ยึดทรัพย์ เป้ กิติกร เจ้าของ P miner ตั้งรางวัลนำจับ 5 หมื่น
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ ยึดทรัพย์ เป้ กิติกร เจ้าของ P miner ตั้งรางวัลนำจับ 5 หมื่น
สืบเนื่องจากกรณีที่มีผู้เสียหายได้รวบรวมหลักฐานเข้าร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ เชียงใหม่ ว่า ถูก นายเป้ กิติกร เจ้าของ P miner Cryptocurrency หลอกลงทุนคริปโต ซึ่งคาดว่ามีความเสียหายรวมมูลค่ากว่า 1,700 ล้านบาท
โดย นายเป้ ได้เปิดกลุ่มวีไอพี ให้คนนำเงินมาลงทุน 1 ล้านบาท ทั้งหมด 300 คน โดยจะเป็นการฝากเงินเทรดเหรียญคริปโตและทำเหมืองคริปโต ให้ปันผลตั้งแต่ 10-15% แต่สุดท้ายผู้ร่วมลงทุนกลับไม่ได้เงินคืน
ต่อมา นายเป้ ได้โพสต์ข้อความชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กเพจซึ่งอ้างว่า ช่วงที่ผ่านมามูลค่าของเหรียญขาดทุนอย่างหนัก ในตลาดการลงทุนตามแพลตฟอร์มต่าง ๆ ทำให้บริษัทขาดทุนกว่า 70% ของเหรียญที่มีอยู่ การขุดเหรียญต้องใช้ค่าไฟจำนวนมากทำให้การขุดไม่คุ้มค่า ทางบริษัทขาดสภาพคล่องและไม่สามารถนำทุนสำรองมาใช้ได้ ซึ่งสัญญาว่ามีแนวทางแก้ปัญหาคือให้นักลงทุนแจ้งเงินที่ลงทุนกับทนายของบริษัท เพื่อหาตัวเลขความเสียหายและหาทางเยียวยา บริษัทจะยังขุดเหรียญตามปกติ และใช้โซลาร์ฟาร์มในการลดต้นทุนการผลิต และนำรายได้แต่ละเดือนมาคืนนักลงทุน ทางทีมงานจะยังคงเทรดเหรียญต่อไป
พร้อมยืนยันว่า ตนไม่มีเจตนาที่จะโกงหรือหลบหนี และขอความเห็นใจจากนักลงทุนให้โอกาสทำงานเพื่อฟื้นตัว ขอร้องนักลงทุนอย่าเพิ่งดำเนินคดีทางกฎหมาย หากเกิดความเสียหายต่อตัวเอง ตนก็ไม่สามารถดำเนินงานต่อไปได้ ส่งผลกระทบบริษัท และส่งผลกระทบต่อนักลงทุนเอง
ล่าสุด เจ้ากน้าที่ตำรวจและ ปปง. สนธิกำลังเข้ายึดทรัพย์ เป้ กิติกร เจ้าของ P miner Cryptocurrency ได้ข้องกลางเป็นรถหรูจำนวน 5 คันคือ เเลมโบกินี BMW เฟอร์รารี เบนท์ลีย์ เเลมโบกินี นอกจากนี้ยังพบนาฬิกาหรู โฉนดที่ดิน และได้อายัดบัญชีทั้งหมดเอาไว้แล้ว
ต่อมา หน่วยป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ได้โพสต์ประกาศตั้งค่าหัว ให้รางวัลนำจับแก่ผู้แจ้งเบาะแสนาย กิติกร อินต๊ะ จนนำไปสู่การจับกุมได้สำเร็จ ความว่า
"50,000 บาท สำหรับเบาะแสที่สามารถนำไปสู่การจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์, DSI และ ปปง. นายกิติกร อินต๊ะ เจ้าของแชร์ลูกโซ่ P miner ที่จังหวัดเชียงใหม่ เบาะแสล่าสุด อยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้านแล้ว"
โดย นายเป้ ได้เปิดกลุ่มวีไอพี ให้คนนำเงินมาลงทุน 1 ล้านบาท ทั้งหมด 300 คน โดยจะเป็นการฝากเงินเทรดเหรียญคริปโตและทำเหมืองคริปโต ให้ปันผลตั้งแต่ 10-15% แต่สุดท้ายผู้ร่วมลงทุนกลับไม่ได้เงินคืน
ต่อมา นายเป้ ได้โพสต์ข้อความชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กเพจซึ่งอ้างว่า ช่วงที่ผ่านมามูลค่าของเหรียญขาดทุนอย่างหนัก ในตลาดการลงทุนตามแพลตฟอร์มต่าง ๆ ทำให้บริษัทขาดทุนกว่า 70% ของเหรียญที่มีอยู่ การขุดเหรียญต้องใช้ค่าไฟจำนวนมากทำให้การขุดไม่คุ้มค่า ทางบริษัทขาดสภาพคล่องและไม่สามารถนำทุนสำรองมาใช้ได้ ซึ่งสัญญาว่ามีแนวทางแก้ปัญหาคือให้นักลงทุนแจ้งเงินที่ลงทุนกับทนายของบริษัท เพื่อหาตัวเลขความเสียหายและหาทางเยียวยา บริษัทจะยังขุดเหรียญตามปกติ และใช้โซลาร์ฟาร์มในการลดต้นทุนการผลิต และนำรายได้แต่ละเดือนมาคืนนักลงทุน ทางทีมงานจะยังคงเทรดเหรียญต่อไป
พร้อมยืนยันว่า ตนไม่มีเจตนาที่จะโกงหรือหลบหนี และขอความเห็นใจจากนักลงทุนให้โอกาสทำงานเพื่อฟื้นตัว ขอร้องนักลงทุนอย่าเพิ่งดำเนินคดีทางกฎหมาย หากเกิดความเสียหายต่อตัวเอง ตนก็ไม่สามารถดำเนินงานต่อไปได้ ส่งผลกระทบบริษัท และส่งผลกระทบต่อนักลงทุนเอง
ล่าสุด เจ้ากน้าที่ตำรวจและ ปปง. สนธิกำลังเข้ายึดทรัพย์ เป้ กิติกร เจ้าของ P miner Cryptocurrency ได้ข้องกลางเป็นรถหรูจำนวน 5 คันคือ เเลมโบกินี BMW เฟอร์รารี เบนท์ลีย์ เเลมโบกินี นอกจากนี้ยังพบนาฬิกาหรู โฉนดที่ดิน และได้อายัดบัญชีทั้งหมดเอาไว้แล้ว
ต่อมา หน่วยป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ได้โพสต์ประกาศตั้งค่าหัว ให้รางวัลนำจับแก่ผู้แจ้งเบาะแสนาย กิติกร อินต๊ะ จนนำไปสู่การจับกุมได้สำเร็จ ความว่า
"50,000 บาท สำหรับเบาะแสที่สามารถนำไปสู่การจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์, DSI และ ปปง. นายกิติกร อินต๊ะ เจ้าของแชร์ลูกโซ่ P miner ที่จังหวัดเชียงใหม่ เบาะแสล่าสุด อยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้านแล้ว"
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น