ตร.ยันความรุนแรงเกิดจากม็อบ
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงกรณีที่ในโลกโซเชียลมีเดียได้มีการแชร์ภาพของตำรวจใช้กำลังสลายการผู้ชุมนุมของกลุ่ม REDEM บริเวณหน้ากองพันทหารราบที่ 1 เมื่อวานนี้(28 ก.พ.64)
โดยชี้แจงว่า ทางเจ้าหน้าที่พยายามระงับเหตุให้เร็วที่สุด และนำตัวผู้กระทำผิดแยกออกจากกลุ่มผู้ชุมนุม และไม่ให้สถานการณ์รุนแรง จริงๆความรุนแรง ไม่รุนแรงขึ้นอยู่กับผู้ชุมนุม ถ้าผู้ชุมนุมชุมนุมโดยสงบ ตำรวจไม่เคยใช้กำลัง อย่างกรณีที่ผู้ชุมนุมปัสสาวะอยู่บนตู้คอนเทนเนอร์แสดงให้เห็นว่า ถ้าตำรวจไม่อดทนอดกลั้นก็ต้องลากตัวลงมาแล้ว ก่อนที่ตำรวจจะเริ่มปฏิบัติตามยุทธวิธี หรือตามขั้นตอน
เรามีการประกาศแจ้งเตือนและลูกน้องเราก็ถูกกระทำ จนกระทั่งเกรงว่าสถานการณ์จะลุกลามจนควบคุมไม่ได้ การเห็นต่างมีการแสดงออกได้หลายทางก็ขอให้ในช่องทางที่ถูกต้อง
ส่วนกรณีที่มีผู้ก่อเหตุเผาพระบรมฉายาลักษณ์ บริเวณหน้าเรือนจำคลองเปรม เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 64 ที่ผ่านมา ขณะนี้เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ได้ส่งตัวแทนมาแจ้งความดำเนินคดีที่สน.ประชาชื่น ความผิดที่เกี่ยวข้องในข้อหาวางเพลิงเผาทรัพย์ และคาดว่าจะมีความผิดม.112ด้วย
ขณะที่สถานีตำรวจนครบาลประชาชื่น ได้ติดตามจากกล้องวงจรปิด พบรถ MPV สีขาว และจากการติดตามกล้องวงจรปิดที่รถยนต์ดังกล่าวขับไปจนถึงที่พัก ทำให้ทราบพิกัดที่พักของผู้ต้องหาและตัวบุคคลที่ก่อเหตุแล้ว เบื้องต้น พบบุคคลต้องสงสัย 3 ราย เป็นชาย 2 คน และหญิง 1คน และพบอุปกรณ์ในการเตรียมเพื่อตั้งใจมาเผา พบถังน้ำมันและไฟแช็คทิ้งเอาไว้ โดยขณะนี้ตำรวจกำลังขออนุมัติหมายศาลเพื่อออกหมายจับแล้ว
เครดิตแหล่งข้อมูล : brighttv.co.th
โดยชี้แจงว่า ทางเจ้าหน้าที่พยายามระงับเหตุให้เร็วที่สุด และนำตัวผู้กระทำผิดแยกออกจากกลุ่มผู้ชุมนุม และไม่ให้สถานการณ์รุนแรง จริงๆความรุนแรง ไม่รุนแรงขึ้นอยู่กับผู้ชุมนุม ถ้าผู้ชุมนุมชุมนุมโดยสงบ ตำรวจไม่เคยใช้กำลัง อย่างกรณีที่ผู้ชุมนุมปัสสาวะอยู่บนตู้คอนเทนเนอร์แสดงให้เห็นว่า ถ้าตำรวจไม่อดทนอดกลั้นก็ต้องลากตัวลงมาแล้ว ก่อนที่ตำรวจจะเริ่มปฏิบัติตามยุทธวิธี หรือตามขั้นตอน
เรามีการประกาศแจ้งเตือนและลูกน้องเราก็ถูกกระทำ จนกระทั่งเกรงว่าสถานการณ์จะลุกลามจนควบคุมไม่ได้ การเห็นต่างมีการแสดงออกได้หลายทางก็ขอให้ในช่องทางที่ถูกต้อง
ส่วนกรณีที่มีผู้ก่อเหตุเผาพระบรมฉายาลักษณ์ บริเวณหน้าเรือนจำคลองเปรม เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 64 ที่ผ่านมา ขณะนี้เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ได้ส่งตัวแทนมาแจ้งความดำเนินคดีที่สน.ประชาชื่น ความผิดที่เกี่ยวข้องในข้อหาวางเพลิงเผาทรัพย์ และคาดว่าจะมีความผิดม.112ด้วย
ขณะที่สถานีตำรวจนครบาลประชาชื่น ได้ติดตามจากกล้องวงจรปิด พบรถ MPV สีขาว และจากการติดตามกล้องวงจรปิดที่รถยนต์ดังกล่าวขับไปจนถึงที่พัก ทำให้ทราบพิกัดที่พักของผู้ต้องหาและตัวบุคคลที่ก่อเหตุแล้ว เบื้องต้น พบบุคคลต้องสงสัย 3 ราย เป็นชาย 2 คน และหญิง 1คน และพบอุปกรณ์ในการเตรียมเพื่อตั้งใจมาเผา พบถังน้ำมันและไฟแช็คทิ้งเอาไว้ โดยขณะนี้ตำรวจกำลังขออนุมัติหมายศาลเพื่อออกหมายจับแล้ว
เครดิตแหล่งข้อมูล : brighttv.co.th
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น