พระกินไอติมยอมสึกแล้ว! รับโล่งใจขอกลับไปอยู่บ้าน

เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ที่ศาลาการเปรียญวัดสว่างเวหา บ้านกุดเชือก หมู่ 11 ต.บ้านลาน อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น นายสำราญ รัตนพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย พระครูเวฬุพัฒนาทร เลขานุการเจ้าคณะอำเภอบ้านไผ่ และผู้นำชุมชน ร่วมกันนำพระที่ปรากฏภาพในคลิปอมนกเขาให้คู่ขา เดินทางไปที่วัดมัชฌิมวิทยาราม บ้านลาน ต.บ้านลาน ให้พระอุปัชฌาย์ของพระรูปดังกล่าวทำการสึก เนื่องจากผิดวินัยสงฆ์ร้ายแรง

ภายหลังจากสึกมาเป็นฆราวาส นายเอ (นามสมมุติ) เปิดเผยว่า รู้สึกโล่งใจ ที่ได้ทำตามความต้องการของชาวบ้านและพระผู้ใหญ่ หลังจากนี้ก็จะกลับไปอยู่บ้าน และช่วยงานในวัดเท่าที่จะทำได้ ส่วนจะกลับมาบวชอีกครั้งหรือไม่นั้น ยังให้คำตอบไม่ได้ คงต้องพักรักษาตัวจากอาการป่วยจิตเวชไปก่อน

ขณะที่พระครูโชติธรรมสาร กล่าวว่า การบวชพระต้องเคร่งครัดในศีลในธรรม หากบวชแล้วปฏิบัติไม่ได้ก็ควรสึกออกไป ในส่วนของนายเอ นั้น ได้ทำการบวชให้ ซึ่งเมื่อบวชแล้วก็ได้เรียนหนังสือจนจบปริญญาตรี และเคยดำรงตำแหน่งพระธรรมทูตหลายปี เดินทางไปเผยแผ่พระศาสนาในหลายประเทศ ซึ่งไม่คิดว่าจะมาพบกับปัญหาเช่นนี้ ซึ่งการสึกจากพระ ถือเป็นการรับผิดชอบต่อพระสงฆ์และพระพุทธศาสนาที่ดี และอย่าได้ประพฤติอีก

ทางด้าน นายสำราญ รัตนพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า

 กรณีที่เกิดขึ้นและมีคลิปชายศีรษะโล้น แต่งกายพระสงฆ์อมนกเขาเผยแพร่ในโซเชียลนั้น เมื่อเห็นภาพก็รีบรายงานให้ผู้ปกครองพระสงฆ์ทราบ และรายงานผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น รายงานสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้ทราบตามขั้นตอน จากนั้นก็ลงพื้นที่ตรวจสอบ ซึ่งพบว่าเป็นพระในพื้นที่ อ.บ้านไผ่ จึงประสานกับเจ้าคณะอำเภอบ้านไผ่ เพื่อเข้าตรวจสอบตามขั้นตอน เมื่อตรวจสอบแล้วพบตัวตนพระที่ปรากฏตามคลิป โดยพระก็ยอมรับว่ามีการกระทำดังกล่าวจริง จึงได้แจ้งให้ผู้นำชุมชนทราบเรื่อง รวมถึงเจ้าอาวาสวัดสว่างเวหาและพระรูปดังกล่าว ทราบถึงขั้นตอนการปฏิบัติของสำนักงานพระพุทธศาสนา ที่จะต้องนำตัวไปให้พระอุปัชฌาย์ ทำการสึกให้ พระก็ยินยอมมาทำการสึก ถือว่าเสร็จสิ้นและจบลงด้วยดี เพราะพระไม่ขัดขืน.