เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ทรงทักทายเป็นกันเองกับ ประยุทธ์เผยทรงพูดเรื่องอะไร
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ทรงทักทายเป็นกันเองกับ ประยุทธ์เผยทรงพูดเรื่องอะไร
เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ทรงทักทายจับแขนอย่างเป็นกันเองกับ 'ประยุทธ์' เผยทรงชื่นชมความสัมพันธ์อันยาวนาน พอใจภาพรวมการแสดงบทบาทไทยในเวทีโลก
เมื่อวันที่ 2 พ.ย 2564 ที่เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ระหว่างงานเลี้ยงรับรองผู้นำประเทศต่างๆ (World Leaders Summit) ที่เข้าร่วมการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 26 ที่เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ องค์มกุฎราชกุมารแห่งราชวงศ์อังกฤษ เจ้าชายแห่งเวลส์ แห่งสหราชอาณาจักร ทรงทักทาย อย่างเป็นกันเอง และทรงจับแขน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ของไทย โดยมีพระราชปฏิสันถารอย่างเป็นกันเองมาก
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ เปิดเผยว่า ในการพบกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ องค์มกุฎราชกุมารแห่งราชวงศ์อังกฤษ เจ้าชายแห่งเวลส์แห่งสหราชอาณาจักร เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ทรงชื่นชมประเทศไทย ที่มีความสัมพันธ์ต่อเนื่อง ใกล้ชิดมายาวนาน และจะคงพัฒนาต่อไป ทั้งนี้ทรงสอบถามถึงสถานการณ์โควิด-19 ของไทยที่สามารถบริหารจัดการด้วยดี ขอชื่นชม ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีฝากความระลึกถึงและความปรารถนาดีถึงราชวงศ์อังกฤษ ด้วย
ด้าน น.ส.ไตรศลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ขอบคุณคณะเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งจากกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานต่างๆ ที่สนับสนุนภารกิจการเข้าร่วมประชุมระดับผู้นำ (World Leaders Summit) ในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 26 (UNFCCC: COP26) ณ เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 31 ต.ค. - 3 พ.ย. 2564 ให้ผ่านลุล่วงไปด้วยดี
"นายกรัฐมนตรีพอใจกับภาพรวมของการได้ร่วมแสดงบทบาทของประเทศไทยในเวทีระหว่างประเทศในครั้งนี้ ซึ่งเป็นอีกครั้งที่ไทยได้ร่วมกับนานาประเทศแสดงจุดยืน และความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปัญหาโลกร้อน ซึ่งต้องดำเนินการหลายด้านพร้อมกัน ทั้งการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การดำเนินนโยบายในระดับมหภาคเพื่อให้ภาครัฐ อุตสาหกรรม ธุรกิจ และประชาชน เห็นความสำคัญของปัญหาและร่วมกันแก้ไข"
น.ส.ไตรศุลี กล่าวต่อว่า การผลักดันเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว หรือ BCG ตลอดจนการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า หรือยานยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาด เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ให้สิทธิประโยชน์สูงสุด ตามมาตรการส่งเสริมการลงทุนของสำนักงานบีโอไอ รวมถึงสิทธิประโยชน์ของหน่วยงานต่างๆ เพื่อจูงใจการลงทุน เป็นหนึ่งในการแสดงความมุ่งมั่นของรัฐบาล ในการผลักดันให้ภาคอุตสาหกรรม และธุรกิจของประเทศเป็นการผลิตและการบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
"นายกรัฐมนตรีย้ำว่าการร่วมกับนานาประเทศเพื่อลดปัญหาโลกร้อน หรือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศส่วนของรัฐบาลจะให้ความสำคัญกับการกำหนดยุทธศาสตร์และนโยบายที่ให้ความสำคัญกับการจูงใจให้ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการมีมาตรการสร้างแรงจูงให้เอกชนลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย BCG และความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัยความร่วมมือและพลังจากภาคประชาชน ภาคเอกชนทั้งภาคอุตสาหกรรมและบริการ ร่วมกันขับเคลื่อน"
น.ส.ไตรศุลี กล่าวต่อว่า หลังเสร็จสิ้นภารกิจการประชุมนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะจะเดินทางกลับจากสหราชอาณาจักร ถึงท่าอากาศยานทหาร 2(กองบิน 6) ในวันที่ 3 พ.ย. 64 เวลาประมาณ 18.40 น.
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น