แฉ! แม่ชีอู๋ลวงโลก หลอกแม่บังเกิดเกล้า ไม่แยแสจะไร้ที่ซุกหัวนอน 

เมื่อวันที่ 29 เม.ย. ความคืบหน้ากรณี นางสาวอิสรีย์ อินทร์ไชยา หรือ แม่ชีอู๋ อายุ 49 ปี เจ้าสำนักสถานปฏิบัติธรรมวิปัสสนาพระพุทธสักขี เจ้าสำนักเถื่อนต้มตุ๋นฉ้อโกงประชาชน โดยผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 15/1 หมู่ 6 ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งปลูกอยู่กลางชุมชนพลุกพล่าน ริมถนนหนองญาติ-นาแก เป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ 2 ชั้น 5 คูหา เดิมเปิดเป็นร้านขายของชำและอาหารตามสั่ง จากคำบอกเล่าของชาวบ้านเผยว่า บ้านหลังนี้เป็นบ้านของ อดีตข้าราชการครูที่มีผู้คนนับหน้าถือตาเป็นอย่างมาก และเป็นพ่อของนางสาวอิสรีย์ 

ซึ่งบริเวณหน้าบ้านยังหลงเหลือสภาพร้านค้าและร้านอาหารตามสั่ง ประตูเหล็กหน้าบ้านปิดสนิท มีเพียงประตูไม้ที่มีคนเปิดออกมาสอบถาม ทราบภายหลังว่าเป็นพี่สาวคนโตของนางสาวอิสรีย์ พอรู้ว่าผู้มาหาเป็นผู้สื่อข่าวก็ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับเรื่องที่น้องสาวนำบ้านไปจำนองกับนายทุนจนเกิดเรื่องฟ้องร้องกันและคดีอยู่ระหว่างชั้นฎีกา ขณะนั้นเองมีหญิงสูงวัยทราบว่าเป็นแม่ของ นางสาวอิสรีย์ เดินออกมาก็ถูกลูกสาวจูงมือให้กลับเข้าไปในบ้านและปิดประตูหน้าบ้านทันที

ทั้งนี้หลัง พ่อเสียชีวิตลง นางสาวอิสรีย์ ลูกสาวคนเล็ก ซึ่งในขณะนั้นยังสวมใส่ชุดปกติได้แอบไปขอให้นางสอง ผู้เป็นแม่ มอบอำนาจในการเป็นผู้จัดการมรดก กระทั่งผู้เป็นแม่หลงเชื่อยินยอมมอบอำนาจให้ไปดำเนินการทางนิติกรรมต่างๆ ปรากฏว่านางสาวอิสรีย์นำโฉนดที่ดินและบ้านหลังนี้ไปขายฝากกับนายทุนในวงเงิน 5 ล้านบาท โดยไม่มีญาติพี่น้องล่วงรู้มาก่อน กระทั่งนายทุนมาตามถึงบ้านว่า นางสาวอิสรีย์เอาที่บ้านไปจำนองขายฝาก แต่นายทุนยังเปิดโอกาสให้หาเงินต้นมาชำระ ซึ่งเวลาผ่านมากว่า 3 ปี ก็ไม่มีใครหาเงินไปไถ่ถอนจนนายทุนจำเป็นต้องฟ้องศาล และปัจจุบันดำเนินการมาจนถึงศาลชั้นฎีกา