ฟังจากปากแม่แตงโม ปมเงิน 9.2 ล้าน ลั่นชัด ปอโรเบิร์ต เราเป็นแม่ลูกกัน

คุณแม่แตงโม ได้รับเงินชดเชยจากคนบนเรือสปีดโบ๊ทแล้ว 2 ล้าน จะแบ่งไว้ซื้อของแพง ๆ ใช้ เผย ถอนคำร้องเป็นโจทก์ร่วมคดีแพ่ง-อาญา ไม่ใช่เพราะอำนาจเงินเยียวยา 9.2 ล้าน ตัวเลขในใจ 30 ล้าน แต่เป็นไปไม่ได้ ตอนนี้ไม่ติดใจเหตุการเสียชีวิตแตงโม ปอ-โรเบิร์ต บอกแม่ไว้ ไม่ต้องกลัวขาดแคลนเงิน แม่จะซื้อหรือไปที่ไหน เดี๋ยวจัดให้อีก

ภายหลังจากที่ศาลจังหวัดนนทบุรี มีกำหนดนัดจำเลยทั้ง 6 คน ในคดีการเสียชีวิตของแตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ มารายงานตัว โดยเป็นการนัดสอบคำให้การจำเลย และคุ้มครองสิทธิ โดยจำเลยทั้ง 6 คน ได้มีการพูดคุยเจรจาไกล่เกลี่ยร่วมกันกับผู้เสียหาย คือ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน หรือคุณแม่ของแตงโม ซึ่งจำเลยตกลงทำสัญญากับคุณแม่ภนิดา ชดใช้ค่าเสียหายต่อหน้าศาล ในส่วนของคดีแพ่ง วางเงินสดและแคชเชียร์เช็ค 2 ใบ ต่อหน้าศาล รวม 2,000,000 บาท (แบ่งเป็นเงินสด 400,000 บาท และแคชเชียร์เช็ค 1,600,000 บาท) เงินรายเดือน ๆ ละ 30,000 บาท ระยะเวลา 20 ปี ไม่ตกต่อทายาท นอกจากนี้ ‘แซน-กระติก' มอบต่างหูมุก มูลค่าประมาณ 5 หมื่นบาท ให้เป็นกรณีพิเศษกับแม่ของแตงโม ด้วย

ล่าสุด นางภนิดา เปิดเผยทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ว่า ก่อนขึ้นศาล แม่อธิษฐานให้วิญญาณแตงโต มาฟังด้วย ทุกคนจะหาความยุติธรรมให้ ทุกอย่างราบรื่นดี อาจเป็นเพราะปอกับโรเบิร์ต ซึ่งเป็นจำเลย พูดไม่ยาก ทั้งสองเป็นคนดี เขาก็อยากให้เรื่องจบโดยเร็ว จะได้ตั้งหน้าตั้งตาทำธุรกิจต่อไป คุณแม่ก็อยากให้เรื่องจบ จะได้ช่วยให้เขาไปทำมาหากินกันเร็วๆ โดยในศาล จำเลยยังยืนยันว่าไม่เห็นตอนแตงโม พลัดตกเรือ

นางภนิดากล่าวว่า ในศาลส่วนมากเป็นการเจรจาไกล่เกลี่ยกันเรื่องชดใช้ค่าเสียหาย ซึ่งจำเลยทั้ง 6 คน ก็ยินดีจ่ายต่อหน้าศาลเลย ซึ่งก่อนจะมาที่ศาลจังหวัดนนทบุรี ทนายความของตนกับทนายความของจำเลย ได้พูดคุยกันมาก่อนแล้ว เราจะมาตกลงกันต่อหน้าศาลไม่ได้ มันจะเละหรือไม่ก็ทะเลาะกัน จึงตกลงกันล่วงหน้า 1 คืน พอถึงศาลทุกอย่างก็เรียบร้อย โดยทนายความของ ปอ ตนุภัทร และโรเบิร์ต พูดว่าขอจ่ายต่อหน้าศาลเลยได้มั้ยครับ จากนั้นมีการเซ็นเอกสารรับเงินเป็นลายลักษณ์อักษร ส่วนเงินรายเดือนๆ ละ 30,000 บาท จะโอนเข้าบัญชีทุกวันที่ 1 (เริ่ม 1 ต.ค.นี้)

นางภนิดา ยังเปิดเผยว่า ก่อนที่กระติก-แซน จะมอบต่างหูมุกให้นั้น แซนมากระซิบข้างหูว่ามีของขวัญให้คุณแม่ เขาน่าจะรู้สึกว่าคุณแม่ใจดี ที่ถอนคำร้องการเป็นโจทก์ร่วมทั้งคดีแพ่งและอาญา และคุณแม่ถอนฟ้องที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นฟ้องคดีฆาตกรรม

เมื่อถามว่าที่ถอนคำร้องเป็นโจทก์ร่วมทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา เป็นเพราะคุณแม่ได้รับเงินเยียวยาจากจำเลยหรือไม่?

นางภนิดา กล่าวว่า "ถึงเวลาที่เขาจะต้องเยียวยาเราแล้ว คุณแม่มีสิทธิ์ที่จะได้รับเงินเยียวยา มีแต่คนถามว่าคุณแม่มีตัวเลขในใจมั้ย ถ้าตัวเลขในใจ จะเอาจริงๆ 30 ล้านบาท ตามที่เคยคำนวณให้สัมภาษณ์ในรายการโหนกระแส เป็นตัวเลขที่ตั้งไว้ครั้งแรก แต่มันเป็นไปไม่ได้ แล้วก็ลดลงมาเหลือ 20 ล้านบาท ที่มันก็ไม่ได้อีก เพราะปอไม่ได้มีเงินสดก้อนใหญ่ เราเข้าใจเขา เขาทำธุรกิจไม่ได้เป็นเศรษฐี 100 ล้าน ปอกับโรเบิร์ตก็ทำธุรกิจธรรมดา เขาก็ไปวิ่งหาเงินมาให้คุณแม่"

เมื่อถามว่ายอดเงินเยียวยา 9.2 ล้านบาท คุณแม่พอใจหรือไม่?

นางภนิดา ตอบว่า "ถ้าไม่พอใจก็ไม่จบสิ คุณแม่พอใจในสิ่งที่เขาให้ มันก็เป็นน้ำใจด้วยนะเรื่องนี้ มันเกี่ยวกับเรื่องหัวใจของคนทั้งคุณแม่ ปอ โรเบิร์ต เราเป็นแม่ลูกกันมานานแล้ว ทั้งคู่เขาดูแลคุณแม่มาตลอด"

นางภนิดากล่าวว่า "หลังออกมาจากศาล รีบนำเงินและแคชเชียร์เช็ครวม 2 ล้านบาท ไปฝากธนาคาร กลัวเงินหาย (ได้เงินเข้าบัญชีธนาคารแล้ว 2 ล้านบาท) จริงๆ คุณแม่ไม่ได้ใช้เงินอะไรมาก แม่ใช้ซื้อยาไปหาหมอภูมิแพ้ แม่ใช้ยาแพงๆ คุณแม่คิดว่าจะเก็บเงินที่ได้ เผื่ออยากจะได้อะไรแพงๆ ซึ่งปอก็บอกว่า คุณแม่อยากได้อะไรเพิ่มให้บอก เดี๋ยวผมจะจัดให้อีก ปอกับโรเบิร์ตบอกคุณแม่ ไม่ต้องกลัวขาดแคลนเงิน แล้วแต่คุณแม่ต้องการเลย จะทำอะไร จะซื้อหรือจะไปที่ไหนบอกผม"

"เงิน 9.2 ล้านบาท แค่นี้คุณแม่พอใจแล้ว แค่นี้แหละพอใจแล้วอยู่ถึงแก่ตาย 10 ปี ไม่รู้จะอยู่ถึงหรือเปล่า จะไปบี้ให้เขาหามา 20 ล้านไม่เอา คุณแม่ขอบอกประประชาชนทุกคนว่า พอใจในสิ่งที่ได้ คิดว่าน้องโมก็น่าจะพอใจ อย่าคิดว่าน้องโมเสียชีวิตไปมีค่าตัว 9.2 ล้านบาท ขอให้คิดใหม่ ชีวิตคน ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ซื้อด้วยเงินเท่าไหร่ก็ไม่ได้ อย่าไปคิดว่าต้องได้เท่านั้นเท่านี้ น้องโมเป็นดารามีเงินเยอะมาก เล่นละครติด ๆ ไม่งั้นซื้อบ้านสองหลัง ซื้อรถราคาแพง ๆ ไม่ได้"

เมื่อถามอีกว่า ตอนอยู่ในศาลคุณแม่ได้คุยอะไรกับปอบ้าง?

นางภนิดา กล่าวว่า ในศาลไม่มีเวลาได้คุยอะไรกัน แต่ก่อนหน้านั้นคุยกันเรื่อยๆ ส่วนเรื่องเรื่องชดเชยเยียวยา ส่วนมากทนายความเป็นคนเจราจา แล้วก็มาบอกคุณแม่ว่า โอเคมั้ย หลังออกจากศาล ปอกับโรเบิร์ตเขาขอบคุณ ไหว้คุณแม่ตลอดที่คุณแม่ถอนคำร้องเป็นโจทก์ร่วมคดีแพ่งและอาญา เขาสบายใจขึ้น คดีเบาลง แม่บอกไปว่าว่างๆ คุณแม่จะไปช่วยขายรถ

ส่วนกระติกกับแซน ออกจากศาลมาคุยกันน้อยมาก แซนเพียงมากระซิบว่า แซนมีของขวัญจะให้คุณแม่ คุณแม่ก็แปลกใจ มีของขวัญด้วยเหรอ กระติกมาบอกว่าเราจัดของขวัญไว้ให้คุณแม่ ลองใส่แล้วสวย

"ตอนนี้คุณแม่ไม่โกรธใครบนเรือแล้ว ไม่รู้จะโกรธทำไม คุณแม่ก็ไม่โกรธใครมาตั้งนานแล้ว คุยกันเข้าใจกับทุกคน เราไปคิดอคติเองว่า กระติกเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ เราอย่าไปคิดเอง เราต้องดูจากหลักฐาน แซนก็เป็นคนน่ารัก ตัวจริงสวย สูงเป็นนางแบบได้เลย พูดเพราะด้วย"

ถามว่าคุณแม่ไม่ได้ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของแตงโมแล้ว?

นางภนิดา ตอบว่า "ถ้าเราหรือทนายของคุณแม่ มีข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง หรือมีพยานหลักฐานเพิ่ม ก็มีสิทธิ์ฟ้องภายหลังได้ ที่ถอนคำร้องเป็นโจทก์ร่วมคดีแพ่งและอาญา แม่ไม่ได้ติดใจแล้ว แม่สืบเรื่องลูกมากพอสมควร อัดคลิปทุกคืน เยอะมากจนคุณแม่เป็นประสาท พูดภาษาต่างดาวเลย อย่างที่ใครๆ เห็นตอนนี้มันยังไม่มีหลักฐานเป็นรูปธรรมว่าแตงโม ตายเพราะสาเหตุอะไร แผลที่ขาตอนนี้ก็ยังไม่มีใครทราบจริง ๆ ว่าเกิดจากอะไร เกิดได้อย่างไร "

ส่วนที่ก่อนที่จะขึ้นศาลไปเจราจาเรื่องเงินชดเชยเยียวยา คุณแม่มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส

นางภนิดา ระบุว่า ตอนนั้นคุณแม่ยังไม่รู้เลยจะได้เงินเท่าไหร่ พอคุณแม่ลงจากรถ ดีใจที่เจอน้องๆ นักข่าวที่เคยติดตามทำข่าว จึงทำมือและมีท่าทางอย่างนั้น ไม่ได้ยิ้มแย้มดีใจเพราะจะได้เงิน

ส่วนหลังเจราจาเสร็จลงจากศาล คุณแม่ยืนยันว่าไม่ได้ชิ่งสื่อหนีกลับ แต่เพราะอากาศร้อนมาก ตอนมา ลงจากรถยืนคุยก้บน้องๆ ประมาณ 5 นาที ร้อนหน้าผากมากเหมือนเอาหน้าผากไปอังไฟ ต้องขึ้นศาลก่อนอยู่ในศาล 5 ชั่วโมง เสร็จแล้วมองลงมาที่น้องๆ ยังยืนสัมภาษณ์กระติกกับแซนอยู่ แดดจ้า เวลาบ่ายแล้ว คุณแม่ไม่ไหวเป็นภูมิแพ้ อากาศที่ทั้งร้อน-หนาวต้องทานยาทันที น้ำมูกจะไหลตลอดเวลา ใจจริงอยากลงไปให้สัมภาษณ์มากแต่ทนายดึงไว้ว่า ไว้แถลงข่าวดีกว่า แม่ก็โคเค ขอโทษน้องๆ ทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิงช่างกล้องทุกคนสงสารมาก ร้อนมากก็ยังรอกัน คุณแม่ผิดเอง