ศบค.ปลดล็อกเปิดแบงก์ในห้าง ให้องค์กรตรวจ ATK พนง.
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ ศบค.ปลดล็อกเปิดแบงก์ในห้าง ให้องค์กรตรวจ ATK พนง.
ศบค.ปลดล็อก เปิดธนาคารในห้างได้ ให้องค์กรตรวจ ATK พนง.ที่มาทำงานทุกสัปดาห์ ตลาดต้องสุ่มตรวจเป็นระยะ ฟุ้ง ฉีดวัคซีนไขว้มีภูมิสูง
เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี PMOC ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) หรือ ศบค. เป็นประธานการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ครั้งที่ 12/2564 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
ต่อมาเวลา 16.00 น. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงผลการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ว่า ในที่ประชุม ศบค. ปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้แสดงแบบจำลองมาตรการป้องกันโควิด-19 หากไม่มีการใช้มาตรการใดๆ ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะไปแตะ 6-7 หมื่นรายในช่วงเดือน ก.ย. แต่หากมีมาตรการล็อกดาวน์ เวิร์กฟรอมโฮม ปิดกิจการที่เสี่ยงเหมือนที่ใช้ในปัจจุบันจะลดการระบาดได้ประมาณ 20% ซึ่งหากใช้มาตรการนี้ถึงวันที่ 31 ส.ค. กราฟผู้ติดเชื้อจะนิ่งไปถึงปลายเดือน ส.ค. และกราฟจะค่อยๆ โด่งในช่วงเดือน ต.ค. จนถึงเดือน พ.ย.
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า แต่ถ้ามาตรการเข้มขึ้นไปได้อีก 25% เราจะเห็นภาพการกดตัวเลขลงในปลายเดือน ก.ย. แต่ถ้ามีการระบาดอีกในเดือน ต.ค.จะทำให้ตัวเลขเพิ่มขึ้นไปได้ ขณะที่แบบจำลองผู้เสียชีวิตก็จะเป็นไปในลักษณะคล้ายกัน อย่างไรก็ตาม แบบจำลองนี้เป็นคาดการณ์ว่าถ้าเราเพิ่มมาตรการต่างๆ จะทำให้เราควบคุมโรคได้
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ที่ประชุมยังรับทราบมาตรการการจำกัดการเดินทางในพื้นที่ กทม.และชลบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (พื้นที่สีแดงเข้ม) พบว่าประชาชนให้ความร่วมมือลดการเดินทาง ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ที่ประชุมจึงให้คงระดับพื้นที่ไว้เช่นเดิมจนถึงวันที่ 31 ส.ค. แต่ให้เพิ่มการทดสอบ ค้นหา แยกกักในพื้นที่ กทม.และปริมณฑลด้วย และให้เพิ่มทีม CCRT ให้เพียงพอ
นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการขององค์กรต่างๆ ในพื้นที่สีแดงเข้ม ยังให้เน้นเวิร์กฟรอมโฮมอย่างต่อเนื่อง แต่ในส่วนที่ยังจำเป็นต้องมาปฏิบัติงาน ให้มีการคัดกรองด้วย ATK ทุกสัปดาห์ รวมถึงให้บริษัท ห้างร้านต่างๆ ที่มีพนักงานเกิน 50 คน ให้จัดเตรียมที่แยกกัก เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับพนักงานในการลงทะเบียนเข้ารักษาทั้งแบบ Home Isolation (HI) และ Community Isolation (CI) นอกจากนี้ ยังกำหนดมาตรการควบคุมโรคเฉพาะสถานที่ในพื้นที่สีแดงเข้ม ที่มีพนักงานเกิน 100 คน ต้องพิจารณาดำเนินการบับเบิลแอนด์ซีลเต็มรูปแบบ
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ส่วนตลาดค้าส่งขนาดใหญ่ ให้คัดกรองให้ผู้ค้าและแรงงานทุกสัปดาห์ สุ่มตรวจผู้มาใช้บริการเป็นระยะด้วย ATK รวมถึงให้เร่งรัดการฉีดวัคซีนสำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่ม 7 โรคประจำตัว และหญิงตั้งครรภ์อย่างน้อย 80% ใน กทม. อย่างน้อย 70% ในพื้นที่สีแดงเข้มอื่น และอย่างน้อย 50% ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ตลอดจนเร่งจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์ให้ผู้ป่วยระดับสีเขียวทั้งใน CI และ HI อีกทั้งรัฐจะสนับสนุนการตรวจคัดกรองโควิด-19 ด้วยตัวเอง โดยไม่ให้เป็นภาระแก่ประชาชน ทั้งการจำหน่ายราคาถูกและให้จัดหาให้ง่าย นอกจากนี้ หลังจากนี้จะมีพิจารณาแนวทางจัดทำ Thaicovid pass ให้กับประชาชนเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมพร้อมรับการเปิดประเทศ เช่น อาจเปิดให้ผู้ที่มี Thaicovid pass ไปนั่งรับประทานอาหารที่มีห้องแอร์
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ที่ประชุมยังมีการปรับมาตรการจำหน่ายสินค้าจำเป็น กิจการจำเป็นในห้างสรรพสินค้า เพื่อกระจายช่องทางการให้บริการและการอำนวยความสะดวกประชาชนที่มีการขอเปิดกิจการธนาคารและสถาบันการเงิน โดยในพื้นที่สีแดงเข้ม ให้ห้างสรรพสินค้าเปิดบริการได้เฉพาะร้านอาหาร เครื่องดื่ม เฉพาะรูปแบบดิลิเวอรี ร้านขาย ซุปเปอร์มาร์เก็ต และธนาคาร สถาบัน การเงิน ได้ไม่เกินเวลา 20.00 น.
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีการรายงานสรุปผลการฉีดวัคซีนโควิด-19 จนถึงวันที่ 15 ส.ค.ว่ามีการฉีดไปแล้วทั้งสิ้น 23,592,227 โดส แบ่งเป็นเข็มแรก 17,996,826 คน ได้รับวัคซีนสองเข็ม 5,109,476 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้ได้รับวัคซีนไขว้เข็มคือเข็มแรกเป็นซิโนแวค เข็มสองเป็นแอสตร้าเซนเนก้า จำนวน 974,563 คน โดยไม่มีอาการไม่พึงประสงค์ และมีผู้ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นแอสตร้าเซนเนก้าแล้ว จำนวน 195,520 คน
"จากการสำรวจผู้ได้รับวัคซีนซิโนแวคสองเข็ม แอสตร้าเซนเนก้าสองเข็ม และซิโนแวคไขว้แอสตร้าเซนเนก้าในจำนวนที่ใกล้เคียงกัน พบว่า ผู้ฉีดซิโนแวคสองเข็มมีภูมิคุ้มกัน 1006 แอสตราเซเนกาสองเข็ม มีภูมิคุ้มกัน 1207 และผู้ฉีดวัคซีนไขว้มีภูมิคุ้มกัน 3962 ถือว่ามากกว่ากลุ่มอื่นๆ เกือบ 4 เท่า" นพ.ทวีศิลป์กล่าวนพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ที่ประชุมวางเป้าหมายฉีดวัคซีนอย่างน้อย 10 ล้านโดสในเดือน ก.ย. โดยลำดับความสำคัญไปยังผู้สูงอายุ กลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ เพื่อลดอัตราการเสียชีวิต ซึ่งเกณฑ์การจัดสรรวัคซีนในเดือน ก.ย. ผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มแรกจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่สอง เพิ่มความครอบคลุมการได้รับวัคซีนในผู้สูงอายุให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 70 ในทุกจังหวัด กรณีหากหาวัคซีนได้น้อยกว่าเป้า จะจัดสรรลดลงตามสัดส่วนที่หาได้ นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เห็นชอบการจัดหาวัคซีนในช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย. เพื่อนำมาใช้ในช่วงที่ระยะเวลาที่วัคซีนมีจำกัดเพิ่มเติม และเป็นไปตามเป้าหมายจัดหาวัคซีน 100 ล้านโดสในปี 64 โดยจองซื้อวัคซีนจากบริษัทไฟเซอร์เพิ่มเติม 10 ล้านโดส ซึ่งผ่านความเห็นชอบของ ศบค.ไปแล้วเมื่อวันที่ 1 ส.ค. ให้องค์การเภสัชกรรม (อภ.) จัดหาวัคซีนซิโนแวคเพิ่มเติม 12 ล้านโดส และให้เจรจาหาซื้อวัคซีนอื่นๆ เพิ่มเติมอีก 10 ล้านโดส ภายในปี 64
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น