“รพ.สนาม มธ.” เตือน! เตรียมตัวเฝ้าระวัง หวั่นโควิดระบาดระลอก5
เมื่อวันศุกร์ ที่รพ.ธรรมศาสตร์ เราได้ฉีดไฟเซอร์ให้ผู้ป่วยเด็กอายุน้อยกว่า 18 ปีไปได้สองร้อยกว่าคน ทั้งหมดเป็นผู้ป่วยของ รพ.ธรรมศาสตร์เอง เราฉีดได้ค่อนข้างน้อยเพราะเราได้รับวัคซีนไฟเซอร์มาน้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนของโรงพยาบาล
วันจันทร์ที่ 30 สิงหาคม วันที่ 142 ของโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ เวฟ3+4
และวันที่ 81 ของศูนย์รับวัคซีนธรรมศาสตร์รังสิต
ตัวเลข 15,972 คน ซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่เช้าวันนี้ แม้จะดูเยอะอยู่ แต่ก็ลดลงจากเมื่อวานตามที่คาดว่าจะเป็น ทำให้ความคาดหวังที่จะเห็นตัวเลขผู้ป่วยใหม่ลดต่ำกว่าหมื่นห้าพันคนในเช้าวันแรกของเดือนกันยายนมีโอกาสเป็นไปได้มากยิ่งขึ้น แม้ว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 256 ราย จะยังคงน่าหนักใจอยู่เช่นเดิมก็ตาม
อีกสองวันเราจะเริ่มคลายล็อกตามมาตรการของรัฐบาล ด้วยเหตุผลในทางเศรษฐกิจและสังคมที่คงจะหลีกเลี่ยงลำบาก หลังมาตรการนี้คงจะมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมที่ทำให้มีการสัมผัสใกล้ชิดระหว่างผู้คนมากขึ้น ซึ่งก็แน่นอนว่าจะทำให้เกิดการติดเชื้อจากผู้ป่วยที่มีอาการและไม่ทราบว่าตนเองป่วย มากขึ้นกว่าเดิมประกอบกับการที่เรายังฉีดวัคซีนป้องกันโรคได้ยังไม่มากนัก
จนถึงวันนี้ ตัวเลขผู้ที่ได้รับวัคซีนครบสองเข็มทั่วประเทศยังอยู่ที่ประมาณ 7.36 ล้านคนเท่านั้น ดังนั้น สถานการณ์ของเวฟ5 จากตัวอย่างที่เกิดขึ้นในหลายประที่จะมาหลังจากนี้ คงเลี่ยงไมได้ที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทยแน่ ๆ คงต้องเตรียมตัวกันให้ดีทั้งระบบโรงพยาบาล ระบบบริหารบุคลากร ยาและเวชภัณฑ์ ตลดจนการบริหารจัดการเรื่องระบบดูแลผู้ป่วย ซึ่งทุกประเทศในโลกจะมีผู้ป่วยเวฟใหม่เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าเท่าตัวไปจนถึง 4-5 เท่าของเวฟก่อนหน้านั้น
ถ้าเราคลายล็อคในช่วงนี้ และสถานการณ์การระบาดเริ่มลดลงแล้ว การรายงานสถานการณ์รายวันของโควิดจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์และระบบบริการโควิดเสริมของพวกเรา ไม่ว่าจะเป็นที่โรงพยาบาลสนาม ศูนย์รับวัคซีน และโครงการ Home Isolation ก็อาจจะไม่จำต้องรายงานต่อเนื่องทุก ๆ วันเช่นเดิมอีกแล้ว เหมือนกับที่ ศบค.ก็มีการแถลงข่าวสรุปสถานการณ์เพียงสัปดาห์ละสองหนเท่านั้น เดี๋ยววันพรุ่งนี้เราไปหารือกันแล้วจะมาแจ้งว่า เราอาจจะไม่ต้องรายงานสถานการณ์โควิดทุก ๆ วันเหมือนที่ทำมาตลอดห้าเดือนเต็มอีกแล้วนะ
สำหรับที่โรงพยาบาลสนาม วันนี้มีผู้ป่วยเข้ามาใหม่ไม่มากนัก สอดคล้องกับสถานการณ์ของประเทศ มีจำนวน 13 ราย และมีผู้ป่วยที่รักษาหายแล้วกลับบ้านได้ 20 คน ทำให้จำนวนรวมของผู้ป่วยที่โรงพยาบาลสนามเหลืออยู่ที่ 291 คน ตัวเลขนี้ทำให้เรามีความหวังได้มากขึ้นว่า สิ้นเดือนกันยายนนี้ แม้เราจะยังหยุดรับผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ (ที่ถึงตอนนั้นอาจจะใกล้ ๆ หกเดือนเต็มสำหรับเวฟ 3+4 ) ยังไม่ได้ แต่อาจจะมีการลดขนาดโรงพยาบาลสนามลงให้เหลือประมาณ 100-200 เตียงก็เป็นได้นะ