จีนส่ง‘วัคซีน’ให้ไทยเพิ่ม 1 ล้านโดส ย้ำเคียงข้างไทยต่อสู้โควิด
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ จีนส่ง‘วัคซีน’ให้ไทยเพิ่ม 1 ล้านโดส ย้ำเคียงข้างไทยต่อสู้โควิด
22 สิงหาคม 2564 เพจเฟซบุ๊ก Chinese Embassy Bangkok สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย โพสต์ข้อความหัวข้อ "ความร่วมมือด้านวัคซีนระหว่างจีน-ไทย พัฒนาอย่างต่อเนื่อง"
มีเนื้อหาดังนี้...
เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม วัคซีนโควิด-19 ของประเทศจีนล็อตที่ 25 จำนวน 1 ล้านโดสส่งมาถึงกรุงเทพฯ ขณะนี้ ประเทศจีนได้ส่งวัคซีนให้ประเทศไทยทั้งหมด 25.55 ล้านโดส
ปีนี้ ประเทศจีนได้ส่งความช่วยเหลือทางด้านวัคซีนมาให้ประเทศไทยในโอกาสแรก โดยพยายามหาทางออกในความยากลำบากที่ภายในประเทศต้องการใช้วัคซีนเยอะจนทำให้ผลิตไม่ทัน เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ วัคซีนจีนจำนวน 200,000 โดสส่งถึงกรุงเทพฯ ซึ่งก็เป็นวัคซีนล็อตแรกที่รัฐบาลไทยได้รับ 6 เดือนที่ผ่านมา จีนได้รักษาคำมั่นสัญญา ส่งวัคซีนให้ประเทศไทยอย่างทันท่วงที ต่อเนื่องและตรงเวลาตามที่ได้นัดหมาย จำนวนวัคซีนจีนที่ส่งเข้ามามากกว่า 60% ของวัคซีนนำเข้าทั้งหมดในประเทศไทย ซึ่งก็เป็นการสร้างหลักประกันชีวิตและสุขภาพให้ประชาชนไทย
วัคซีนทั้งหมดที่ฝ่ายจีนส่งมาให้ฝ่ายไทยนั้น องค์การอนามัยโลกหรือ WHO ได้รับรองให้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน และได้ผ่านการวิจัยและทดลองในมนุษย์ในระยะต่างๆ ตามข้อกำหนดของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของไทยอย่างเคร่งครัด เป็นวัคซีนที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพและมีคุณภาพ มีผลในการป้องกันและสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีต่อไวรัสกลายพันธุ์ต่างๆ เช่น Delta เมื่อเร็วๆนี้ ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขไทยชี้ให้เห็นว่า ประสิทธิผลของวัคซีนซิโนแวคในการป้องกันการติดเชื้ออยู่ที่ 72 % ป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิตได้ถึง 98% และเมื่อเจอกับไวรัสกลายพันธุ์ ประสิทธิผลก็ยังคงที่
ข้อมูลจากสถาบันวิจัยสุขภาพแห่งชาติของประเทศเปรูในเดือนกรกฎาคมแสดงให้เห็นว่า วัคซีนซิโนฟาร์มมีประสิทธิผลในการป้องกันการเสียชีวิตถึง 94% วารสารทางการแพทย์ที่น่าเชื่อถือ เช่น "New England Journal of Medicine" และ "The Lancet" ได้ตีพิมพ์รายงานการวิจัยที่เกี่ยวข้องเช่นกัน ต่างยืนยันว่าวัคซีนจีนได้มาตรฐานความปลอดภัยและประสิทธิผล เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ปัจจุบัน ประเทศต่างๆทั่วโลกกว่า 100 ประเทศได้อนุมัติการใช้วัคซีนจีน และมีผู้นำกว่า 30 ประเทศได้ฉีดวัคซีนจีนแล้ว ประชาคมโลกให้ความไว้วางใจกับวัคซีนที่มีคุณภาพสูงของจีน
ในการต่อสู้กับไวรัส ต้องยึดมั่นในหลักการที่"ประชาชนเป็นหลัก"และ "ชีวิตเหนือสิ่งอื่นใด" ประเทศจีนได้เสนอคำมั่นสัญญาในโอกาสแรกว่า จะให้วัคซีนเป็นผลิตภัณฑ์สาธารณะของโลก และก็ได้พยายามปฏิบัติตามนี้ ปัจจุบัน จีนได้ส่งวัคซีนมากกว่า 800 ล้านโดสไปทั่วโลก โดยเฉพาะส่งไปที่ประเทศกำลังพัฒนา เป็นประเทศที่ส่งออกวัคซีนมากที่สุดในโลก ขณะเดียวกัน จีนยังได้ดำเนินความร่วมมือด้านการผลิตกับประเทศกำลังพัฒนาหลายประเทศ เพื่อขยายกำลังการผลิตวัคซีนทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ให้คำมั่นสัญญาอย่างหนักแน่นในบทกล่าวที่การประชุมครั้งแรกของ International Forum on Covid-19 Vaccine Cooperation ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ว่า ปีนี้ประเทศจีนจะพยายามส่งวัคซีน 2 พันล้านโดสไปให้ทั่วโลก และจะบริจาค 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯให้โครงการCOVAX เพื่อใช้ในการจัดสรรวัดซีนให้กับประเทศกำลังพัฒนา
การที่ประเทศจีนดำเนินความร่วมมือระหว่างประเทศทางด้านวัคซีนนั้น ไม่เคยมีเงื่อนไขทางการเมือง และไม่เคยหวังผลประโยชน์ใดๆ ยิ่งจะไม่ใช้ประโยชน์เพื่อแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่นๆ เป้าหมายอย่างเดียวก็คือ ร่วมมือกับประเทศไทยและประเทศต่างๆ เพื่อได้รับความชัยชนะในการต่อสู้กับโควิด-19ในเร็ววัน
มีเนื้อหาดังนี้...
เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม วัคซีนโควิด-19 ของประเทศจีนล็อตที่ 25 จำนวน 1 ล้านโดสส่งมาถึงกรุงเทพฯ ขณะนี้ ประเทศจีนได้ส่งวัคซีนให้ประเทศไทยทั้งหมด 25.55 ล้านโดส
ปีนี้ ประเทศจีนได้ส่งความช่วยเหลือทางด้านวัคซีนมาให้ประเทศไทยในโอกาสแรก โดยพยายามหาทางออกในความยากลำบากที่ภายในประเทศต้องการใช้วัคซีนเยอะจนทำให้ผลิตไม่ทัน เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ วัคซีนจีนจำนวน 200,000 โดสส่งถึงกรุงเทพฯ ซึ่งก็เป็นวัคซีนล็อตแรกที่รัฐบาลไทยได้รับ 6 เดือนที่ผ่านมา จีนได้รักษาคำมั่นสัญญา ส่งวัคซีนให้ประเทศไทยอย่างทันท่วงที ต่อเนื่องและตรงเวลาตามที่ได้นัดหมาย จำนวนวัคซีนจีนที่ส่งเข้ามามากกว่า 60% ของวัคซีนนำเข้าทั้งหมดในประเทศไทย ซึ่งก็เป็นการสร้างหลักประกันชีวิตและสุขภาพให้ประชาชนไทย
วัคซีนทั้งหมดที่ฝ่ายจีนส่งมาให้ฝ่ายไทยนั้น องค์การอนามัยโลกหรือ WHO ได้รับรองให้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน และได้ผ่านการวิจัยและทดลองในมนุษย์ในระยะต่างๆ ตามข้อกำหนดของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของไทยอย่างเคร่งครัด เป็นวัคซีนที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพและมีคุณภาพ มีผลในการป้องกันและสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีต่อไวรัสกลายพันธุ์ต่างๆ เช่น Delta เมื่อเร็วๆนี้ ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขไทยชี้ให้เห็นว่า ประสิทธิผลของวัคซีนซิโนแวคในการป้องกันการติดเชื้ออยู่ที่ 72 % ป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิตได้ถึง 98% และเมื่อเจอกับไวรัสกลายพันธุ์ ประสิทธิผลก็ยังคงที่
ข้อมูลจากสถาบันวิจัยสุขภาพแห่งชาติของประเทศเปรูในเดือนกรกฎาคมแสดงให้เห็นว่า วัคซีนซิโนฟาร์มมีประสิทธิผลในการป้องกันการเสียชีวิตถึง 94% วารสารทางการแพทย์ที่น่าเชื่อถือ เช่น "New England Journal of Medicine" และ "The Lancet" ได้ตีพิมพ์รายงานการวิจัยที่เกี่ยวข้องเช่นกัน ต่างยืนยันว่าวัคซีนจีนได้มาตรฐานความปลอดภัยและประสิทธิผล เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ปัจจุบัน ประเทศต่างๆทั่วโลกกว่า 100 ประเทศได้อนุมัติการใช้วัคซีนจีน และมีผู้นำกว่า 30 ประเทศได้ฉีดวัคซีนจีนแล้ว ประชาคมโลกให้ความไว้วางใจกับวัคซีนที่มีคุณภาพสูงของจีน
ในการต่อสู้กับไวรัส ต้องยึดมั่นในหลักการที่"ประชาชนเป็นหลัก"และ "ชีวิตเหนือสิ่งอื่นใด" ประเทศจีนได้เสนอคำมั่นสัญญาในโอกาสแรกว่า จะให้วัคซีนเป็นผลิตภัณฑ์สาธารณะของโลก และก็ได้พยายามปฏิบัติตามนี้ ปัจจุบัน จีนได้ส่งวัคซีนมากกว่า 800 ล้านโดสไปทั่วโลก โดยเฉพาะส่งไปที่ประเทศกำลังพัฒนา เป็นประเทศที่ส่งออกวัคซีนมากที่สุดในโลก ขณะเดียวกัน จีนยังได้ดำเนินความร่วมมือด้านการผลิตกับประเทศกำลังพัฒนาหลายประเทศ เพื่อขยายกำลังการผลิตวัคซีนทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ให้คำมั่นสัญญาอย่างหนักแน่นในบทกล่าวที่การประชุมครั้งแรกของ International Forum on Covid-19 Vaccine Cooperation ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ว่า ปีนี้ประเทศจีนจะพยายามส่งวัคซีน 2 พันล้านโดสไปให้ทั่วโลก และจะบริจาค 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯให้โครงการCOVAX เพื่อใช้ในการจัดสรรวัดซีนให้กับประเทศกำลังพัฒนา
การที่ประเทศจีนดำเนินความร่วมมือระหว่างประเทศทางด้านวัคซีนนั้น ไม่เคยมีเงื่อนไขทางการเมือง และไม่เคยหวังผลประโยชน์ใดๆ ยิ่งจะไม่ใช้ประโยชน์เพื่อแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่นๆ เป้าหมายอย่างเดียวก็คือ ร่วมมือกับประเทศไทยและประเทศต่างๆ เพื่อได้รับความชัยชนะในการต่อสู้กับโควิด-19ในเร็ววัน
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น