เดือด! นาทีป๊ะหน้า ป้าไพมณี ท้าเองแต่กลับคำไม่สาบาน เมินใส่ เจ๊รัตน์
เวลา 08.30 น. วันนี้ 13 มี.ค. รัตนา ภูละคร แม่ค้าขายลอตเตอรี่ ได้เดินทางมาถึงที่วัดพระธาตุเชิงชุมอวรวิหาร เป็นคนแรก เพื่อรอพิธีสาบาน โดยรัตนาแต่งกายด้วยชุดสีขาว แสดงถึงความบริสุทธิ์
ส่วนทางด้านนางไพมณี พลราชม ผู้ที่อ้างว่าถูกรางวัลที่ 1 ได้แต่งกายด้วยชุดนางรำภูไท และเป็นชุดที่สวมใส่ในวันที่ 24 ก. พ. 2564 ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ ซึ่งไพมณี เดินทางมาถึงที่วัดเวลาประมาณ 08.50 น.
ก่อนทำพิธีสาบาน ทางด้านเจ้าหน้าที่ของวัดพระธาตุเชิงชุม ได้มาพูดคุยทำความเข้าใจกับทั้งสองคนว่า ห้ามสาบแช่ง หรือพูดสิ่งที่ไม่ดีต่อกัน ขณะที่ทำพิธีสาบานต่อหน้าองค์พระประธาน พระพุทธรูปในโบสต์
เวลา 09.00 น. ทั้งสองฝ่ายได้นั่งหน้าพระประธาน และกล่าวคำสาบาน ซึ่งนางไพมณี เป็นผู้ที่เริ่มสาบานก่อน ไพมณีกล่าวว่า ที่ตนมาวันนี้ ตนไม่ได้มาสาบาน ตนมาเพื่อหาลอตเตอรี่ ที่ตนซื้อไปว่าอยู่ที่ไหน ให้คนที่ซื้อไปเอามา ถ้าไม่ถูกรางวัลตนก็จะได้ยอมรับความจริง ถ้าถูกรางวัล ก็ให้มาตกลงกัน ตนไม่เคยคิดที่จะมาสาบานหรือสาบแช่งให้ต้องมีคนตาย 5 วัน 7 วัน
หลังกล่าวคำอธิญานเสร็จ ทั้ง 2 คนได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว ซึ่งทางไพมณี ผู้ที่อ้างว่าตนเองถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 กล่าวว่า วันนี้ตนได้มาไหว้พระ และมาแสดงความบริสุทธิ์ใจของทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ได้เป็นการมาสาบาน เพราะการสาบานจะต้องสาบแช่งกัน ตนไม่ต้องการให้เป็นอย่างนั้น
ด้านรัตนากล่าวว่า ที่มาสาบานวันนี้ มาตามคำท่าของไพมณี แต่พอไพมณีไม่สาบาน ตนก็รู้สึกเสียใจ และตนก็ได้พูดกล่าวแสดงความบริสุทธิ์ต่อหน้าองค์พระประธาน วัดพระธาตุเขิงชุมแล้ว สำหรับตนก็น้อยใจทำไมไพมณีต้องไปแจ้งความ ทั้งที่พูดคุยกันได้ ก็น่าจะมาพูดคุยกันก่อน ทำให้เป็นเรื่องใหญ่ ตนได้รับความเสียหาย ทั้งโลกมองตนว่าตนยักยอกลอตเตอรี่ไปแล้ว
ระหว่างสัมภาษณ์ ไพมณีผู้ที่อ้างว่าตัวเองถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 จำนวน 12 ล้านบาท ก็ได้เดินออกจากวงสัมภาษณ์
โดยบอกว่า ไม่อยากให้มีการทะเลาะกัน หรือตอบโต้กัน ส่วนประเด็นที่ท้ารัตนามาสาบาน แล้วตนไม่สาบาน แต่กลับพูดกล่าวคำอธิษฐานแทนนั้น
ด้าน รายการเรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์ ทางช่อง 3 รายงานว่า เจ๊รัตน์กล่าวอีกว่า ที่จริงไม่ต้องแจ้งความก็ได้ เรามาตกลงกันข้างนอกก็ได้ ตนไม่ได้อยากวุ่นวาย แต่อีกฝ่ายเขาไปแจ้งความเอง ตนเสียหายไปแล้ว จะรับผิดชอบตรงนี้อย่างไร
ด้านป้าไพมณีไม่ตอบ แต่พูดกับสื่อว่า ขอวอนสื่อเหมือนกันว่าให้เป็นกระจกส่องดูว่าความจริงว่าคืออะไร และวอนให้กองสลากเข้ามาตรวจสอบ มันจะได้ไม่วุ่นวายและเลวร้ายมากไปกว่านี้ จากนั้นป้าไพมณียกมือไหว้ กล่าวขอบคุณและหันหลังไปทันที แต่นักข่าวกันเอาไว้ และถามว่าจะกลับมาสาบานใหม่หรือไม่ ป้าไพมณีก็บอกว่า ถ้าเขาติดใจจะมาสาบานใหม่ก็ได้และรีบเดินหนีไป
เจ๊รัตน์ ยังคงยืนสัมภาษณ์อยู่ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนเสียหายมาก ค้าขายไม่ได้เลย จากที่ขายได้วันละร้อย ๆ ใบ ตอนนี้รู้สึกอัดอั้นมาก ส่วนเมื่อวานที่ตำรวจมาค้นบ้าน ก็ไม่เจออะไร เพียงแต่เอาลอตเตอรี่งวดวันที่ 1 มีนาคม 2564 ที่เหลือประมาณ 40 ใบ กลับไป ซึ่งก็ไม่มีใบไหนถูกรางวัล นอกจากนี้แล้ว ตนก็ได้ถามยี่ปั๊วทุกรายแล้ว ยังไม่มีใบไหนที่ถูกรางวัล และไม่รู้ว่ามีจริงหรือไม่ หากพิสูจน์ได้แล้วว่าตนเป็นผู้บริสุทธิ์ ก็อาจจะแจ้งความกลับ
สำหรับในส่วนของคดีนั้น พ.ต.อ. ตรีวิทย์ ศรีประภา รองผู้บังคับการจังหวัดสกลนคร ระบุว่า ตอนนี้ทางตำรวจได้รับเรื่องนี้คดีอาญาแล้ว ซึ่ง เจ๊รัตน์ ผู้ถูกกล่าวหา เข้าข่ายยักยอกทรัพย์ ล่าสุดได้สอบปากคำพยานฝ่ายป้าไพมณีไปแล้ว 3 ปาก คือ นางเพ็ญศรี นางสอน และนางทิพย์
พ.ต.อ. ตรีวิทย์ กล่าวอีกว่า ได้พูดคุยกับส่วนป้าไพมณีเป็นการส่วนตัว ซึ่งป้าไพมณีบอกว่าไม่อยากดำเนินคดีแล้ว และประสงค์จะเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย แต่ตามขั้นตอนของกฎหมายนั้นต้องดำเนินคดี ต้องแจ้งข้อกล่าวหาและออกหมายเรียกเจ๊รัตน์ก่อน ถึงจะเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยได้ ซึ่งป้าไพมณีก็รับทราบ