อนาถใจ นักเรียนเกาะหลีเป๊ะ ยกมือไหว้ขอร้องนายทุน เปิดทางเข้าออกร.ร.
ชาวบ้านเล่าว่า โรงเรียนบนเกาะหลีเป๊ะ มีนักเรียนกว่า 300 ชีวิต กำลังได้รับความเดือดร้อน หลังนายทุนซื้อที่ดินบนเกาะ แล้วสร้างรั้วเหล็กปิดกั้นพื้นที่ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวทับซ้อนกับทางสาธารณะที่เด็กๆ และชาวบ้านที่ต้องใช้ทางในการสัญจรเข้าออกโรงเรียน รวมทั้งเป็นทางเชื่อมต่อกับชายหาดและทะเล เด็กได้รับความลำบากในการไปโรงเรียน ถึงขั้นต้องมานั่งรวมตัวไหว้ขอนายทุนไม่ให้กั้นรั้วเพิ่ม ขอให้พวกตนได้ไปโรงเรียนกันตามปกติ
แรกเริ่มที่ดินของเจ้าของเดิม เอกสารสิทธิ์เป็น สค.1 มีพื้นที่ 51 ไร่ แต่พอมีการรังวัดใหม่ ออกเป็น นส.3 กลับบวมขึ้นมาเป็น 81 ไร่ แล้วรังวัดรอบต่อมากลายเป็น 143 ไร่ ไม่ทราบว่าที่เพิ่มขึ้นมามากมายขนาดนั้นได้อย่างไร จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบว่า การครอบครองที่ดิน ครอบครองเอกสารสิทธิ์ มันได้มาโดยชอบหรือไม่
แต่เบื้องต้นโดยเร็วที่สุด ในระหว่างที่ตรวจสอบ ทางชาวบ้านอยากให้ทางนายทุน ยกเลิกการปิดกั้นทางเข้าออกพื้นที่ก่อน เพราะชาวบ้านและนักเรียนต่างก็ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้
ทนายแก้วบอกว่า ต้องดูว่านายทุนสามารถปิดกั้นทางเข้าออกที่สาธารณะได้หรือไม่ เรื่องนี้เป็นเรื่องภาระจำยอม กฎหมายระบุว่าหากพื้นที่ภายในเป็นที่สาธารณะ นายทุนไม่มีสิทธิไปปิดกั้น ส่วนเรื่องฟ้องขับไล่ หากเขาเป็นเจ้าของสิทธิ์ในที่ดินตรงนั้น เขาก็มีสิทธิ์ฟ้องได้ แต่เราก็มีสิทธิ์สู้คดีเช่นกัน ซึ่งระหว่างสู้คดี ก็สามารถร้องขอให้มีการรื้อถอดรั้วที่ปิดกั้นอยู่ออกได้ด้วยเช่นกัน ต้องไปตรวจสอบว่าที่ดินของนายทุนที่ว่านี้ มันมีการซื้อขายโดยชอบด้วยกฎหมายด้วยหรือไม่ อย่างที่บอกว่า ต้นไม้พิษ ผลไม้มันก็ต้องเป็นพิษ ถ้าต้นทางมันผิด ปลายทางมันก็ต้องผิดด้วย