Voice TV จ่อจอดำอีกรอบ! กสทช. สั่งปรับ อ้างเสนอข่าวกระทบศีลธรรมอันดี
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ Voice TV จ่อจอดำอีกรอบ! กสทช. สั่งปรับ อ้างเสนอข่าวกระทบศีลธรรมอันดี
วันที่ (13 ก.ค.) ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ พิธีกรข่าว overview ทางสถานีโทรทัศน์ Voice TV ได้เปิดเผยว่า ...วอยซ์ทีวีจ่อจอดำอีกรอบ กสทช.ชี้มีความผิดจากข่าวยืนหยุดขังหน้าศาล 27 เมษา ปรับ 5 หมื่น จับผิดวันนั้นโฆษณาเกิน 6 นาที รอปรับ 1 ล้าน-สั่ง PSI ถอดช่องถาวร....
โดยมีการพิจารณา พบว่าที่ประชุมเสียงข้างมาก ประกอบไปด้วยพลเอก สุกิจ ขมะสุนทร ทำหน้าที่ประธาน กสทช., พันเอก ดร. นที ศุกลรัตน์, พลโท ดร. พีระพงษ์ มานะกิจ, รศ. ประเสริฐ ศีลพิพัฒน์ และ ผศ.ดร. ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ เห็นชอบให้กำหนดโทษปรับทางปกครองแก่บริษัท เอ็มวีทีวี บรอดคาสติ้ง จำกัด ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์เพื่อให้บริการโทรทัศน์สำหรับกิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ แบบบอกรับสมาชิก ระบบดาวเทียม ช่องรายการ Video To Home 9 เป็นเงินจำนวน 50,000 บาท
โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 59 (3) ประกอบมาตรา 57 (2) แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 เนื่องจากปรากฏข้อเท็จจริงว่าการออกอากาศรายการ "VOICE GO" เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2564 ทางกิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ แบบบอกรับสมาชิก ระบบดาวเทียม ช่องรายการ Video To Home 9 เข้าข่ายเป็นเนื้อหาสาระที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐและความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน อันเป็นการกระทำความผิดตามมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน
1. การพิจารณาว่า การที่ช่องรายการ Video To Home นำเนื้อหารายการ Voice Go มาออกอากาศ หัวข้อ "อยู่หยุดขัง จนกว่าจะ #ปล่อยเพื่อนเรา" "หวัง ตุลาการ ไม่รับใบสั่ง เคารพสิทธิมนุษยชน" และ "ผูกโบว์ขาว เรียกสำนัก-คืนความยุติธรรม" เป็นความผิดตามมาตรา 37 พ.ร.บ. การประกอบกิจการฯ เนื่องจากเข้าข่ายเนื้อหาที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐและความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน อาจต้องชั่งน้ำหนักให้ดีกับประเด็นเรื่องเสรีภาพสื่อ
เนื่องจากในกรณีนี้พบว่านักข่าวเพียงไปสัมภาษณ์ผู้ชุมนุมถึงความเห็น วัตถุประสงค์ และเหตุผลที่ออกมาชุมนุม ซึ่งเป็นการนำเสนอข้อเท็จจริงตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ในแง่มุมของสื่อสารมวลชนจึงถือได้ว่าเป็นการทำหน้าสื่อโดยสุจริต ไม่ใช่การที่นักข่าวหรือผู้ดำเนินรายการเป็นผู้ให้ความเห็นต่างๆ เหล่านี้เอง อีกทั้งเมื่อพิจารณาข้อความที่คณะอนุกรรมการด้านผังรายการฯ
เห็นว่าเข้าข่ายความผิด เช่น "...กิจกรรมนี้มีจุดประสงค์ที่จะปลุกต่อมมโนสำนึกของศาลให้คำนึงถึงหลักกฎหมายบ้าง คำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนบ้าง..." "...ให้ศาลเห็นหัวประชาชนบ้าง..." "ให้ตุลาการยึดหลักสิทธิมนุษยชน ยึดหลักความยุติธรรม ยึดหลักการทางกฎหมาย อย่าดำเนินตามใบสั่ง..." โดยส่วนตัวเห็นว่า เนื้อหาเหล่านั้นเป็นเพียงข้อเรียกร้อง มิใช่ข้อกล่าวหาแต่อย่างใด
อีกทั้งสำนักงาน กสทช. ยังไม่ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าจากการนำเสนอเนื้อหาดังกล่าวได้ก่อให้เกิดการฟ้องร้องหรือดำเนินคดีว่าเป็นการละเมิดอำนาจศาลหรือหมิ่นศาลหรือไม่ ซึ่งถ้ามีก็อาจจะเข้าองค์ประกอบความผิดดังกล่าว แต่ถ้าไม่มีก็คงไม่เหมาะสมที่ กสทช. จะด่วนตัดสินเอง
2. กรณีนี้ไม่พบว่ามีการระบุว่ามีผู้ร้องเรียน โดยในส่วนเนื้อหาวาระระบุว่าเป็นการตรวจสอบพบโดยสำนักงาน กสทช. จึงมีประเด็นว่าสำนักงาน กสทช. ได้ตรวจสอบช่องรายการอื่นๆ ที่มีการนำเสนอข่าวเหตุการณ์นี้ด้วยหรือไม่ ว่ามีการนำเสนอคำพูดของผู้ชุมนุมในลักษณะเดียวกันนี้หรือไม่ ทั้งนี้เพื่อไม่เป็นการเลือกปฏิบัติ
นอกจากนี้มีความเห็นเพิ่มเติมว่า การกำกับดูแลด้านเนื้อหารายการท่ามกลางสถานการณ์ที่สังคมมีความขัดแย้งฝังรากลึก กสทช. ควรมีความระมัดระวัง ไม่นำพาองค์กรไปเล่นงานหรือจัดการผู้ที่มีความเห็นต่างหรือผู้ที่นำเสนอความเห็นต่าง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด แต่ควรจะต้องกำกับดูแลอย่างมีมาตรฐาน โดยคำนึงถึงหลักวิชาชีพด้านสื่อสารมวลชนเป็นสำคัญ อีกทั้งควรมุ่งจัดการกับกรณีรายการหรือช่องรายการที่มีเจตนานำเสนอเนื้อหาอันเป็นเท็จหรือแต่งข่าวเพื่อสร้างความเกลียดชังมากกว่า
นอกเหนือจากนี้ยังมีระเบียบการประชุมที่ 5.1.17 กรณีบริษัท เอ็มวีทีวี บรอดคาสติ้ง จำกัด ช่องรายการ Video To Home 9 มีการออกอากาศรายการโดยมีการโฆษณาบริการหรือสินค้าที่อาจเข้าข่ายเป็นการโฆษณาเกินกว่าระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยเห็นชอบตามผลการพิจารณาของคณะอนุกรรมการกลั่นกรองงานของ กสทช. ด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ตามเอกสารที่สำนักงาน กสทช. เสนอ ดังนี้
1. มอบหมายให้สำนักงาน กสทช. มีคำสั่งเตือนทางปกครองให้บริษัท เอ็มวีทีวี บรอดคาสติ้ง จำกัด ช่องรายการ Video To Home 9 ระงับการกระทำที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ โดยยุติการโฆษณาบริการหรือสินค้าเกินกว่าระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดหรือบ่อยครั้งที่เป็นผลให้ผู้บริโภครับชมรายการอย่างไม่ต่อเนื่อง เนื่องจากบริษัท เอ็มวีทีวี บรอดคาสติ้ง จำกัด ช่องรายการ Video To Home 9 เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2564 ช่วงระหว่างเวลา 11.00 - 12.00 น. มีระยะเวลาโฆษณารวมทั้งสิ้น 06.44 นาที และช่วงเวลา 12.00-13.00 น. มีระยะเวลาโฆษณารวมทั้งสิ้น 07.37 นาที
ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการโฆษณาบริการหรือสินค้าเกินชั่วโมงละ 6 นาที อันเป็นการกระทำความผิดตามข้อ 5 (8) ของประกาศ กสทช. เรื่อง การกระทำที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2555 โดยทันทีที่ได้รับหนังสือแจ้ง หากบริษัท เอ็มวีทีวี บรอดคาสติ้ง จำกัด ช่องรายการ Video To Home 9 ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว กสทช. จะกำหนดโทษปรับทางปกครองเป็นเงิน 1,000,000 บาท และปรับอีกวันละ 50,000 บาท ตลอดระยะเวลาที่ยังไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง
2. มอบหมายให้สำนักงาน กสทช. มีหนังสือแจ้งบริษัท พีเอสไอ บรอดคาสติ้ง จำกัด ซึ่งเป็นผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์เพื่อให้บริการโครงข่ายกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ ดำเนินการติดตามและกำกับดูแลมิให้บริษัท เอ็มวีทีวี บรอดคาสติ้ง จำกัด ช่องรายการ Video To Home 9 กระทำการอันเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคด้วยการออกอากาศรายการโดยมีการโฆษณาบริการหรือสินค้าเกินกว่าระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดหรือบ่อยครั้งที่เป็นผลให้ผู้บริโภครับชมรายการอย่างไม่ต่อเนื่อง
ซึ่งหากช่องรายการ Video To Home 9 มีการกระทำที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคอีก กสทช. จะมีคำสั่งให้บริษัท พีเอสไอ บรอดคาสติ้ง จำกัด ระงับการนำเอาบริการโทรทัศน์ของช่องรายการ Video To Home 9 นั้นไปเผยแพร่ผ่านโครงข่ายดังกล่าวต่อไป
ซึ่งนอกเหนือจากนี้ยังมีระเบียบการประชุมที่ 5.1.20 กรณีบริษัท เอ็มวีทีวี บรอดคาสติ้ง จำกัด ช่องรายการ Video To Home 9 โฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่เข้าข่ายการกระทำที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ และอาจเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งให้ระงับการกระทำที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ ซึ่งมีผลให้ MVTV ถูกปรับเป็นจำนวนเงิน 1,000,000 บาท และได้มีคำสั่งเตือนทางปกครองต่อบริษัท พีเอสไอ บรอดคาสติ้ง จำกัด
ให้ระงับการนำเอาบริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ของบริษัท เอ็มวีทีวี บรอดคาสติ้ง จำกัด นั้นไปเผยแพร่ผ่านโครงข่ายโดยทันทีที่ได้รับหนังสือแจ้ง จนกว่าบริษัท พีเอสไอ บรอดคาสติ้ง จำกัด จะตรวจสอบว่าบริษัท เอ็มวีทีวี บรอดคาสติ้ง จำกัด ช่องรายการ Video To Home 9 มิได้มีการโฆษณาที่มีลักษณะเป็นการกระทำที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์อีก
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น