ล่าสุดพลเมืองดีที่อยู่ในเหตุการณ์ทนฟังคำแก้ตัวผ่านสื่อไม่ได้ หอบหลักฐานอีกชุดมายืนยันว่าไม่มีใครอยู่เฝ้าเครื่องแม้แต่คนเดียว ปล่อยให้ชาวบ้านยืนดูลูบคลำกันตามสบาย
โดยเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 พ.ย. พลเมืองดี (ขอสงวนนาม) ซึ่งเป็นคนละคนกับพลเมืองดีคนแรกที่นำภาพถ่ายออกมาเปิดโปงพฤติกรรมพิลึกของนักบินกองทัพอากาศไทย นำหลักฐานเป็นภาพถ่ายจากกล้องวีดิโอมาแสดงเป็นหลักฐาน ระบุว่าในวันดังกล่าวขับรถผ่านไปในหมู่บ้านพอดี เห็นเฮลิคอปเตอร์กำลังร่อนลงจอดในระยะต่ำมาก คิดว่าเครื่องคงจะขัดข้องจึงรีบขับรถตามเข้าไปดู ก็พบกลุ่มนายทหารเดินลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ ด้วยท่าทีปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผิดกับกลุ่มชาวบ้านที่แตกตื่นเข้ามาดูเป็นจำนวนมาก ตนพกกล้องวีดิโอติดรถมาด้วยจึงรีบถ่ายภาพเก็บไว้ โดยเฉพาะช่วงที่นักบินกับพวกนั่งรถกระบะออกไปแล้ว ก็ไม่เห็นมีใครเฝ้าเฮลิคอปเตอร์ แต่อย่างใด มีเพียงชาวบ้านที่เข้าไปมุงดูลูบๆคลำๆตัวเครื่องอย่างสนใจ
ทางด้าน พล.อ.โชคชัย หงส์ทอง ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงกรณีที่นักบินโรงเรียนการบินกำแพงแสนนำเฮลิคอปเตอร์ไปใช้ในภารกิจส่วนตัวว่า
ขณะนี้ทางกองทัพอากาศซึ่งเป็นต้นสังกัดกำลังดำเนินการสอบสวนอยู่ คณะกรรมาธิการคงรอดูผลการสอบสวนจากทางต้นสังกัดก่อน เชื่อว่าจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา หากพบว่ามีความผิดจริงคงไม่ปล่อยแน่ ผู้สื่อข่าวถามว่า คณะกรรมาธิการจะดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้ไปด้วยหรือไม่ พล.อ.โชคชัยกล่าวว่า ต้องดูเขาก่อนว่าจะสรุปผลสอบอย่างไร ไม่ใช่ว่าเราจะต้องเข้าไปพิจารณาทุกเรื่อง เพราะขณะนี้ต้นสังกัดก็ไม่ได้อยู่เฉย กำลังเร่งสอบสวนกันอยู่ เขาก็ทำตามกฎเกณฑ์ อย่างไรก็ตาม พื้นที่บริเวณนั้นเป็นพื้นที่ฝึกบิน ซึ่งต้องมีการนำเครื่องขึ้น-ลงตลอด แต่ถ้ามีการนำไปใช้เป็นการส่วนตัวก็ไม่ควรถือว่ามีความผิด ซึ่งตนเห็นด้วยว่าถ้าตรวจสอบแล้วพบว่ากระทำผิด ก็ต้องลงโทษอย่างจริงจัง ขณะนี้เราต้องให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
