งัดหลักฐานแฉ พระวัดดัง เสพเมถุน-ลักทรัพย์บริจาค
ด้วย ชาวบ้านบ้านแม่เย็น ได้มีการร่ำลือและกล่าวถึงพฤติกรรมของพระรูปหนึ่งเกี่ยวกับการประพฤติกรรมปฏิบัติตนไม่เหมาะสม ที่อาจเป็นความผิดต่อพระธรรมวินัยของสงฆ์ จนอาจทำให้ต้องอาบัติปาราชิก ซึ่งเป็นเหตุให้ต้องสละสมณเพศเนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าว จนนำไปสู่การเฝ้าระวัง และติดตามดูพฤติกรรมของพระสงฆ์รูปดังกล่าวที่ชาวบ้านที่ศรัทธาในวัดได้ร่วมกันสอดส่องดูแลเรื่อยมา
ทั้งการเห็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมดังกล่าวด้วยตาเปล่า และเห็นภาพพฤติกรรมจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งภายในวัด จึงทำให้รู้และทราบถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมจากการกระทำความผิดต่อพระธรรมวินัยของสงฆ์ ที่พระสงฆ์รูปดังกล่าวได้ประพฤติปฏิบัติมากขึ้นเรื่อย ๆ จนเกิดพยานหลักฐานที่ชาวบ้านเห็นว่าหากปล่อยให้มีการประพฤติปฏิบัติแบบนี้ต่อไป ก็จะก่อให้เกิดการเสื่อมเสียแก่ทางวัดและชุมชน
ชาวบ้านจึงร่วมกันปรึกษาหารือและมีความเห็นว่าควรแจ้งเหตุนี้ให้ทางพระคุณเจ้าท่านเจ้าคณะอำเภอปายได้รับทราบ โดยการทำหนังสือร้องเรียนเพื่อแถลงให้ท่านเจ้ากณะอำเภอปายรับทราบถึงมูลเหตุแห่งการร้องเรียนมาในหนังสือฉบับนี้ และขอส่งพยานหลักฐานที่ใช้ประกอบการพิจารณาไต่สวนความผิดต่อพระธรรมวินัยของพระสงฆ์รูปดังกถ่าวที่ชาวบ้านช่วยกันเก็บรวบรวมมาเป็นระยะเวลานานหลายปี ซึ่งเกิดขึ้นต่างกรรมต่างวาระกัน ประกอบด้วยพยานหลักฐานที่ชาวบ้านเห็นว่าน่าจะเป็นความผิดทั้งในด้านของเมถุนธรรม และอทินนาทาน
พฤติกรรมที่มีความประพฤติผิดต่อพระธรรมวินัยโดยการเสพเมถุน ซึ่งเกิดจากพฤติกรรมที่มีต่อสตรีเพศอย่างไม่เหมาะสม ทั้งการนัดพบเจอกันในสถานที่ที่ไม่เหมาะสม ในเวลาที่ไม่เหมาะสม รวมถึงมีการถูกเนื้อต้องตัว จนเกิดพยานหลักฐานที่จะนำขึ้นแถลงให้ทราบในที่นี้ว่าพฤติกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นอาจิณ
โดยได้มีลักษณะของการกระทำตามที่ปรากฏในภาพวีดีโอของกล้องวงจรปิดที่ได้ทำการบันทึกเอาไว้ ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีการประพฤติปฏิบัติในลักษณะนี้จนเป็นอาจิณ โดยลักษณะของการกระทำในทุกครั้งจะใช้วิธีในลักษณะเดียวกัน ซึ่งก็คือการใช้ธูป ไม้ หรือวัตถุใด ๆ ที่อยู่ใกล้เคียงที่มีลักษณะเรียวยาวคล้ายธูปในการสอดเข้าไปในตู้บริจาคเพื่อเขี่ยเงินในตู้รับบริจาคให้หลุดออกมาจากตู้ ซึ่งวัตถุต่าง ๆ ที่ใช้ในการเขี่ยเงินบริจาคให้ออกมาจากตู้นั้น จะถูกซุกซ่อนอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับตู้บริจาคนั้นเอง
ล่าสุดทราบว่า พระสงฆ์รูปดังกล่าวเมื่อคืนที่ผ่านมา ได้ไปนอนพักที่วัดแห่งหนึ่งนอกพื้นที่แล้ว ซึ่งเป็นที่พำนักของรองเจ้าคณะตำบล โดยพระสงฆ์เจ้าคณะตำบล ไม่ได้ทำการควบคุมตัวหรือจับสึกและดำเนินการทางวินัยสงฆ์ต่อพระรูปนี้แต่อย่างใด และวันนี้ทราบว่า พระสงฆ์รูปนี้ยังได้เดินทางไปยัง จ.เชียงใหม่ และไม่ยอมสึกหรือรับผิดใดใด