เปิดใจ อเล็กซ์ หนุ่มถูกแอบอ้างเป็นโอดินด่า พี่หนุ่ม กรรชัย
จากกรณีดราม่าร้อนแรงมาตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย. 2564 โดยโลกออนไลน์ได้มีการติดแฮชแท็ก #คลับเฮ้าส์toxic หลังจากที่มีการตั้งห้องเสียงในคลับเฮ้าส์ขึ้นมาพูดและด่าคนอีสานโดยเฉพาะ ก่อนมีคลิปหลุดออกมาจากหลายห้องในคลับเฮ้าส์ ใช้ชื่อแตกต่างกัน เช่น คนอีสานคือซอมบี้ในชีวิตจริง Resident Esan, อีสานมีหน้าที่แค่เกี่ยวข้าวให้คนกรุงแดก,อีสานตื่นยังไอ้ขี้ข้า,
ซึ่งผู้ร่วมพูดคุยในห้องเป็นไปในลักษณะเดียวกัน คือพูดจาเหยียดคนอีสาน เช่น คนภาคอื่นมีวิวัฒนาการมาจากลิงแต่คนอีสานมีวิวัฒนาการมาจาก velociraptor (ไดโนเสาร์กินเนื้อชนิดหนึ่ง) ทำให้คนอีสานกินสุนัขด้วย คนอีสานส่วนใหญ่ชอบให้ลูกตัวเองไปมีผัวฝรั่ง เพราะคนอีสานทำมาหากินไม่ได้ เลยต้องไปหาทางเกาะคนอื่นกิน ตามที่อมรินทร์ทีวีนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ทีมข่าวพบผู้ใช้ ทวิตเตอร์รายหนึ่งโพสต์ข้อความว่า ช่วยๆ แชร์กันนะคะ คนที่อยู่ใน #คลับเฮ้าส์toxic ใช้รูปพี่เค้าไปพูดถึงคนอื่นในทางเสียๆ หายๆ ย้ำนะคะ คนในคลับเฮ้าส์ไม่ใช่พี่เค้านะคะ พี่เค้าชื่ออเล็กซ์นะคะไม่ใช่ "โอดิน" อย่างที่หลายๆ คนเข้าใจ พร้อมกับโพสต์รูปภาพเทียบกับบุคคลที่ใช้โปรไฟล์ในคลับเฮ้าส์แอบอ้าง
ดังนั้นเพื่อเป็นการยืนยันว่า "โอดิน" ไม่ใช่ "อเล็กซ์" ตนจึงให้น้องที่อยู่ด้วยกันเปิดเข้ากลุ่มคลับเฮ้าส์และอีกคลิปหลักฐานการยืนยันตัวตนให้ดูว่า ตนอยู่ในห้อง และไม่ใช้ "โอดิน" ที่กำลังพูดในคลัปเฮ้าส์
นายติณณภพ เปิดเผยว่า เรื่องรายการพูดคุยในคลับเฮ้าส์เหยียดคนอีสานเป็นประเด็นร้อนตั้งแต่วันที่ 5พ.ย. 2564 แต่ตนไม่ทราบเลยว่าผู้ใช้ชื่อ "โอดิน" เอารูปหน้าตนไปแอบอ้างใช้ด่า "พี่หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" รวมถึง "ลิซ่า BLACKPINK" และด่าคนอีสาน
ซึ่งตนก็เข้าใจว่าเหล่าแฟนคลับอาจจะเสพข่าวไม่ครบ ไม่คัดกรอง จึงแชทมาด่า ตนจึงไม่โกรธ หรือถือโทษเพราะคนเหล่านั้นยังไม่รู้ข้อเท็จจริง
ทั้งนี้ตนเองได้ปรึกษาทางครอบครัวและผู้ใหญ่ที่รู้เรื่องกฎหมาย ทุกคนเห็นตรงกันว่าเรารวบรวมข้อมูล รายชื่อกลุ่มบุคคลไว้ทั้งหมด เป็นหลักฐานดำเนินคดีอย่างถึงที่สุดไม่ขอยอมความ
นอกจากนี้ขอยืนยันต่อหน้าสื่อว่าอเล็กซ์คืออเล็กซ์ โอดินคือโอดิน และตนไม่ใช่โอดิน รวมถึงหากหลังจากนี้มีใครก็ตามตนดำเนินคดีทั้งหมด และตนจะระมัดระวังเรื่องการใช้สื่อโซเชียลให้มากที่สุดด้วย
นายติณณภพ ทิ้งทายว่า "ไม่อยากพูดถึง ผู้ใช้ชื่อ "โอดิน" แต่คนเราโตแล้วจะต้องแยกแยะได้และมีสมองคิดว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควร ซึ่งตนมองว่าคนเหล่านี้ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูของพ่อแม่ ตนจึงไม่อยากจะโกรธ"