รูดบัตรซื้อของห้างดัง แต่ไม่ได้ของ-ผู้เสียหายเพียบ สูญเกือบ 7 ล้าน
เบื้องต้นพบว่ามีร้านค้าส่ง ค้าปลีก ถูกห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ยักยอกเงินไปรวม 9 ราย คิดเป็นมูลค่าความเสียหายรวม 6.9 ล้านบาท
นายธีระวัฒน์กล่าวว่า ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ทยอยส่งสินค้าให้ภายหลังได้โอนเงินไป ภายใน 7-15 วัน แต่ส่งสินค้าไม่ครบ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายในครั้งแรกอยู่ประมาณ 25,200 บาท ซึ่งก็มีการติดตามทวงถามมาตลอด จากนั้นจึงได้ติดต่อทวงถามกับห้างสรรพสินค้า ที่สำนักงาน ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับสะพานยกระดับเลี่ยงเมืองสายอุดรธานี-สกลนคร ก็ไม่ได้รับคำตอบใดๆ
"มาเสียหายหนักที่สุดคือวันที่ 5 เม.ย. ที่ร้านต้องเตรียมสินค้าไว้จำหน่ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จึงได้เดินทางไปที่ห้าง เพื่อซื้อเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ โดยได้ทำการรูดบัตรเครดิตไป 8 ครั้งที่ช่องชำระเงินปกติของห้าง ยอดเงินรวม 484,800 บาท ในกลุ่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ แยกเป็น สุราขาวเล็ก 200 ลัง ได้รับสินค้าเพียง 37 ลัง และสุราขาวใหญ่ 200 ลังไม่ได้รับสินค้าเลย จึงได้ทวงถามมาอย่างต่อเนื่อง พนักงานก็บ่ายเบี่ยง
"กระทั่งช่วงสิ้นเดือน เม.ย. จึงขอไปตรวจสอบเอกสารต่างๆ กับห้างพบว่าสินค้าที่ร้านสั่งซื้อไป มีการชำระผ่านบัตรเครดิตระหว่างร้านกับห้าง มีการลงรับเอกสารต่างๆ เรียบร้อย และพบว่ามีการเบิกของทั้งหมดไปแล้วก็ของไม่ได้นำมาส่งที่ร้าน ทั้งยังคงมีการปลอมลายมือชื่อ ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นของใครที่เซ็นรับของไป จึงท้วงติงกับห้างสรรพสินค้าดังกล่าวไปและขอให้มาแสดงความรับผิดชอบ เพราะร้านซื้อสินค้ากับห้างโดยตรงทำไมจึงมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น" นายธีระวัฒน์กล่าว
นายธีระวัฒน์กล่าวอีกว่า จากการพูดคุยกันกับผู้ประกอบการในพื้นที่พบว่ามีร้านค้าที่ถูกห้าง และพนักงานของห้าง กระทำการในลักษณะเช่นนี้และได้เข้าแจ้งความแล้วรวม 9 ราย คิดเป็นมูลค่าความเสียหายที่เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งความรวม 6.9 ล้านบาท เฉพาะในส่วนร้านของตนเองนั้นเสียหายไปรวมกว่า 500,000 บาท จึงอยากให้ห้างได้มารับผิดชอบนำส่งสินค้าให้ครบ หรือคืนเงินก็ได้ เพราะร้านซื้อสินค้ากับห้างโดยตรงและซื้อมานานกว่า 10 ปี ด้วยความเชื่อใจและเชื่อมั่นในความเป็นห้างใหญ่ โดยมีการชำระเงินกับทางห้างผ่านช่องทางชำระเงินที่ถูกต้อง มีเอกสารยืนยันการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตอย่างถูกต้อง มีใบเสร็จรับเงินจากห้าง อย่างถูกต้อง แต่ได้รับสินค้าไม่ครบ
"รู้ว่าการต่อสู้ การเรียกร้องกับห้างขนาดใหญ่นั้นอาจจะเสียเปรียบ เพราะเป็นร้านค้ารายย่อยเป็นร้านค้าในแถบชานเมือง แต่เงินกว่า 500,000 บาท ที่ต้องหายไปในช่วงเศรษฐกิจฝืดเคืองเช่นนี้ ใครไม่เจอกับตัวไม่รู้หลอกว่าลำบากเพียงใด" นายธีระวัฒน์กล่าว