เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า
จากการเฝ้าระวังการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ตรวจรหัสพันธุกรรมจากตัวอย่างที่ส่งมาจากแคมป์คนงานก่อสร้าง และบริเวณใกล้เคียงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 80 ตัวอย่าง พบว่าเป็นสายพันธุ์อินเดีย (B.1.617.2) จำนวน 36 ราย ในจำนวนนี้เป็นคนไทย 21 ราย คนงานชาวเมียนมา 10 ราย และกัมพูชา 5 ราย ที่เหลือเป็นสายพันธุ์อังกฤษ (B.1.1.7) และยังมีตัวอย่างจากการค้นหาเชิงรุก จากพื้นที่อื่นในกรุงเทพฯ อีก 2 แห่ง แต่พบเป็นสายพันธุ์อังกฤษทั้งหมด ซึ่งขณะนี้ในประเทศไทย เชื้อที่พบจะเป็นสายพันธุ์อังกฤษ ร้อยละ 87 เพิ่งตรวจพบสายพันธุ์อินเดีย และจะได้ขยายการนำตัวอย่างจากคลัสเตอร์อื่นๆ มาตรวจรหัสพันธุกรรม เพื่อดูการกระจายตัวต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า เชื้อสายพันธุ์อินเดียพบในชุมชนด้วยใช่หรือไม่
นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า จากตัวอย่างเชื้อที่ส่งมานั้น รพ.จุฬาภรณ์ เป็นผู้ส่งมา โดยก็มีการเก็บมาจากแคมป์คนงานหลายแห่งในเขตหลักสี่ รวมถึงชุมชนในละแวกนั้นด้วย ซึ่งใน 36 ตัวอย่างนี้ ก็เป็นตัวอย่างที่เก็บมาจากชุมชนด้วย ก็เท่ากับว่ามีการพบเชื้อในชุมชนแล้ว ตอนนี้กำลังมีการเก็บตัวอย่างในชุมชน ย่านหลักสี่เข้ามาตรวจเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่อื่นๆ ที่ส่งเข้ามา เช่น สะพานสูง และคลองเตย ยังเป็นสายพันธุ์อังกฤษ ทั้งนี้ ทั้ง 2 สายพันธุ์ไม่มีความแตกต่างกันส่วนในต่างจังหวัด รวมถึงจังหวัดชายแดน จากการถอดรหัสพันธุกรรมยังไม่พบสายพันธุ์อินเดีย ขณะนี้ก็มีการเก็บตัวอย่างกว่า 300 ตัวอย่าง มาตรวจเพิ่มแล้ว
จากการเฝ้าระวังการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ตรวจรหัสพันธุกรรมจากตัวอย่างที่ส่งมาจากแคมป์คนงานก่อสร้าง และบริเวณใกล้เคียงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 80 ตัวอย่าง พบว่าเป็นสายพันธุ์อินเดีย (B.1.617.2) จำนวน 36 ราย ในจำนวนนี้เป็นคนไทย 21 ราย คนงานชาวเมียนมา 10 ราย และกัมพูชา 5 ราย ที่เหลือเป็นสายพันธุ์อังกฤษ (B.1.1.7) และยังมีตัวอย่างจากการค้นหาเชิงรุก จากพื้นที่อื่นในกรุงเทพฯ อีก 2 แห่ง แต่พบเป็นสายพันธุ์อังกฤษทั้งหมด ซึ่งขณะนี้ในประเทศไทย เชื้อที่พบจะเป็นสายพันธุ์อังกฤษ ร้อยละ 87 เพิ่งตรวจพบสายพันธุ์อินเดีย และจะได้ขยายการนำตัวอย่างจากคลัสเตอร์อื่นๆ มาตรวจรหัสพันธุกรรม เพื่อดูการกระจายตัวต่อไป
"จากข้อมูล ของ Public Health England พบว่าสายพันธุ์อินเดียมีการแพร่กระจายได้ค่อนข้างรวดเร็ว คล้ายกับสายพันธุ์อังกฤษแต่ยังไม่พบหลักฐานที่มีผลต่อความรุนแรง หรืออัตราการเสียชีวิต และยังตอบสนองต่อวัคซีนได้อยู่ จึงไม่ควรวิตกกังวลมากเกินไป" นพ.ศุภกิจ กล่าว
นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า กรมวิทยาศาสตร์ฯ และเครือข่ายห้องปฏิบัติการที่สามารถทำการตรวจรหัสพันธุกรรมได้ จะร่วมมือกันเฝ้าระวังสายพันธุ์ที่น่าห่วงกังวล (Variant of Concern) คือ สายพันธุ์อังกฤษ, อินเดีย, อาฟริกาใต้ และบราซิล ต่อไป ห้องปฏิบัติการกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์สามารถตรวจรหัสพันธุกรรม แบบทั้งตัว (Whole Genome Sequencing) ได้สัปดาห์ละ 384 ตัวอย่าง ซึ่งมากกว่ามาตรฐานที่องค์การอนามัยโลก ต้องการสัปดาห์ละ 150 ตัวอย่าง โดยจะเก็บมาจากทุกส่วนของประเทศ และกรณีต้องการทราบผลเร็วก็สามารถตรวจแบบ Targeted Sequencing ซึ่งใช้เวลา 1-2 วันอีกด้วยผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า เชื้อสายพันธุ์อินเดียพบในชุมชนด้วยใช่หรือไม่
นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า จากตัวอย่างเชื้อที่ส่งมานั้น รพ.จุฬาภรณ์ เป็นผู้ส่งมา โดยก็มีการเก็บมาจากแคมป์คนงานหลายแห่งในเขตหลักสี่ รวมถึงชุมชนในละแวกนั้นด้วย ซึ่งใน 36 ตัวอย่างนี้ ก็เป็นตัวอย่างที่เก็บมาจากชุมชนด้วย ก็เท่ากับว่ามีการพบเชื้อในชุมชนแล้ว ตอนนี้กำลังมีการเก็บตัวอย่างในชุมชน ย่านหลักสี่เข้ามาตรวจเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่อื่นๆ ที่ส่งเข้ามา เช่น สะพานสูง และคลองเตย ยังเป็นสายพันธุ์อังกฤษ ทั้งนี้ ทั้ง 2 สายพันธุ์ไม่มีความแตกต่างกันส่วนในต่างจังหวัด รวมถึงจังหวัดชายแดน จากการถอดรหัสพันธุกรรมยังไม่พบสายพันธุ์อินเดีย ขณะนี้ก็มีการเก็บตัวอย่างกว่า 300 ตัวอย่าง มาตรวจเพิ่มแล้ว
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
