ทำไปก็ไม่เจริญ! สารวัตรนํ้าดีตบะแตก สับโผโยกย้ายทิ้งทวน ก่อนลาออก
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ ทำไปก็ไม่เจริญ! สารวัตรนํ้าดีตบะแตก สับโผโยกย้ายทิ้งทวน ก่อนลาออก
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Buri Amornpichit" ซึ่งทราบต่อมาคือ พ.ต.ท.บุรี อมรพิชิต ตำแหน่ง สว.อก.สภ.กรับใหญ่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ว่า
"สงสารคนทำงานที่ผิดหวังกับการแต่งตั้ง คนที่โดนย้ายไปไกลบ้าน มีทุกปี ไม่ว่าจะยุคไหน ทำปากดีพูดนโยบายสวยเลิศเลอ ไหนจะลูกเมีย พ่อแม่ที่แก่ชราต้องดูแลชีวิตปกติที่เปลี่ยนไป แค่ปลายปากกา กระเด็นกระดอน ทุกปีสองปี นโยบายปัจจุบันด้วย ไปไหนไม่ได้ประชุมกันทุกวัน งานนอกหน้าที่เยอะ คนออกนโยบายคนสั่งห่วย จะเอาเวลาที่ไหนกลับมาดูแลครอบครัว คนทำงานไม่เจริญ คนเจริญไม่ทำงาน นี่มันอาชีพส้นxxอะไรครับ (ที่กล่าวมาแค่ยิบย่อย) # ลาออกสิครับรอxxอะไร # ตบะกูเริ่มแตก" หลังกองสารนิเทศ ตร.ได้เผยแพร่คำสั่งแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ระดับ สว.-รอง ผกก. โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 ธ.ค. 64
"สงสารคนทำงานที่ผิดหวังกับการแต่งตั้ง คนที่โดนย้ายไปไกลบ้าน มีทุกปี ไม่ว่าจะยุคไหน ทำปากดีพูดนโยบายสวยเลิศเลอ ไหนจะลูกเมีย พ่อแม่ที่แก่ชราต้องดูแลชีวิตปกติที่เปลี่ยนไป แค่ปลายปากกา กระเด็นกระดอน ทุกปีสองปี นโยบายปัจจุบันด้วย ไปไหนไม่ได้ประชุมกันทุกวัน งานนอกหน้าที่เยอะ คนออกนโยบายคนสั่งห่วย จะเอาเวลาที่ไหนกลับมาดูแลครอบครัว คนทำงานไม่เจริญ คนเจริญไม่ทำงาน นี่มันอาชีพส้นxxอะไรครับ (ที่กล่าวมาแค่ยิบย่อย) # ลาออกสิครับรอxxอะไร # ตบะกูเริ่มแตก" หลังกองสารนิเทศ ตร.ได้เผยแพร่คำสั่งแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ระดับ สว.-รอง ผกก. โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 ธ.ค. 64
ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวได้เข้าพบกับ พ.ต.อ.วีระศักดิ์ กลั่นเกิด ผกก.สภ.กรับใหญ่ เพื่อสอบถามเรื่องราวดังกล่าว พร้อมกล่าวว่า
ขณะนี้ พ.ต.ท.บุรี อยู่ระหว่างลาราชการ โดยเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ที่ผ่านมา พ.ต.ท.บุรี ได้มายื่นหนังสือขอลาออกจากข้าราชการจริง และกำลังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบรออนุมัติหนังสือลาออก ส่วนสาเหตุที่ขอลาออกนั้น จากการพูดคุยกับ พ.ต.ท.บุรี ได้ให้เหตุผลว่า คุณแม่ของ พ.ต.ท.บุรี ซึ่งมีอายุ 81 ปี ได้ล้มป่วย จะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ประกอบกับต้องการไปช่วยทำธุรกิจของครอบครัว
พ.ต.อ.วีระศักดิ์ กล่าวต่อว่า เนื่องจากตนเพิ่งย้ายเข้ามารับตำแหน่ง ผกก.สภ.กรับใหญ่ เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ที่ผ่านมา จึงยังไม่มีโอกาสใกล้ชิดกับ พ.ต.ท.บุรี แต่จากการสอบถามเพื่อนร่วมงาน และผู้ใต้บังคับบัญชา ทราบว่า พ.ต.ท.บุรี นั้นเป็นที่รักของเพื่อนตำรวจและชาวบ้าน ด้วยเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูงและจริงจังในการทำงาน อีกทั้งยังสนใจในเรื่องของธรรมะ นอกจากการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะสารวัตรฝ่ายอำนายการแล้ว ยังลงพื้นที่ร่วมกิจกรรมสร้างมวลชนสัมพันธ์ ใกล้ชิดกับชาวบ้านอีกด้วย
ขณะนี้ พ.ต.ท.บุรี อยู่ระหว่างลาราชการ โดยเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ที่ผ่านมา พ.ต.ท.บุรี ได้มายื่นหนังสือขอลาออกจากข้าราชการจริง และกำลังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบรออนุมัติหนังสือลาออก ส่วนสาเหตุที่ขอลาออกนั้น จากการพูดคุยกับ พ.ต.ท.บุรี ได้ให้เหตุผลว่า คุณแม่ของ พ.ต.ท.บุรี ซึ่งมีอายุ 81 ปี ได้ล้มป่วย จะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ประกอบกับต้องการไปช่วยทำธุรกิจของครอบครัว
พ.ต.อ.วีระศักดิ์ กล่าวต่อว่า เนื่องจากตนเพิ่งย้ายเข้ามารับตำแหน่ง ผกก.สภ.กรับใหญ่ เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ที่ผ่านมา จึงยังไม่มีโอกาสใกล้ชิดกับ พ.ต.ท.บุรี แต่จากการสอบถามเพื่อนร่วมงาน และผู้ใต้บังคับบัญชา ทราบว่า พ.ต.ท.บุรี นั้นเป็นที่รักของเพื่อนตำรวจและชาวบ้าน ด้วยเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูงและจริงจังในการทำงาน อีกทั้งยังสนใจในเรื่องของธรรมะ นอกจากการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะสารวัตรฝ่ายอำนายการแล้ว ยังลงพื้นที่ร่วมกิจกรรมสร้างมวลชนสัมพันธ์ ใกล้ชิดกับชาวบ้านอีกด้วย
ทั้งนี้ ภายหลังจากทที่ พ.ต.ท.บุรี ได้โพสต์ระบายความรู้สึกผ่านเฟซบุ๊กไป ทำให้เกิดความคิดเห็นต่างๆ นานา ถึงระบบการโยกย้ายข้าราชการตำรวจ โดยล่าสุด พ.ต.ท.บุรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวอีกครั้งว่า
"ขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจ มีบางท่านไม่รู้จักกันก็ยังโทรฯ มาให้กำลังใจ ฝากเพื่อนพี่น้อง ที่อยู่ในอาชีพตำรวจต่อไป ขอให้อยู่บนพื้นฐานของความจริงใจ รักลูกน้องเสมือนเขาเป็นพี่เป็นน้องเป็นญาติเรา ให้ความเป็นธรรมกับเขา ใช้พระคุณ ดีกว่าพระเดช ชาวบ้านเขาไม่ต้องการอะไรจากตำรวจ แค่เกิดเหตุตามจับคนร้ายให้เขาได้ มีเหตุไประงับให้เขาโดยไว ให้ความเป็นธรรม เป็นมิตร ไม่รังแก ไม่แสวงหาผลประโยชน์จากเขา เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว นายที่ดีไม่สร้างงานให้ลูกน้องโดยไม่จำเป็น ถามให้เยอะๆ นโยบายที่ออกมาตำรวจเราได้อะไร ประชาชนได้อะไร ได้จริงไหมหรือแค่วาดฝัน หรือมีผลงานไว้แค่โชว์สื่อหรือต่อรองเก้าอี้เท่านั้น หาประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมไม่ได้ อยู่ให้เป็นตำนาน อย่าอยู่ให้เขาสาปแช่งไปวันๆ ครับ"
สำหรับประวัติ พ.ต.ท.บุรี อมรพิชิต เริ่มรับราชการตำรวจในระดับชั้นประทวน เมื่อปี พ.ศ.2541 ต่อมาปี พ.ศ.2547 ได้สอบเลื่อนเป็นตำรวจชั้นสัญญาบัตร โดยปฏิบัติหน้าที่สายงานด้านปราบปรามและสืบสวนในพื้นที่ภาค 7 ก่อนจะย้ายมาดำรงตำแหน่ง สารวัตรอำนวยการ ที่ สภ.กรับใหญ่ เมื่อปี 2562 และตัดสินใจโพสต์ระบายความในใจ ก่อนยื่นใบลาออกดังกล่าว ทั้งที่ยังคงเหลืออายุราชการอีกกว่า 10 ปี
"ขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจ มีบางท่านไม่รู้จักกันก็ยังโทรฯ มาให้กำลังใจ ฝากเพื่อนพี่น้อง ที่อยู่ในอาชีพตำรวจต่อไป ขอให้อยู่บนพื้นฐานของความจริงใจ รักลูกน้องเสมือนเขาเป็นพี่เป็นน้องเป็นญาติเรา ให้ความเป็นธรรมกับเขา ใช้พระคุณ ดีกว่าพระเดช ชาวบ้านเขาไม่ต้องการอะไรจากตำรวจ แค่เกิดเหตุตามจับคนร้ายให้เขาได้ มีเหตุไประงับให้เขาโดยไว ให้ความเป็นธรรม เป็นมิตร ไม่รังแก ไม่แสวงหาผลประโยชน์จากเขา เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว นายที่ดีไม่สร้างงานให้ลูกน้องโดยไม่จำเป็น ถามให้เยอะๆ นโยบายที่ออกมาตำรวจเราได้อะไร ประชาชนได้อะไร ได้จริงไหมหรือแค่วาดฝัน หรือมีผลงานไว้แค่โชว์สื่อหรือต่อรองเก้าอี้เท่านั้น หาประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมไม่ได้ อยู่ให้เป็นตำนาน อย่าอยู่ให้เขาสาปแช่งไปวันๆ ครับ"
สำหรับประวัติ พ.ต.ท.บุรี อมรพิชิต เริ่มรับราชการตำรวจในระดับชั้นประทวน เมื่อปี พ.ศ.2541 ต่อมาปี พ.ศ.2547 ได้สอบเลื่อนเป็นตำรวจชั้นสัญญาบัตร โดยปฏิบัติหน้าที่สายงานด้านปราบปรามและสืบสวนในพื้นที่ภาค 7 ก่อนจะย้ายมาดำรงตำแหน่ง สารวัตรอำนวยการ ที่ สภ.กรับใหญ่ เมื่อปี 2562 และตัดสินใจโพสต์ระบายความในใจ ก่อนยื่นใบลาออกดังกล่าว ทั้งที่ยังคงเหลืออายุราชการอีกกว่า 10 ปี
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น