พบแล้ว! ผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์อินเดีย “B.1.617” รายแรกในไทย


พบแล้ว! ผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์อินเดีย “B.1.617” รายแรกในไทย

เมื่อวันที่ 25 มี.ค. ที่ผ่านมา นิวมีเดีย พีพีทีวี เคยรายงานข่าวการค้นพบไวรัสโควิด-19 ในอินเดียที่มีลักษณะของการ "กลายพันธุ์คู่ (Double Mutant)" จากตัวอย่างที่เก็บในอินเดีย หรือก็คือการที่เชื้อไวรัสเกิดการกลายพันธุ์ 2 รูปแบบในเชื้อตัวเดียว ต่อมาปรากฏว่า โควิด-19 สายพันธุ์ดังกล่าวถูกตั้งชื่อว่า "B.1.617" และปัจจุบันพบแล้วในเกือบ 50 ประเทศทั่วโลก "รวมถึงประเทศไทย"



ข่าวล่าสุดวันนี้ (10 พ.ค.) พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โคิด-19 (ศบค.) เผยว่า โควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย นี้ "เข้าไทยแล้ว" รายแรกเป็นคนไทยมาจากปากีสถาน ขณะนี้อยู่ในสถานกักกันโรค ที่ประชุมกำลังเข้มงวดหวั่นเชื้อกลายพันธุ์ระบาดในไทย

เบื้องต้นทราบว่า เป็นหญิงชาวไทย อายุ 42 ปี ตั้งครรภ์ 25 สัปดาห์ ก่อนหน้านี้อยู่ที่ปากีสถาน เดินทางถึงไทยตั้งแต่ 24 เม.ย. 64 มีการแวะพักเครื่องที่ประเทศดูไบ เดินทางมาพร้อมบุตรชาย 3 คน อายุ 4, 6 และ 8 ปี ได้รับการจัดให้อยู่ใน State Quarantine

หญิงคนนี้เข้าพักในสถานกักตัวที่รัฐจัดให้ โดยพักรวมกับบุตรคนเล็กวัย 4 ขวบ บุตรอีก 2 คน วัย 6และ8 ขวบพักแยกห้องกัน กระทั่งวันที่ 26เม.ย.ตรวจพบว่าติดโควิด-19 2 ราย คือหญิงวัย 42 และลูกชายวัย 4 ขวบ อีก2 คน ผลเป็นลบ

เพราะเดินทางมาจากปากีสถานจึงทำการนำเชื้อมาตรวจจำแนกสายพันธุ์ Whole Genome Sequencing พบว่าเป็นสายพันธฺุ์อินเดีย ฺB1.617.1 ผลยืนยันเมื่อ 9 พ.ค.64 เรื่องนี้รายงานในที่ประชุมกระทรวงสาธารณสุข ห่วงการกลายพันธุ์ สั่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เฝ้าระวัง รร.แพทย์ เข้มงวด เฝ้าระวังสูงสุดเชื้อกลายพันธ์ุ และขอให้จับตารอการ ประกาศยกเลิก COE ในบางประเทศเพิ่มเติม เพิ่มเติม

พบแล้ว! ผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์อินเดีย “B.1.617” รายแรกในไทย


โดยทางกรมควบคุมโรคได้มีการเฝ้าระวังโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย อยู่แล้ว จึงตรวจหาโดยศูนย์โรคอุบัติใหม่ด้านคลินิก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย พบยืนยันว่าเป็น สายพันธุ์อินเดีย B.1.617.1 จริง

โควิด-19 สายพันธุ์ B.1.617 นี้มีการกลายพันธุ์ 13 ตำแหน่ง แต่มีการกลายพันธุ์อยู่ 3 ตำแหน่งที่น่าเป็นกังวล

E484Q - การกลายพันธุ์ที่ตำแหน่ง 484 ซึ่งเป็นการทดแทนกรดกลูตามิกเป็นกลูตามีน ทำให้ไวรัสมีศักยภาพในการจับกับตัวรับในร่างกายของมนุษย์ได้ดีขึ้น รวมถึงมีความสามารถในการหลบเลี่ยงระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายโฮสต์ได้ดีขึ้น

L452R - การกลายพันธุ์ที่ตำแหน่ง 452 ซึ่งเป็นการทดแทนลิวซีนด้วยอาร์จินีน ทำให้โปรตีนหนามของไวรัสแข็งแกร่งขึ้น และทำให้ความสามารถในการรับรู้ของระบบภูมิคุ้มกันลดลง

P681R - การกลายพันธุ์ที่ตำแหน่ง 681 ซึ่งเป็นการทดแทนโปรลีนด้วยอาร์จินีน อาจช่วยเพิ่มโอกาสการติดเชื้อในระดับเซลล์

ขณะนี้นักวิทยาศาสตร์กำลังดำเนินการเพื่อยืนยันว่า สายพันธุ์ B.1.617 มีอันตรายมากกว่าสายพันธุ์อื่นหรือไม่ เช่น การแพร่กระจายเร็วขึ้นทำให้เกิดโรคที่รุนแรงขึ้นหรือไม่ หรือสามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติหรือจากการฉีดวัคซีนได้หรือไม่

หากการศึกษาในห้องปฏิบัติการ การวิเคราะห์ทางระบาดวิทยา และงานวิจัยอื่น ๆ ยืนยันว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์นี้มีปัญหามาก ก็จะได้รับการอัปเกรดเป็น "สายพันธุ์ที่ต้องกังวล"

ยังไม่แน่ชัดว่า โควิด-19 สายพันธุ์อินเดียมีความรุนแรงหรือแพร่เชื้อได้ง่ายกว่าเดิมเท่าใด แต่ความไม่รู้ก็ทำให้หลายประเทศไม่กล้าเสี่ยง และปิดกั้นการเดินทางจากอินเดียชั่วคราว

พบแล้ว! ผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์อินเดีย “B.1.617” รายแรกในไทย


พบแล้ว! ผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์อินเดีย “B.1.617” รายแรกในไทย

เครดิตแหล่งข้อมูล : www.pptvhd36.com


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
คุณ : สาวชายแดน
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 182.53.123.101

182.53.123.101,,node-odh.pool-182-53.dynamic.totinternet.net ความคิดเห็นที่ 1 [อ้างอิง]
ก็ควรยกเลิกการเดินทางเข้าประเทศได้แล้วมั๊ง


[ วันอังคาร ที่ 11 พฤษภาคม 2564 เวลา 11:05 น. ]
คุณ : me
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 203.151.136.238

203.151.136.238,,238.136.151.203.sta.inet.co.th ความคิดเห็นที่ 4 [อ้างอิง]
wellcome


[ วันอาทิตย์ ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 11:21 น. ]
เช็คเบอร์มือถือ คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์