ไม่ฉีดวัคซีนไม่ทำคลอดให้!สุดท้ายลูกตาย รพ.แจงแต่ยังคาใจ

แม่วัยสาวสุดงง? เจ็บท้องจะคลอด รพ.ให้ฉีดวัคซีนโควิด ไม่งั้นไม่ทำคลอดให้ จนต้องยอม สุดท้ายลูกตาย รพ.แจงรกพันคอ คาใจฝากท้องที่นี่ และหมอบอกลูกแข็งแรง

จากกรณีเพจ "อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part 1" ได้โพสต์ภาพการสนทนาของคุณแม่ที่ทาง รพ.ทำคลอดออกมาแล้วลูกเสียชีวิต พร้อมกับข้อความที่ "ฉีด SV ให้คนท้องใกล้คลอดได้ไหม เกี่ยวกันไหม คลอดลูกแล้วเด็กเสียชีวิต หมอแจ้งว่ารกพันคอ แต่ญาติยังมีข้อสงสัย ทาง รพ.ชี้แจงให้ญาติสิ้นสงสัยด้วยคะ"

ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 4 พ.ย.64 ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปยัง รพ.แห่งหนึ่งใน จ.อำนาจเจริญ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยทาง รพ. ได้นัด น.ส.พัชราพร (ขอสงวนนามสกุล) ผู้เสียหายพร้อมครอบครัวเข้ามาชี้แจง โดยเจ้าหน้าที่ รพ. ไม่อนุญาตให้ทีมข่าวเข้าร่วมรับฟัง และไม่อนุญาตให้บันทึกภาพ ภายในบริเวณภายในโรงพยาบาลแต่อย่างใด

จากการสอบถาม น.ส.พัชราพร หลังเข้าพูดคุยเสร็จแล้ว ก็ได้เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ตนรู้สึกเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากตนอุ้มท้องลูกมาตั้ง 9 เดือน เฝ้ารอวันที่จะได้เจอหน้าลูกในวันที่เขาลืมตาดูโลก แต่วันที่เกิดเหตุตนเจ็บท้องคลอด จึงได้เดินทางมาที่ รพ. เพื่อที่จะทำคลอด แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าตนต้องฉีดวัคซีนโควิด-19 เสียก่อน ไม่งั้นเจ้าหน้าที่ รพ.จะไม่ทำคลอดให้ ตนก็สงสัยว่าทำให้ต้องฉีดวัคซีน แต่ถ้าไม่ได้ฉีดก็ไม่ได้ทำคลอด

ตนจึงได้ตัดสินใจฉีด เพื่อที่จะได้เข้าทำคลอด แต่พอทำคลอดเสร็จ เจ้าหน้าที่กลับบอกว่าลูกของตนเสียชีวิตจากการที่รกพันคอเด็ก ซึ่งมันใช่เหรอ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตนมาฝากครรภ์ที่ รพ.ประจำ ตรวจทุกครั้ง เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าลูกของตนแข็งแรงดี แต่ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ตนเชื่อว่าส่วนหนึ่งมาจากการฉีดวัคซีนจึงทำให้ลูกของตนได้รับผลกระทบด้วย ตนรู้สึกเสียใจ และอยากให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้ พร้อมกับเยียวยาให้กับครอบครัวของตนที่ต้องเสียลูกไป

ด้าน นายจันที สิงสีพา ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยกับทีมข่าวว่า วันนี้ตนได้พาผู้เสียหายซึ่งเป็นลูกบ้านของตน เข้าไปพูดคุยถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่ โดยเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงว่า จะตรวจอบสาเหตุการตายของเด็กอย่างละเอียดครั้ง พร้อมกับจะส่งเรื่องเข้าไปที่ตัวจังหวัด เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

ซึ่งตนก็อยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อตรวจสอบอย่างละเอียด ให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายไม่อยากให้เรื่องเงียบหายไป และมีการเยียวยาให้กับผู้เสียหายที่ต้องสูญเสียลูกไป หลังจากที่เด็กในท้องเสียชีวิต ครอบครัวผู้เสียหายก็ไม่ได้มีการจัดงานบำเพ็ญกุศลแต่อย่างใด เนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจน ประกอบกับช่วงโควิดระบาด จึงได้ทำได้เพียงแค่นำศพของเด็กไปฝั่งที่ป่าช้าเท่านั้น