มาเลเซียเจรจาไทย ส่งสาวสองรับโทษ ฐานแต่งหญิงผิดกฎหมายอิสลาม
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ มาเลเซียเจรจาไทย ส่งสาวสองรับโทษ ฐานแต่งหญิงผิดกฎหมายอิสลาม
ทางการมาเลเซียเจรจารัฐบาลไทยขอให้ส่งสาวสองกลับไปรับโทษตามกฎหมายอิสลาม ฐานแต่งกายเป็นผู้หญิงทำพิธีกรรมตามที่สาธารณะ
นูร ซาญัต (Nur Sajat) สาวประเภทสอง ผู้เป็นเจ้าของกิจการผลิตเครื่องสำอางคนดังของประเทศมาเลเซียถูกจับโดยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองประจำไทย ก่อนจะมีการเจรจาระหว่างประเทศเพื่อส่งตัวผู้ต้องหากลับไปพิจารณาคดีที่ค้างคาอยู่ในประเทศมาเลเซีย
เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นูร ซาญัตหรือมุฮัมมัด ซาญัต กามารุซซามาน (Muhammad Sajad Kamaruzzaman) วัย 36 ปี หลบหนีหายไปจากบ้านเกิดหลังจากไม่ปรากฏตัวในระหว่างการพิจารณาคดีที่มีขึ้นเพื่อจัดการกับประพฤติมิชอบของเธอสำหรับการแต่งกายชุดบาจูกุรุงหรือชุดประจำชาติสำหรับผู้หญิงในงานการกุศลอิสลามที่โรงเรียนสอนศาสนาในปี 2561
ศาลรัฐบาลกลางยึดถือกฎหมายชารีอะห์ที่ห้ามผู้ชายแต่งตัวเป็นผู้หญิงและการกระทำของเธอถือเป็นการดูหมิ่นความศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาอิสลาม ทำให้เธอถูกตั้งข้อหาตามมาตรา 10 (a)
หากถูกตัดสินว่ามีความผิด เธออาจต้องจ่ายเงินชดใช้สูงสุด 5,000 ริงกิตหรือเกือบ 40,000 บาท จำคุกไม่เกินสามปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 10 หมายถึง ความผิดตามหลักชารีอะฮ์ ในการดูหมิ่นศาสนาอิสลามหรือทำให้ศาสนาอิสลามถูกดูหมิ่น ไม่ว่าจะด้วยการเยาะเย้ย ดูหมิ่นศรัทธา หรือการปฏิบัติและพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องทั้งในรูปแบบลายลักษณ์อักษร รูปภาพ หรือวิดีโอ
นูร ซาญัต (Nur Sajat) สาวประเภทสอง ผู้เป็นเจ้าของกิจการผลิตเครื่องสำอางคนดังของประเทศมาเลเซียถูกจับโดยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองประจำไทย ก่อนจะมีการเจรจาระหว่างประเทศเพื่อส่งตัวผู้ต้องหากลับไปพิจารณาคดีที่ค้างคาอยู่ในประเทศมาเลเซีย
เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นูร ซาญัตหรือมุฮัมมัด ซาญัต กามารุซซามาน (Muhammad Sajad Kamaruzzaman) วัย 36 ปี หลบหนีหายไปจากบ้านเกิดหลังจากไม่ปรากฏตัวในระหว่างการพิจารณาคดีที่มีขึ้นเพื่อจัดการกับประพฤติมิชอบของเธอสำหรับการแต่งกายชุดบาจูกุรุงหรือชุดประจำชาติสำหรับผู้หญิงในงานการกุศลอิสลามที่โรงเรียนสอนศาสนาในปี 2561
ศาลรัฐบาลกลางยึดถือกฎหมายชารีอะห์ที่ห้ามผู้ชายแต่งตัวเป็นผู้หญิงและการกระทำของเธอถือเป็นการดูหมิ่นความศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาอิสลาม ทำให้เธอถูกตั้งข้อหาตามมาตรา 10 (a)
หากถูกตัดสินว่ามีความผิด เธออาจต้องจ่ายเงินชดใช้สูงสุด 5,000 ริงกิตหรือเกือบ 40,000 บาท จำคุกไม่เกินสามปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 10 หมายถึง ความผิดตามหลักชารีอะฮ์ ในการดูหมิ่นศาสนาอิสลามหรือทำให้ศาสนาอิสลามถูกดูหมิ่น ไม่ว่าจะด้วยการเยาะเย้ย ดูหมิ่นศรัทธา หรือการปฏิบัติและพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องทั้งในรูปแบบลายลักษณ์อักษร รูปภาพ หรือวิดีโอ
สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองประจำไทยได้ติดตามนูร ซาญัต ตั้งแต่เดือนมีนาคม โดยอิงจากข้อมูลที่ตำรวจมาเลเซีย (PDRM) แบ่งปันให้กับทางการไทยจนกระทั่งเดือนมิถุนายนจึงพบสถานที่หลบซ่อนเป็นคอนโดมิเนียมสุดหรูใจกลางกรุงเทพฯ
หลังจากการสืบข่าวและการสังเกตการณ์ เมื่อวันที่ 8 กันยายน เวลาประมาณ 18.00 น. ได้บุกเข้าไปควบคุมตัวพร้อมกับชายและหญิงชาวไทย โดยถูกนำตัวไปคุมขังที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ฐานความผิดที่เข้าเมืองหรือเป็นผู้อพยพผิดกฎหมาย
เมื่อวันที่ 10 กันยายน นูร ซาญัตได้รับการปล่อยตัวด้วยเงินประกันตัว 2,000 ดอลลาร์หรือมากกว่า 66,000 บาท โดยชาวมาเลย์ชื่อมิชา ถึงแม้ว่าเธอจะได้รับการประกันตัว แต่นูร ซาญัตก็ได้รับคำสั่งให้ไปปรากฏตัวที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองประจำประเทศไทยทุก 14 วันอย่างไรก็ตาม รัฐบาลมาเลเซียกำลังเจรจากับรัฐบาลไทยเพื่อนำตัวนูร ซาญัตกลับไปดำเนินคดีในศาลศาลฎีกาชารีอะฮ์ในรัฐสลังงอร์
รายงานข่าวในประเทศไทยเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่จากยูเอ็นเอชซีอาร์มารับตัวสาวสองคนดังของมาเลเซียไปแล้ว หลังจากหญิงสาวขอลี้ภัยไปยังประเทศออสเตรเลีย
หลังจากการสืบข่าวและการสังเกตการณ์ เมื่อวันที่ 8 กันยายน เวลาประมาณ 18.00 น. ได้บุกเข้าไปควบคุมตัวพร้อมกับชายและหญิงชาวไทย โดยถูกนำตัวไปคุมขังที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ฐานความผิดที่เข้าเมืองหรือเป็นผู้อพยพผิดกฎหมาย
เมื่อวันที่ 10 กันยายน นูร ซาญัตได้รับการปล่อยตัวด้วยเงินประกันตัว 2,000 ดอลลาร์หรือมากกว่า 66,000 บาท โดยชาวมาเลย์ชื่อมิชา ถึงแม้ว่าเธอจะได้รับการประกันตัว แต่นูร ซาญัตก็ได้รับคำสั่งให้ไปปรากฏตัวที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองประจำประเทศไทยทุก 14 วันอย่างไรก็ตาม รัฐบาลมาเลเซียกำลังเจรจากับรัฐบาลไทยเพื่อนำตัวนูร ซาญัตกลับไปดำเนินคดีในศาลศาลฎีกาชารีอะฮ์ในรัฐสลังงอร์
รายงานข่าวในประเทศไทยเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่จากยูเอ็นเอชซีอาร์มารับตัวสาวสองคนดังของมาเลเซียไปแล้ว หลังจากหญิงสาวขอลี้ภัยไปยังประเทศออสเตรเลีย
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น