เผยต้นตอแพร่ โควิด-19 เรือนจำนราธิวาส ยันไม่แพร่สู่ชุมชน

วันที่ 4 เม.ย.64 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สธ.ได้ส่งรถวิเคราะห์ผลด่วนพระราชทานลงพื้นที่ไปสนับสนุนในการป้องกันควบคุมโรค อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน และกรณีการติดเชื้อในเรือนจำ จ.นราธิวาส เนื่องจาก อ.แม่สะเรียง เป็นพื้นที่ห่างไกล รพ.ไม่สามารถตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้ จึงสนับสนุนมาตรวจหาเชื้อในผู้ลี้ภัยชาวต่างชาติ

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและฝ่ายความมั่นคงที่มีโอกาสสัมผัสเชื้อ ซึ่งล่าสุดมีการสนับสนุนวัคซีนโควิด-19 เพิ่ม 2 พันโดสแก่ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองที่ดูแลผู้ลี้ภัยเพื่อป้องกันไม่ให้มีการแพร่กระจายเชื้อมาสู่คนไทยและประเทศไทย

นพ.โอภาส กล่าวว่า ส่วนกรณีการติดเชื้อในเรือนจำ จ.นราธิวาส พบเจ้าหน้าที่พยาบาลในเรือนจำ 1 ราย มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ น้ำมูก จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส และตรวจพบติดเชื้อ จึงสอบสวนโรคเพิ่มเติม โดยเรือนจำแห่งนี้มีผู้ต้องขังประมาณ 700 กว่าคน และเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง ทำให้พบผู้ติดเชื้อในเรือนจำ 100 กว่าคน

แต่สถานการณ์ถือว่าคล้ายกับสถานกักตัวของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เนื่องจากเป็นสถานที่ปิด มีการอยู่อย่างแออัด ทำให้มีโอกาสติดเชื้อสูง ไม่มีความเสี่ยงแพร่กระจายไปยังชุมชน การควบคุมโรคจึงใช้แนวทางเดียวกัน สำหรับจุดเริ่มต้นว่าพยาบาลติดเชื้อจากไหนต้องรอผลสอบสวนอย่างละเอียด

เผยต้นตอแพร่ โควิด-19 เรือนจำนราธิวาส ยันไม่แพร่สู่ชุมชน

แต่เบื้องต้นเรือนจำดำเนินมาตรการต่างๆ ได้ดี อย่างไรก็ตาม เน้นย้ำเรื่องการกักตัวผู้ต้องขังแรกรับ 14 วันอย่างเข้มข้นอย่างต่อเนื่อง เฝ้าระวังโดยตรวจหาเชื้อเจ้าหน้าที่เป็นระยะ และต้องเร่งฉีดวัคซีนให้กับเจ้าหน้าที่ด้วย

สำหรับที่มีผู้ต้องขังกลุ่มนี้เดินทางไปร่วมประชุมและกิจกรรมที่ จ.สุราษฎร์ธานี พบการติดเชื้อ มีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 1 พันคน แต่จัดงานเพียง 1 วัน ผู้ต้องขังไม่ได้ปะปนกับคนหมู่มาก ทำให้มีผู้สัมผัสจำนวนหนึ่งซึ่งอยู่ภายใต้การสอบสวนและควบคุมโรคทั้งหมดแล้ว โดยเฉพาะผู้สัมผัสเสี่ยงสูงแยกกักแล้วทั้งหมด