‘หมอธีระ’ เผยกลุ่มรักร่วมเพศเสี่่ยงเป็น’ฝีดาษลิง’สูง แนะระวัง
สรุปอาการของฝีดาษลิงจาก 16 ประเทศทั่วโลก Thornhill JP และคณะได้เผยแพร่ผลการศึกษาอาการฝีดาษลิง ในผู้ป่วย 528 คนจาก 16 ประเทศทั่วโลก ตั้งแต่เมษายนถึงมิถุนายน 2022 (2565) ที่ผ่านมาตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ระดับโลก New England Journal of Medicine เมื่อ 21 กรกฎาคม 2022 ที่ผ่านมา
สาระสำคัญคือ ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเกย์ และไบเซ็กชวล (มีเพศสัมพันธ์กับทั้งเพศชายและเพศหญิง)
มีถึง 41% ที่ติดเชื้อเอชไอวีอยู่ด้วย
อายุเฉลี่ย (ค่ามัธยฐาน) 38 ปี (วัยทำงาน)
95% มีประวัติที่คาดว่าติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์
95% จะเกิดผื่นตามผิวหนังหลังจากติดเชื้อฝีดาษลิง โดยผื่นจะพบบริเวณทวารหนักหรืออวัยวะเพศราวสามในสี่ (73%)
อาการผิดปกติอื่นๆ ที่พบบ่อยก่อนเกิดผื่นคือ ไข้ (62%) ต่อมน้ำเหลืองโต (56%) อ่อนเพลีย (41%) ปวดกล้ามเนื้อ (31%) และปวดหัว (27%)
มีราวหนึ่งในสาม (29%) ที่พบว่าติดเชื้อโรคทางเพศสัมพันธ์อื่นร่วมด้วย เช่น หนองใน ซิฟิลิส เริม
ระยะเวลาฟักตัว (ตั้งแต่เริ่มติดเชื้อจนถึงเริ่มเกิดอาการป่วย) เฉลี่ย 7 วัน โดยเป็นได้ตั้งแต่ 3-20 วัน
ที่สำคัญคือ จากการตรวจน้ำอสุจิ 32 คน สามารถตรวจพบสารพันธุกรรมของไวรัสฝีดาษลิงได้ถึง 29 คนสามารถตรวจพบสารพันธุกรรมของไวรัสในลำคอ และจมูก ได้ถึงหนึ่งในสี่ (26%)
และยังตรวจพบในเลือดและปัสสาวะได้ในบางคน
ฝีดาษลิงได้รับการประกาศเป็นภาวะฉุกเฉินทางด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ โดยองค์การอนามัยโลก
ประชาชนจึงจำเป็นต้องมีความรู้ ติดตามสถานการณ์ เพื่อให้รู้เท่าทัน และป้องกันตัวให้ห่างไกลจากฝีดาษลิง
ระมัดระวังการสัมผัสคลุกคลีใกล้ชิดกับคนแปลกหน้า หมั่นสังเกตอาการผิดปกติ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ทำงานด้านบริการ ดูแลรักษา
รวมถึงแหล่งบันเทิงท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมทางเพศ
ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการเดินทางระหว่างประเทศ และการท่องเที่ยวเสรี โอกาสมีการติดเชื้อแฝงในชุมชน และแพร่ระบาดย่อมมีสูง