พระคนสนิทงัดหลักฐานยันไม่ใช่ครูบาไก่ หลังเจอปล่อยภาพลับ


พระคนสนิทงัดหลักฐานยันไม่ใช่ครูบาไก่ หลังเจอปล่อยภาพลับ


พระคนสนิท-ญาติโยม งัดหลักฐานยืนยันไม่ใช่ ครูบาไก่ หลังเจอปล่อยภาพลับ รุมแฉกลับคนปล่อยข่าว ไม่ใช่โยมอุปัฏฐาก แต่มาแสวงหาผลประโยชน์

จากกรณี อิคคิว อดีตโยมอุปัฏฐาก ได้นำภาพลับของผู้ชายที่ระบุว่า

เป็นพระเกจิชื่อดัง ส่งไปให้กับผู้ชายที่คบหากันเป็นแฟน พร้อมกับยืนยันว่ามีหลักฐานข้อความทุกอย่าง โดยอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 10 ม.ค.2566 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดป่าปฐมเทวาบูรพาราม บ้านป่าผุ ต.สวนหม่อน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น เพื่อขอพบกับ ครูบาไก่ เจ้าอาวาสวัด แต่พบเพียงพระลูกวัดและญาติโยมที่กำลังถวายภัตตาหารเพลอยู่ที่วัด โดยบอกว่า ครูบาไก่ติดกิจนิมนต์อยู่ยังไม่รู้ว่าจะกลับตอนไหน

โดยบรรยากาศมีชาวบ้านมาทำบุญตามปกติเหมือนทุกวัน แต่ไม่มีครูบาไก่มารับภัตตาหารเพลในวันนี้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็วิพากษ์วิจารณ์ถึงกรณีที่เกิดขึ้น ซึ่งทุกคนยืนยันว่าไม่ใช่ครูบาไก่ และในภาพก็ไม่รู้ขาใคร เพราะขาครูบาไก่จะมีรอยสักและนิ้วมือ รวมทั้งผิวพรรณก็ไม่ใช่แล้ว

พระคนสนิทงัดหลักฐานยันไม่ใช่ครูบาไก่ หลังเจอปล่อยภาพลับ

พระสหธรรมิก (ขอสงวนชื่อ) กล่าวว่า ส่วนตัวหลังจากที่ดูภาพบอกคำเดียวว่า ไม่เชื่อ 1,000,000% ยังไงก็ไม่ใช่ครูบาไก่ ดูจากทั้งผิวพรรณขาและมือก็ไม่ใช่ครูบาไก่ และเชื่อในความบริสุทธิ์ของครูบาไก่เพราะรู้จักกับครูบาไก่มานานตั้งแต่เริ่มมาสร้างวัดก็มาอยู่ด้วยกัน ส่วนรอยสักที่ข้อเท้า ครูบาไก่ก็สักมานานแล้ว เป็นรูปพญานาค ส่วนภาพที่มีการแชร์กันในโซเชียลนั้นไม่มีรอยสัก ซึ่งเรื่องดังกล่าวก็ขอปล่อยเป็นเวรเป็นกรรมแล้วแต่ใครจะเชื่อไม่เชื่อ ใครทำดีก็ได้ดี ใครทำชั่วก็ได้ชั่วรับกรรมไป

"ญาติโยมกรรมการวัดซึ่งทุกคนต่างไม่เชื่อ คิดว่าเป็นการใส่ร้ายจงใจมาทำลายศาสนา 100% เพราะสิ่งที่กระทำขึ้นนั้นไม่ใช่การปกป้องศาสนา แต่เป็นการจะทำร้ายศาสนา โดยเฉพาะครูบาไก่เองซึ่งการกระทำแบบนี้ใครก็ทำได้ เอาภาพใครมาใส่ก็ได้ เอาผ้าเหลืองมาปูก็ได้ เพราะผ้าเหลืองหาซื้อตามร้านทั่วไปได้ง่าย ถามทุกวันนี้มันสามารถตัดต่อกันได้ง่าย มันสารพัดที่จะทำการ หากตั้งใจจะทำลายพระพุทธศาสนาแล้ว" พระสหธรรมิก กล่าว

พระสหธรรมิก กล่าวต่อว่า ส่วนผู้ใกล้ชิดญาติโยม โดยเฉพาะบุคคลที่กล่าวหาว่าตัวเองเป็นโยมอุปัฏฐากนั้น เท่าที่เห็นก็มาอยู่ที่วัดประมาณ 2 ปี มีบุญมีงานก็จะมาร่วมก็จะเห็น 2 คนนี้ในช่วงที่มาอยู่ 2 ปี ยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นไปไม่ได้ 1,000,000% และเชื่อในความบริสุทธิ์ของครูบาไก่ และโยมอุปัฏฐากก็ต้องพาไปนู่นไปนี่ได้พาไปกิจนิมนต์ ถวายข้าวถวายน้ำเหมือนพ่อแก่แม่เฒ่าที่เป็นโยมอุปัฏฐากคนอื่น ๆ และเรื่องนี้ทุกคนที่อยู่วัด ญาติโยมต่าง ๆ ก็สงสัยว่า 2 คนนี้เข้ามามีจุดประสงค์อะไร

ด้าน นายสุรพล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 66 ปี ลูกศิษย์วัด กล่าวว่า
 ส่วนตัวไม่เชื่อเด็ดขาดและไม่เป็นความจริง ขอยืนยันต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เรื่องที่ถูกกล่าวหานั้นไม่เป็นความจริง ส่วนตัวดูแล้วว่า 2 คนที่กล่าวหานั้นไม่ใช่โยมอุปัฏฐาก ตนเคยพูดคุยเป็นเพียงคนมาทำบุญเหมือนคนอื่น ๆ ทั่วไป สิ่งที่กล่าวหาครูบาไก่นั้นคิดว่าจงใจหวังทำลายพุทธศาสนา โดยเฉพาะครูบาไก่อย่างชัดเจน

นายสุรพล กล่าวต่อว่า เรื่องที่ทำขึ้นมานั้นไม่ได้เป็นความจริงแม้แต่น้อย ทั้งรอยสักซึ่งครูบาไก่สักมานานแล้ว แต่ในภาพไม่มีรอยสัก ผิวพรรณนิ้วมือถ้าเป็นญาติโยมที่รู้จักมักคุ้นก็จะรู้ว่าไม่ใช่ผิวพรรณหรือนิ้วมือของครูบาไก่ พระครูบาเป็นคนมีเมตตา ใจดีนิสัยดีพาญาติโยมทำวัตรเป็นผู้ปฏิบัติดีด้วยท่านไม่เคยรังเกียจใคร สายบุญที่มาท่านต้อนรับหมด แต่จะมีสายบุญที่มาหวังผลประโยชน์มาหวังเอาทุกสิ่งทุกอย่างในตรงนี้จากวัดซึ่งมีเข้ามาเรื่อย ๆ

นายสุรพล กล่าวอีกว่า
 แต่ท่านครูบาทราบก็ไม่ว่าอะไร เมตตาทั้งหมด ทั้งกรรมการวัดญาติโยมทั้งหมดต่างแปลกใจว่าทำเรื่องดังกล่าวต้องการอะไร ทั้งที่พระครูบาเมตตาทุกสิ่งทุกอย่างให้ อยากจะฝากถึงคนที่จ้องทำลายครูบาไก่หรือพุทธศาสนาขอให้หยุด เพราะบาปบุญมีจริง เวรกรรมมีจริง ถ้าหากยังไม่หยุดชาวบ้านทุกคนก็พร้อมจะออกมาปกป้องดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด

นายสุรพล กล่าวว่า 
ภาพที่เห็นกับครูบาไก่นั้นคนละคนกัน ไม่รู้ว่าในภาพนั้นเป็นใคร แต่ครูบาไก่ไม่ใช่อย่างแน่นอน เพราะรอยสักครูบาไก่สักมานานแล้วแต่ในภาพนั้นไม่มี ยืนยันมั่นใจขอเอาหัวเป็นประกัน เพราะพระครูบาไก่เป็นคนผิวพรรณสวยงาม เรื่องแบบนี้ไม่มีทางที่พระครูบาไก่จะกระทำเด็ดขาด เพราะพระครูบาไก่ละเรื่องทางนี้ได้ทั้งหมดแล้ว


ขณะที่ นางมะลิ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 68 ปี ชาวบ้านที่มาทำบุญที่วัดเป็นประจำ กล่าวว่า เรื่องการทำเหรียญวัตถุมงคลนั้น ผู้ที่กล่าวหาไม่ใช่โยมอุปัฏฐาก แต่เป็นคนที่มาทำบุญเหมือนคนอื่น ๆ ทั่วไป และเรื่องวัตถุมงคลที่ทั้งคู่ทำขึ้นมานั้นทำจำนวน 3 ครั้ง เงินต่าง ๆ ที่ได้มาก็ครั้งละเป็น 1,000,000 บาท แต่เงินไม่เคยถึงวัดหรือนำมาทำบุญ เรื่องที่กล่าวหาครูบาไก่ทั้งเรื่องภาพเรื่องแชท เรื่องที่นำเงินบริจาคไปให้กับผู้ชายหรือผู้หญิงนั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

"การทำวัตถุมงคลนั้นตนเคยได้ยิน เพราะ 2 คนที่กล่าวหา ช่วงบนกระถินมีการพูดคุยกับญาติโยมว่าถ้าไม่นำเงินมาให้ก่อนก็จะไม่ได้วัตถุมงคล ซึ่งเรื่องนี้ทางวัดทางกรรมการไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย ที่รับรู้แน่คือ 3 ครั้งที่ทำแบบนี้ พอได้เงินก็เอาไปเลย เรื่องหลังคาพระวิหารที่มีคนบริจาคเงิน 1 ล้านบาท เพื่อทำบุญสร้างหลังคาพระวิหาร ยืนยันว่า ในส่วนของทางวัดไม่เคยมีเข้ามาแต่อย่างใด มีเพียง 2 คนที่รับทำเอาเองโดยที่วัดไม่มีใครรู้เรื่อง"
 นางมะลิ กล่าว

นางมะลิ กล่าวต่อว่า 
ทราบแค่ว่าจะนำมาทำบุญทำตรงนั้นตรงนี้แต่ไม่ได้บอกว่าจะมาทำบุญสร้างหลังคาหรือมาทำบุญในส่วนใด สุดท้ายพอได้เงินก้อนนี้ไป ทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยจะทำก็หยุดชะงักลงแถมยังไปบอกช่างว่าไม่ต้องมุงหลังคาแล้ว หยุดแล้ว ก่อนจะขนบ้านน็อกดาวน์หนีไปจนถึงปัจจุบันและมีเรื่องมากล่าวหาดังกล่าว

พระคนสนิทงัดหลักฐานยันไม่ใช่ครูบาไก่ หลังเจอปล่อยภาพลับ

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
คุณ : 2 ป. ยิ้มรับชิงเก้าอี้
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 58.10.221.148

58.10.221.148,,cm-58-10-221-148.revip7.asianet.co.th ความคิดเห็นที่ 1 [อ้างอิง]
“สมชัย” แซะอีเวนต์เปิดตัว “บิ๊กตู่” ส่อผิดกฎหมายเลือกตั้งอื้อ เข้าข่ายขนคน-จัดเลี้ยง-มีแสดงมหรสพ จับพิรุธประชุมทิพย์ ขู่ กกต.เกียร์ว่างระวังงานเข้า


[ วันพุธ ที่ 11 มกราคม 2566 เวลา 14:02 น. ]
คุณ : me
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 203.151.136.238

203.151.136.238,,238.136.151.203.sta.inet.co.th ความคิดเห็นที่ 4 [อ้างอิง]
wellcome


[ วันอาทิตย์ ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 11:24 น. ]
เช็คเบอร์มือถือ คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์