เผยต้นตอโควิดลามเรือนจำเชียงใหม่ ทำติดเชื้อเกือบ 4000 ราย
จากการดำเนินการที่ผ่านมาได้ผลเป็นที่น่าพอใจ และตามแผนจะสามารถส่งมอบคืนพื้นที่ให้เรือนจำกลางเชียงใหม่ได้ในวันที่ 28 พ.ค.64 ส่วนตัวเลขจำนวนผู้ต้องขังติดเชื้อกว่า 3,000 คนนั้น ยืนยันทุกคนอยู่ภายใต้การดูแลรักษาอย่างดี ขณะที่ผู้พ้นโทษยังจะต้องได้รับการกักตัวอีก 14 วันใน local quarantine หรือสถานที่ที่จัดไว้ให้ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ต้องขังสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติและไม่ส่งผลกระทบกับชุมชน
นพ.จตุชัย เปิดเผยว่า การดำเนินการตามมาตรการ Bubble & Seal ในเรือนจำกลางเชียงใหม่ เป็นการควบคุมโรคในพื้นที่ปิด เพื่อจำกัดไม่ให้มีการระบาดระหว่างแดน เป็นเวลา 2 8วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย.64 โดยเร่งตรวจคัดกรองเชิงรุกหาผู้ติดเชื้อในผู้ต้องขังทุกคนและเร่งให้การรักษา พร้อมจัดตั้งโรงพยาบาลสนามที่มีศักยภาพสูงในการรักษาคนไข้ ซึ่งตลอดช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาสามารถดูแลรักษาผู้ติดเชื้อได้เป็นอย่างดี มีเพียง 6 รายเท่านั้นที่อาการหนักจำเป็นต้องส่งตัวรักษาในโรงพยาบาลหลัก
ขณะที่การตรวจหาภูมิคุ้มกันจะทำหลังกักตัวครบ14วัน 2 รอบ ซึ่งตามทฤษฎีจะเหลือผู้ที่ไม่มีภูมิคุ้มกันเพียง10% โดยเวลานี้เหลืออีกประมาณ1สัปดาห์จะครบและทำการตรวจหาเชื้อและภูมิคุ้มกันผู้ต้องขังทุกคน ซึ่งจะใช้เวลาอีก 5 วัน จากนั้นจะสามารถส่งมอบคืนพื้นที่ให้ได้ในวันที่ 28 พ.ค.64 ตามแผน ทั้งนี้ย้ำว่าจำนวนผู้ต้องขังในเรือนจำกลางไม่มีผลต่อการพิจารณาปรับระดับพื้นที่ควบคุมของจังหวัดเชียงใหม่ เพราะเป็นการระบาดในพื้นที่ปิดและไม่ได้สะท้อนสถานการณ์ที่แท้จริง
พล.ต.วุฒิไชย กล่าวว่า การควบคุมโรคในพื้นที่เรือนจำกลางเชียงใหม่ครั้งนี้ ภารกิจของทหารที่ได้รับการมอบหมายคือ สนับสนุนการทำงานในพื้นที่ที่มีขีดจำกัด ดูแลรักษาด้วยมาตรฐานเดียวกับประชาชน ซึ่งภายใต้ข้อจำกัดทั้งหมดถือว่าทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ร่วมกันดำเนินการสามารถทำงานได้อย่างดียิ่ง โดยผู้ต้องขังทุกคนจะต้องได้รับการตรวจหาเชื้อและภูมิคุ้มกันอย่างน้อย 2 ครั้ง หลังกักตัวครบทุก 14วัน ซึ่งขณะนี้ยอมรับว่ามีผู้ต้องขังที่ติดเชื้ออยู่ประมาณ60% แต่อีกไม่กี่วัน44%จะพ้นระยะแล้ว ส่วนการตรวจภูมิคุ้มกันในผู้ต้องขัง
ด้านนายสุรศักดิ์ ยืนยันว่า ขณะนี้ควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดในเรือนจำกลางเชียงใหม่ได้แล้ว เรือนจำกลางเชียงใหม่เป็นเรือนจำความมั่นคงสูงสุดมี 10 แดน เริ่มเกิดเหตุจากแดน 4 ที่เป็นแดนแรกรับ มีการตรวจหาเชื้อและกักตัว โดยแยกขังผู้ต้องขังใหม่อย่างน้อย 14 วัน ในห้องที่มี 7 ห้อง ซึ่งระหว่างที่แยกขังนั้น ยังมีการไปทำกิจกรรมในแดนอื่นทำให้เกิดการระบาด โดยจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ต้องขอโทษทุกฝ่ายและถือว่าเป็นประสบการณ์สำคัญว่าจากนี้การกักตัวเพียง 14 วันอาจจะไม่เพียงพอและอาจต้องทำการตรวจหาเชื้อทุกวัน พร้อมกันนี้ยืนยันผู้ต้องขังที่ติดเชื้อทุกคนได้รับการดูแลอย่างดีด้วยมาตรฐานสาธารณสุข เช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป
พล.ต.ถนัดพล เปิดเผยว่า การระบาดที่เกิดขึ้นในเรือนจำกลางเชียงใหม่ เกิดจากญาติที่ไปเยี่ยมผู้ต้องขังนำเชื้อเข้าไป จนกระทั่งเกิดการแพร่ระบาด ยืนยันสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว