หลักฐานโผล่!เจ้าคณะดังทุจริตมีทั้งรถหรู-ที่ดิน

หลักฐานโผล่เพียบ ทุจริตมูลนิธิพุทธมณฑลจันทบุรี แฉเจ้าคณะสอยดาว มีรถหรู - ที่ดินอีกหลายแปลง

กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป.เข้าตรวจสอบการทุจริตงบสนับสนุนมูลนิธิพุทธมณฑลจันทบุรี ในการก่อสร้างอาคารสำนักงานมูลนิธิ พร้อมกับดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้องคือนายธนภณ กิจกาญจน์ หรือนายกโจ้ นายกฯอบจ.จันทบุรี นายภูวนาถ บำรุงพันธุ์ อดีต ผอ.กองแผน พระครูสุทธิตารกาภิรักษ์ เจ้าอาวาสวัดสุทธิวารี และเจ้าคณะอำเภอสอยดาว และนายเกศสยาม ร่วมดี เจ้าของ หจก.สยามช่างบูรพา ตามที่ได้เป็นข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 20 ต.ค.2564 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งสอบสวน และตรวจสอบหลักฐานต่างๆเพิ่มเติม รวมทั้งตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มผู้ต้องหาว่า เงินกว่า 17 ล้านบาทที่ถูกทุจริตไปนั้น ถูกยักย้ายถ่ายเทไปที่ใดบ้าง โดยได้ประสานขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องแล้ว ส่วนจะมีการขยายผลเอาผิดบุคคลอื่นๆเพิ่มเติมและดำเนินคดีตามพ.ร.บ.ฟอกเงินด้วยหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน หากพบเชื่อมโยงถึงบุคคลใด ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้น

ขณะที่รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระครูสุทธิตารกาภิรักษ์ พบข้อมูลและหลักฐานสำคัญหลายรายการตั้งแต่เดือนเม.ย. - ต.ค. 2554 พระครูสุทธิตารกาภิรักษ์ ในฐานะกรรมการมูลนิธิพุทธมณฑลจันทบุรี ซึ่งเป็นดูแลรับผิดชอบการเบิกจ่ายเงินของมูลนิธิฯ ได้เบิกถอนเงินสดของมูลนิธิฯออกมา 10 ครั้ง ครั้งละ 5 แสนบาท รวมเป็นเงิน 5 ล้านบาท ก่อนนำไปซื้อแคชเชียร์เช็คในนามส่วนตัว

ซึ่งหลักฐานการเบิกถอนเงินดังกล่าว ก็สอดคล้องกับช่วงเวลาที่ พระครูสุทธิตารกาภิรักษ์ ไปซื้อรถยนต์โตโยต้า Alphard หมายเลขทะเบียน กต 3533 จันทบุรี เมื่อปี 2555 มูลค่า 3.5 ล้านบาทด้วยเงินสด โดยใช้ชื่อของตนเองเป็นผู้ครอบครองรถคันดังกล่าว

นอกจากนี้จากการเข้าตรวจค้นกุฏิ ยังพบเอกสารโฉนดที่ดินบริเวณรอบข้างติดกับพื้นที่พุทธมณฑลหลายแปลง รวมพื้นที่กว่า 10 ไร่ ทั้งหมดมีชื่อพระครูสุทธิตารกาภิรักษ์ เป็นผู้ครอบครอง ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบที่ไปที่มาของที่ดินดังกล่าวด้วย

ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ยังพบหลักฐานเป็นเอกสารการยื่นเสียภาษีประจำปีต่อสรรพากร ของ หจก.สยามช่างบูรพา บริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างอาคารดังกล่าว ที่มีการแจ้งยอดเงินค่ารับเหมาตามจริงเป็นจำนวนเงิน 12.7 ล้านบาท ไม่ใช่ยอดเงิน 30 ล้านบาท ตามที่มีการระบุในเอกสารการยื่นของบจัดสร้างอีกด้วย