นักเรียนดักยื่น ชัชชาติ แก้ปมทรงผม-เครื่องแบบ

 ชัชชาติ แก้ปมทรงผม-เครื่องแบบ ผู้ว่าฯกทม.เชื่อ สีไหนทรงไหน ก็ไม่เป็นอุปสรรค ต้องคุยด้วยเหตุผล

เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ลงพื้นที่เขตดินแดง สำรวจแฟลตเคหะชุมชนดินแดง และห้องสมุดประชาชน เคหะชุมชนดินแดง 2 ร่วมกับ อนงค์ เพชรทัต ว่าที่สมาชิกสภากรุงเทพฯ เขตดินแดง พรรคพลังประชารัฐ โดยปัญหาหลักที่พบเจอคือเรื่องการจัดการขยะ เรื่องสุขอนามัย และเรื่องความพร้อมของห้องสมุดประชาชน

บรรยากาศเวลา 16.16 น. นายชัชชาติ เดินทางมาถึงบริเวณลานกีฬา พร้อมมีสื่อมวลชนและประชาชนมารอเป็นจำนวนมาก ประชาชนเข้าแสดงความยินดีที่ กกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งเป็นที่เรียบร้อย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในตอนหนึ่ง มีนักเรียนหญิง 1 รายจากกลุ่ม DemHope กลุ่มประชาธิปไตยเพื่อความหวัง เข้ายื่นเอกสารร้องเรียนเกี่ยวกับข้อบังคับเรื่องทรงผม สีผม และเครื่องแบบนักเรียนของโรงเรียน ในสังกัด กทม. ว่าควรมีการปรับข้อบังคับเรื่องทรงผม สีผม และเครื่องแบบ โดยคำนึงถึงเรื่องสิทธิเสรีภาพของนักเรียนให้มากขึ้น

นายชัชชาติ กล่าวว่า ก็ต้องคุยกันด้วยเหตุผล ทุกอย่างก็ต้องมีเหตุผลว่าเขาห้ามเพราะอะไร ต้องคุยเหตุผลกันและฟังกัน อาจจะมีมุมที่เราคิดไม่ถึง ก็ให้เขาอธิบาย แต่ตนมองว่าเรื่องทรงผมไม่ใช่เรื่องใหญ่ หัวใจคือการศึกษา ดูเนื้อหา การเรียนรู้ให้เกิดความรู้จริงๆ

เมื่อตัวแทนกลุ่มถามว่า นายชัชชาติมีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องทรงผม จะให้มีการยกเลิกหรือแก้ไขอย่างไร

นายชัชชาติ กล่าวว่า จริงๆแล้วไม่ได้คิดว่าเป็นอุปสรรคกับการเรียน จะไว้ทรงผมอะไรก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร คงต้องไปคุยกับผู้รับผิดชอบอีกทีว่าจุดมุ่งหมายจริงๆของการบังคับเรื่องทรงผมมีที่มาที่ไปอย่างไร เพราะเราเองไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องการศึกษา

"คือต้องไปฟังเขาก่อนแต่ส่วนตัวไม่ได้ติดขัด เพราะลูกผมเองก็ย้อมหัวทอง ตัดผมแปลกๆ ก็เรียนได้ปกติ สำหรับตัวอย่างของตัวเองลูกก็ไม่ได้มีปัญหาเรื่องทรงผม เพราะเรียนโรงเรียนต่างประเทศ ก็เห็นว่าเขาก็เรียนได้ดี ส่วนตัวไม่ได้มีอะไร แต่ขอไปฟังคนอื่นด้วย คือเราเอาตัวเองคนเดียวไม่ได้ ต้องฟังผู้บริหารด้วย" นายชัชชาติ กล่าว

ตัวแทนกลุ่มกล่าวอีกว่า ปัญหาเรื่องเครื่องแต่งกายก็อยากให้ยกเลิกให้กับโรงเรียนที่อยู่ภายใต้สังกัดกทม. เมื่อเวลาที่ตนไปแจ้งกระทรวงศึกษาว่ามีโรงเรียนละเมิดกฎ กระทรวงก็จะบอกให้ไปแจ้งสังกัดก็คือกทม. กลายเป็นการโยนกันไปมา จึงอยากให้กทม.แก้ปัญหาในเรื่องนี้ นายชัชชาติ กล่าวว่า เรื่องเครื่องแบบต้องคิดให้ดีเหมือนกัน เพราะมันมีมิติอื่นนอกเหนือจากเรื่องเสรีภาพด้วย เผื่อมีผู้ปกครองที่อาจจะมีรายได้ไม่มาก ถ้าลูกต้องแต่งไปรเวทไปโรงเรียนก็ต้องไปหาเสื้อผ้า การแต่งชุดนักเรียนก็ง่ายดี ทุกคนเหมือนกันหมด มันมีมิติอื่นนอกจากเรื่องสิทธิเสรีภาพด้วย

หลังจากนั้นนายชัชชาติได้รับหนังสือจากตัวแทนกลุ่ม DemHope และทำการชนหมัดกัน โดยนายชัชชาติ กล่าวทิ้งท้ายว่า เห็นต่างได้ เราต้องฟังเพราะอนาคตน้องเขาต้องเป็นคนที่มาขับเคลื่อนเมือง นโยบายเราก็ต้องฟังคนรุ่นใหม่ เพราะเป็นคนที่ต้องมาหาเลี้ยงเมือง นโยบายของเราจะมีผลกับเขามากที่สุด