อนุทิน เคลียร์! ศึกเดือด ปมศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อ
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขยืนยัน ว่าได้จัดส่งวัคซีนทั้งหมดให้กับทาง กทม.แล้ว และโดยหลักการ ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจที่จะนำไปแจกจ่ายในความรับผิดชอบแต่ละพื้นที่ แต่ในประเด็นดังกล่าว พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร อาจตีความว่าในส่วนของ กทม.ก็ของกทม.แต่วัคซีนที่จะฉีดตามโรงพยาบาลเอกชนหรืออื่นๆไม่ใช่โควต้าวัคซีนของกทม. แต่ในความจริงในระบบมันใช่ ซึ่งถ้าวานนี้(27 ก.ค.)ผู้อำนวยการสำนักอนามัยหรือผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กทม.ออกมาชี้แจงก็จะชัดเจนกว่านี้ "ซึ่งในส่วน ของผู้ว่าฯ กทม.ก็ไม่มีอะไร มีแต่พูดคุยกันแบบเปิดเผย แล้วหลังจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ เบรกให้พอและให้ไปหาทำความเข้าใจกัน" นายอนุทินกล่าว
เมื่อถามว่าวันนี้ฉีดวัคซีนมาครึ่งปีแล้วทำไมกฎกติกาในการจัดสรรโควต้ายังมีความเห็นไม่ตรงกันอีก นายอนุทิน กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ใช่ ทุกคนอยากได้วัคซีนจำนวนมาก แต่การจัดสรรวัคซีนก็จัดสรรตามความจำเป็นของพื้นที่ สัดส่วนประชากร อย่างเดือนนี้ ต้องฉีดให้กับกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่ม 7 โรคเสี่ยง เพื่อต้องการลดอัตราการเสียชีวิตและการครองเตียง ฉะนั้นการจัดสรรวัคซีนและนโยบายเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ ทั้งหมดต้องดูยอดที่ได้รับมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน ถึง กรกฎาคม ได้รับวัคซีนมาตามเป้าทุกอย่างและความสามารถในการฉีดก็ได้ตามที่คาดการณ์ไว้ และพยามเพิ่มให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งทั้งสองอย่างต้องสอดคล้องกันวัคซีนต้องมาและความสามารถในการฉีดต้องไม่น้อยกว่าวัคซีนที่มา
เมื่อถามว่าคนของ ผู้ว่าฯ กทม.บอกว่าสิ่งที่อัดอั้นตันใจคือ จุดฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ เป็นจุดเดียวที่วัคซีนไม่เคยขาด ไม่เหมือนจุดอื่น จึงมีเรื่องความ หวาดระแวงทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องและต่อหน้า พล.อ.ประยุทธ์ จึงระบายความรู้สึกออกไป อย่างนี้จะชี้แจงอย่างไร
นายอนุทิน กล่าวว่า จุดฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับที่ พล.ต.อ.อัศวิน บ่น ซึ่งหากตนเป็น พล.ต.อ.อัศวิน จะชอบด้วยซ้ำที่มีจุดฉีดวัคซีนสถานกลางบางซื่อ มาช่วยแบ่งเบาในระดับหนึ่ง อย่าง จุดฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ เดือนที่ผ่านมาเน้นฉีดวัคซีนกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่ม 7 โรคเสี่ยง
แต่ประเด็นที่ พล.อ.ประยุทธ์ต้องเรียกประชุมเมื่อวานนี้ เกี่ยวกับจุดฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ คือ ความแออัดของคน ซึ่งจัดระเบียบกันลำบากเพราะคนเยอะและต้องเร่งฉีดให้กับกลุ่มผู้สูงอายุ และ กลุ่ม 7 โรคเสี่ยง สามารถวอล์คอินเข้ามาได้ แต่จนถึงแค่สิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมเป็นต้นไป ทุกอย่างจะกลับไปสู่การลงทะเบียนเหมือนเดิม ความแออัดจะลดลง แต่ก็ยังยกเว้นคนอายุ 75 ขึ้นไปสามารถวอล์คอินได้
"ผมกล้าพูดเพราะสัปดาห์หนึ่งแวะไป 4 วัน จะแออัดแค่ช่วงเช้า แต่เมื่อได้เข้าไปแล้วก็ไม่แออัด ทั้งนี้มุมกล้องหรืออะไรก็สามารถทำได้หมดเพื่อให้ดูแออัด แต่เมื่อคนมาเยอะเกินความสามารถที่จะจัดระเบียบได้ก็ต้องจัดระเบียบใหม่และแทนที่จะฉีดได้ 3 - 4 หมื่นคนก็ต้องลดเพื่อที่จะไม่ให้มีภาพของความกังวลของประชาชนทั่วไปเกิดขึ้น" นายอนุทิน กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าวันนี้จนถึงสิ้นเดือน ก.ค.ยังสามารถวอล์คอินได้และผู้สูงอายุกับคนติดตามฉีคได้ อย่างนี้จะทำให้ คนทะลักกันมาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้มีการจัดระเบียบใหม่และคงจะไม่หนักเท่าเดิม พล.อ.ประยุทธ์ เรียกประชุมเสร็จเราก็กลับมาจัดระเบียบใหม่ ซึ่งต้องเข้าใจว่าจะไปไล่ไปบอกว่าไม่ให้มาและคนที่มาต้องการมาฉีดวัคซีนเราก็ต้องพยายาม บริการให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แพทย์ได้บอกกับตนว่ายังไงประชาชนได้วัคซีนก็ยังดีกว่า ถ้าทางแพทย์ยังรับได้ก็รับและมีการชั่งน้ำหนักอยู่ตลอดเวลา ยืนยันจากนี้ไปจะดีขึ้น
เพราะตนทำสิ่งที่ดี ฉีดวัคซีนให้ประชาชนตามนโยบายรัฐบาล และจัดวัคซีนพยายามกระจายให้ทั่วถึงมากที่สุด วันนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมานั่งคิดถึงเรื่องการเมืองแม้แต่น้อย ตนคิดจะทำอย่างไรให้จบโดยเร็วและจะทำอย่างไรให้จำนวนผู้ติดเชื้อลดลง สภาพการเมืองในวันนี้ใครก็ขาดใครไม่ได้ถ้ายังจะบริหารประเทศร่วมกันต่อไป และเรื่องนี้ไม่เคยอยู่ในความกังวล
เมื่อถามย้ำว่าบางครั้งในทางการเมืองนายกรัฐมนตรีอาจไม่รู้เรื่อง แต่เป็นเรื่อง ของลูกน้องนายกฯ กทม.กับสถานีกลางบางซื่อ ดังนั้นการจะบอกว่าเป็นเรื่องการแบ่งซีนทางการเมืองก็คงมองได้ นายอนุทิน กล่าวว่า ขอแค่ผู้ใหญ่เข้าใจกันจบ เรื่องลูกน้องจะบังคับให้ลูกน้องแต่ละฝ่ายไม่เขม่นกันเรื่องนี้มันจิ๊บจอยเกินไปที่เราจะไปนั่งคิด
เมื่อถามว่าจุดฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อเป็นที่เดียวที่วัคซีนไม่เคยขาดเพราะอะไร นายอนุทิน กล่าวว่า จุดฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อเป็นหน่วยแยก ที่กระทรวงสาธารณสุขจัดให้และนับหลายคนหลายฝ่ายที่พลาดจากการลงทะเบียนหรือถูกเลื่อนนัดหรือเป็นหน่วยเก็บตก ซึ่งหน่วยนี้กระทรวงสาธารณสุขคิดขึ้นมาเอง
แต่วันนี้ถ้าไปถามไปกดดันคนที่ทำงานแบบนี้เขาพร้อมที่จะกลับสู่ที่ตั้งเขา ตนก็ต้องพยายามบอกว่าต้องอดทนต้องสละและทนความกดดัน การรถไฟแห่งประเทศไทยก็อยากจะเอาเข้าทุกวันอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่คลัสเตอร์ตนต้องตื้อกันหนักกว่านี้ แต่ตนยังกำกับดูแลกระทรวงคมนาคมอยู่จึงยังมีความเกรงใจกันบ้าง