หนุ่มเปิดปมแค้น ละเลงขี้หมาบนหัวเมียเก่า ด้านสาวแจ้งความ(ชมคลิป)
ล่าสุดเมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 2 เม.ย.64 น.ส.เอ ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.สงคราม บัวพันธ์ สารวัตร (สอบสวน) สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อเข้าให้ปากคำและยื่นหลักฐานเพิ่มเติม หลังจากที่ก่อนหน้านั้นได้เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นายแซม มาแล้ว ในคืนดังกล่าวและถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งตัวไปตรวจร่างกายที่ ร.พ.บางใหญ่
น.ส.เอ กล่าวว่า ตนกับ นายแซม แต่งงานแต่ไม่ได้จดทะเบียนด้วยกัน ยังไม่ได้เลิกกันเพียงแต่ต่างคนต่างอยู่ เพราะตอนที่ นายแซม ติดคุกในคดียาเสพติดเกือบ 8 เดือน ตนก็ได้ย้ายกลับไปอยู่บ้านของตน ส่วนสาเหตุที่ต้องเลิกรากันนั้น เป็นเพราะ นายแซม มากล่าวหาว่าตนไปมีผู้ชายคนอื่น โดยที่ตนไม่รู้เรื่อง และชอบเชื่อเพื่อนเชื่อคนรอบข้างในกลุ่มที่ปั่นว่าตนไปมีผู้ชายอื่น จนมีปัญหากัน
และเรื่องรถที่กู้มาซื้อตนก็ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย หากคนเป็นแม่ลูกกันจะพูดเข้าข้างกันยังไงก็ได้เพราะเขาเป็นแม่ลูกกัน แต่ไม่ว่าเรื่องราวจะเป็นยังไง ใครจะผิดจะถูกยังไง ก็ไม่สมควรมาทำกับตนแบบนี้ ตนก็มีพ่อมีแม่เหมือนกัน จะผิดจะถูกยังไงก็ไปแจ้งความดำเนินคดีเอา แต่ไม่ใช่มากระทำแบบนี้ รับไม่ได้ ซึ่งตนไม่เคยมีเรื่องกับใคร ดังนั้นถ้าหากตนเป็นอะไรไปในตอนนี้ก็มาจาก นายแซม คนเดียว หรือไม่ก็คนรอบข้างของ นายแซม
น.ส.เอ กล่าวต่อว่า บาดแผลในวันที่เกิดเหตุที่ตำรวจรับแจ้งและถ่ายบันทึกไว้เป็นหลักฐาน มีรอยช้ำที่โหนกแก้มกับบาดแผลถลอกที่ขาซ้ายเท่านั้น ซึ่งตนได้เดินทางไปตรวจร่างกายที่ ร.พ.บางใหญ่ เอาไว้แล้ว และรอให้ทางโรงพยาบาลแจ้งผลตรวจกลับมาที่ตำรวจก่อน จึงจะออกหมายเรียก นายแซม มาสอบสวนและตั้งข้อหาได้
น.ส.เอ กล่าวอีกว่า เรื่องเงินศัลยกรรมที่อ้างว่าให้เงินตนไปทำมานั้น ตนถามหน่อยว่าเขาไปเอาเงินมาจากไหน ทำงานอะไร แล้วยิ่งไปติดคุกมา 8 เดือนจะเอาเงินที่ไหนมาให้ตนใช้ เงินที่ตนเอาไปทำศัลยกรรมมานั้น เป็นเงินที่ได้จากน้ำพักน้ำแรงและธุรกิจส่งนมของตนทั้งนั้น ซึ่งหลายๆ คนที่ติดตามตนเวลาไลฟ์สดจะรู้ดีว่า ตนขายของเพื่อหาเงินไปทำศัลยกรรมมาด้วยตนเอง ไม่ได้ขอใคร
ตนพร้อมจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไม่นัด ไม่คุย ไม่ไกล่เกลี่ยใดๆ ทั้งสิ้นกับคนนี้ ต่อให้จดทะเบียนก็ไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้กับตน และตนกำลังเตรียมเอาผิดกับกลุ่มเพื่อนของเขาที่นำคลิปไปแชร์ต่อเพื่อประจานตน เพราะทำให้ตนได้รับความเสียหายกับธุรกิจที่ทำอยู่เป็นอย่างมาก ซึ่งในวันนี้ได้นำหลักฐานมามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มเติมด้วย"โชคดีที่แม่มาเล่าให้ฟังว่ากำลังจะมาขอให้เซ็นกู้รถเก๋งคันที่สามให้อีก ผมจึงโวยวายไม่ยอมให้แม่เซ็นกู้ เพราะทุกวันนี้รถเก๋งคันแรกก็ต้องผ่อนอยู่เดือนละ 7 พันกว่าบาท ไหนจะต้องมาผ่อนรถกระบะคันละ 9 แสนกว่าบาทอีก ซึ่งรถเก๋งคันแรกติดตามคืนมาได้แต่ก็ยังต้องผ่อนต่อ ส่วนรถกระบะคันที่ 2 ตอนนี้ไม่รู้ไปอยู่ไหน หลอกให้แม่ตนเซ็นขายดาว์นไป จนไฟแนนซ์ตามมาจะรถยึดคืนที่บ้าน แต่ไม่มีรถไปคืนให้เขา เขาก็จะดำเนินคดีกับแม่ที่ป่วยเป็นมะเร็งเต้านมระยะที่ 4 เกิดความเครียด ทุกข์ใจจากการกระทำของผู้หญิงคนนี้ ทั้งๆ ที่แม่ รักและไว้ใจทุกอย่าง แต่ยังมาทำแบบนี้ แล้วยังจะมาหลอกเอารถคันที่ 3 จากแม่อีก จึงทนเฉยต่อไปไม่ไหวแล้ว"นายแซม กล่าว
นายแซม กล่าวอีกว่า พฤติกรรมของผู้หญิงคนนี้ นอกจากจะนอกใจตนแล้ว ช่วงที่ตนติดคุกไป 8 เดือนในคดียาเสพติด เมื่อพ้นโทษออกมาทรัพย์สินที่เป็นทองรูปพรรณพร้อมพระเลี่ยมทองน้ำประมาณ 30 บาท หายไปหมดเกลี้ยง เหลือเงินติดบัญชีให้ตนเพียง 1.5 หมื่นบาท ด้วยความคับแค้นใจในหลายๆเรื่อง จึงคิดจะแก้แค้นผู้หญิงคนนี้ แต่จะให้ใช้อาวุธหรือกำลังไปทำร้ายตนคงจะติดคุกอีก ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ จึงตัดสินใจแก้แค้นด้วยการเอามูลสุนัขจากฟาร์มที่ตนเลี้ยงตน ไปดักรอแก้แค้นเพื่อตนการประจานผู้หญิงคนนี้ให้สังคมรับรู้
"ในเมื่อผมปั้นผู้หญิงคนนี้มาจากดินได้ก็ต้องเหยียบให้จมดินลงไปได้เช่นกัน ซึ่งคิดมาดีแล้วจึงเลือกตัดสินใจใช้มูลสุนัขดีกว่าที่จะเลือกใช้อาวุธ และขอยืนยันว่าในคลิปเหตุการณ์นั้น ไม่ได้ใช้กำลังไปทำร้ายอะไรเลย นอกจากใช้ขี้หมาละเลงไปที่หน้ากับหัวเท่านั้น"นายแซม กล่าว
นายแซม กล่าวว่า ส่วนที่ผู้หญิงล้มลงไปก็เป็นเพราะเขาเมาเหล้าออกมาแล้ว เรื่องคดีความในส่วนของการนำมูลสัตว์ไปละเลงใส่เขานั้น ตนยอมรับไม่ปฎิเสธ หากตำรวจจะเรียกไปแจ้งข้อกล่าวหา ตนก็พร้อมจะไป แต่คดีทำร้ายร่างกายตนขอปฏิเสธ เพราะไม่ได้ใช้กำลังทำร้ายใดๆ และยังผู้หญิงคนนี้ยังมีคดีที่แม่ของตนได้เข้าแจ้งความเรื่องรถกระบะไว้เช่นกันแม่นายแซม กล่าวว่า ผู้หญิงคนนี้เองก็ไม่น่ามาทำกับแม่นี้ด้วย เพราะแม่ทั้งนี้ต่อเขา ให้โอกาสกับเขามามาก อยากได้รถ แม่ก็ไปกู้ไปเซ็นค้ำผ่อนรถออกมาให้ แล้วก็ไม่ส่งค่างวดเอารถไปขายดาว์นต่อ แล้วปล่อยให้ไฟแนนซ์ตามมาท้วงมาโทรตามแม่วันละหลาย ๆ รอบทุกวัน จนแม่จะประสาทเสีย ไหนจะป่วยเป็นมะเงเต้านมระยะที่ 4 อีก ทุกวันนี้ต้องกินมอร์ฟีนระงับความเจ็บปวดทุกคืน ผู้หญิงคนนี้ก็เลยฉวยโอกาสที่แม่อยู่ในอาการสะลึมสะลือจากฤทธิ์ยา มาหลอกให้เซ็นเอกสารต่าง ๆ นานา ทำกันได้ลงคอทั้ง ๆ ที่งานแต่งงานแม่ก็กู้เงินมาจัดให้ หมดไปหลายแสนบาท
"แม่ไม่แปลกใจที่ลูกชายจะโมโหเดือดดาลกับผู้หญิงคนนี้ ซึ่งแม่อยากจะขอวิงวอนคนที่ซื้อดาว์นรถกระยะยี่ห้อเชฟโรเลฟ สีเทา หมายเลขทะเทียน 1 กฮ 9336 กทม. ที่ซื้อดาวน์ไปจากผู้หญิงคนนี้ให้ช่วยติดต่อกลับมาเพื่อแก้ไขสัญญากับทางไฟแนนซ์ใหม่ เพื่อที่แม่จะได้ไม่ต้องมาเครียดกับหนี้สินค่ารถดังกล่าวและถูกไพแนนซ์มาตามทวงหนี้เช้าเย็น จนจะถูกดำเนินคดีเพราะไม่มีรถกระบะคันนี้ให้เขายึดคืน"แม่นายแซม กล่าว