจน์ทราบว่าใครเป็นเจ้าของซองเงินดังกล่าว ส่วนแนวทางคดีหลังรวบรวมพยานหลักฐานครบถ้วนก็จะเร่งนำส่ง ป.ป.ช. จากนั้นก็จะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาทำงานร่วมกัน โดยมี เจ้าหน้าที่จาก ป.ป.ท. และ ตำรวจ บก.ปปป. เข้าไปร่วมด้วย เพราะถือว่าเป็นคดีใหญ่อยู่ในความสนใจของสังคม การดำเนินการจำเป็นต้องทำด้วยความรอบครอบชัดเจน และ กระจ่างชัด ขณะที่ในส่วนของการตรวจสอบเส้นทางการเงินเพื่อขยายผลไปปลายทางเงินทั้งหมดนั้นไปถึงใครบ้าง ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

สำนักข่าวอิศรารายงานข่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับพยาน 1 ราย ที่เข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ตามหมายเรียกในวันนี้ เป็นเจ้าหน้าที่กรมอุทยานในพื้นที่ จ.ปัตตานี ซึ่งจากการสอบปากคำเบื้องต้นเจ้าตัวอ้างว่าซองเงินของกลางจำนวน 1 แสนบาท ที่มีการระบุหน้าซองปัตตานีนั้น เป็นเงินค่าเช่าพระและเงินค่าทำบุญ ไม่ใช่เงินสินบนแต่อย่างใด พร้อมกับนำรูปภาพขณะมอบพระมามอบให้พนักงานสอบสวนประกอบการพิจารณา แต่ทางเจ้าหน้าที่เองก็ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การทั้งหมดแต่อย่างใด