สธ. แถลงแล้ว ปมผู้ป่วยดับรายแรก หลังรับวัคซีนโควิด

เวลา 11.00 น. วันนี้ ( 26 มี.ค. 64 ) ศูนย์แถลงข่าวโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวด่วนในประเด็นผลการฉีดวัคซีนโควิด-19 กรณีผู้ป่วยโรคเส้นเลือดในท้องโป่งพอง และเสียชีวิตหลังได้รับวัคซีน

นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนโควิด-19 กล่าวว่า สธ.มีระบบติดตามความปลอดภัยของประชาชนหลังการฉีดวัคซีน 30 วัน โดยส่วนตัวมั่นใจว่าการเสียชีวิตที่เกิดขึ้น มาจากเส้นเลือดในช่องท้องแตก ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน เป็นเหตุร่วมหรือเหตุบังเอิญ แต่ต้องรอฟังผลการสอบสวนจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอีกครั้ง

ระบบตรวจจับผลข้างเคียงผ่านแอปพลิเคชันหมอพร้อม ที่ สธ.วางไว้ เป็นการติดตามอาการหลังฉีดวัคซีนเป็นเวลา 30 วัน ให้รายงานในวันที่ 3 วันที่ 7 และวันที่ 30 เปรียบเทียบคล้ายระบบป้องกันขโมยตามบ้าน เมื่อระบบมีเสียงดังเกิดขึ้นก็ไปตรวจสอบ และพบว่าไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน ถือเป็นการเรียนรู้ด้านสุขภาพ เข้าถึงข้อมูล เข้าใจข้อมูล และนำข้อมูลไปใช้เพื่อให้เกิดพฤติกรรม วันนี้ประชาชนเข้าถึงข้อมูล ส่วนความเข้าใจจะเกิดขึ้นจากการซักถาม เมื่อเข้าใจแล้วจะนำไปสู่การตัดสินใจเข้ารับการฉีดวัคซีน เพราะเราต้องฉีดวัคซีนไปจนถึงสิ้นปี 64

นพ.โสภณ กล่าวอีกว่า วัคซีนบางยี่ห้อ ทั่วโลกฉีดไปแล้ว 100 ล้านเข็ม พบแพ้รุนแรง 4 คนในล้าน และไม่มีใครเสียชีวิตโดยตรงจากวัคซีน ส่วนประเทศไทยฉีดไปแล้ว 1.2 แสนโดส พบอาการแพ้รุนแรง 2 คน จึงทำให้มั่นใจในระบบและบุคลากร ในอนาคตอันใกล้จะขยับไปฉีดวัคซีนในสถานีอนามัย รพ.สต. ศูนย์อนามัย กทม. และจัดให้มีคลินิกบริการฉีดวัคซีนเคลื่อนที่ ขอให้ประชาชนมั่นใจในวัคซีนและระบบติดตามที่พร้อมดูแลและช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที

ด้าน นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ เผยผลการสอบสวนเบื้องต้น ว่าผู้เสียชีวิตเป็นเพศชาย มีโรคประจำตัวหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง ได้รับการผ่าตัดใน รพ.เอกชนในช่วงปลายเดือน ม.ค. 64 และพักรักษาใน รพ. นาน 40 วัน จากนั้นแพทยให้พักฟื้นที่บ้าน เมื่อกลับมาอยู่บ้านได้ประมาณ 1 สัปดาห์ ผู้ป่วยเห็นว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยง จึงเข้ารับการฉีดวัคซีน เมื่อวันที่ 3 มี.ค.64 โดยไม่มีอาการข้างเคียง สบายดี

หลังฉีดวัคซีนผ่านไป 3 วัน ได้รายงานในแอปพลิเคชันหมอพร้อมว่าอาการปกติ แต่ในการติดตามอาการวันที่ 7 ติดต่อผู้ได้รับวัคซีนไม่ได้ วันที่ 8-9 มีอาการแน่นหน้าอก จุกที่ลิ้นปี่ เหนื่อย เป็นลม จึงเข้ารักษาใน รพ. โดยอาการทรุดลง และเสียชีวิตในวันที่ 13 มี.ค.64 แพทย์สรุปว่า ผู้ป่วยเสียชีวิตด้วยหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง แตกรั่ว ซึ่งเป็นโรคประจำตัวเก่าของเขา แต่ผู้ป่วยมีประวัติเข้ารับการฉีดวัคซีน 10 วัน ก่อนมีอาการจึงต้องรายงานเข้าระบบ โดยโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง เหมือนมีระเบิดเวลาติดอยู่กับตัว ข้อมูลทางการแพทย์สรุปว่าการเสียชีวิตของผู้ป่วยรายนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน

สำหรับโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง ในร่างกายคนจะมีเส้นเลือดใหญ่ออกจากหัวใจ แตกแขนงไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ เนเส้นเลือดใหญ่ คล้ายท่อเมนน้ำประปา ความผิดปกติจะเกิดในกลุ่มผู้สูงอายุ เป็นผลมาจากเนื้อเยื่อเสื่อมสภาพ เกี่ยวข้องกับความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ไขมันในเลือดสูง เกิดในคนที่สูบบุหรี่ พบน้อยในผู้ที่พิการมาตั้งแต่กำเนิด โรคนี้จึงเหมือนระเบิดเวลาซ่อนในร่างกายเรา ปัญหาใหญ่ที่สุดของโรคนี้ คือปกติไม่มีอาการ หลายคนตรวจพบโดยบังเอิญ จากการเอกซเรย์ CTช่องอก เพราะเจ็บหน้าอก เจ็บหลัง ปวดท้องเฉียบพลัน คนไข้บางคนหน้าท้องเต้นเป็นจังหวะตามการสูบฉีดของเส้นเลือด มีโอกาสเส้นเลือดแตกได้ตลอดเวลา ถ้าพบขณะเป็นก้อนเล็กๆ ต้องเฝ้าระวัง และลดความเสี่ยงของตนเอง หากเป็นก้อนใหญ่ และแตกซึมต้องผ่าตัดทันที โดยโอกาสรอดมีน้อย เพราะเมื่อเส้นเลือดแตก ความดันจะสูง เลือดจะไหลออกในปริมาณมาก

"ผมฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาเข็มแรกไปแล้ว หลังฉีดวัคซีนผ่านไปครึ่งวัน มีอาการปวดบริเวณที่ฉีด ถือว่าไม่รุนแรง ซึ่งการฉีดวัคซีนทั่วโลก 20-30% มีอาการข้างเคียงไม่รุนแรง โดยพบอาการข้างเคียงรุนแรง 0.7% ส่วนอาการแพ้วัคซีนรุนแรง ที่เป็นกังวล คือมีอาการทันที เกิดขึ้นภายใน 15 นาทีหลังฉีด เช่น แน่นหน้าอก เหนื่อย ปวดท้อง อาเจียน ส่วนอาการแพ้รุนแรงที่พบหลังฉีดวัคซีน 30 นาที พบน้อยมาก ส่วนอาการแพ้ไม่รุนแรง เช่น มีผื่นคัน" นพ.ทวีกล่าว