เมียหลวงโต้ทันควัน ถึงเมียน้อยขอโทษก็ไม่ไกล่เกลี่ย! ฟ้องแน่3แสน
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ เมียหลวงโต้ทันควัน ถึงเมียน้อยขอโทษก็ไม่ไกล่เกลี่ย! ฟ้องแน่3แสน
ยังเป็นประเด็นทีสังคมให้ความสนใจกับกรณีข่าวคราว ชาวเน็ตแชร์คลิปหญิงสาวคนหนึ่งถือทะเบียนสมรสบุกงานแต่งสามีตัวเอง ซึ่งรับราชการตำรวจและไปแต่งงานใหม่โดยที่ทั้งสองคนยังไม่ได้หย่าขาดกัน ทำให้ชาวเน็ตพากันแสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวอย่างหนัก ล่าสุดฝ่ายภรรยาหลวงปรึกษาทนาย เพื่อยื่นฟ้องหญิงที่แต่งงานซ้อนแล้ว ในขณะที่ฝ่ายเมียน้อยเปิดใจผ่านสื่อดังขอโทษเมียหลวง และ สังคมกับพฤติกรรมที่เกิดขึ้น อ้างตัดสินใจแต่งงานกันเพราะรัก
ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 21 ก.พ.64 ภรรยาหลวงของตำรวจ แม่สามี พร้อมด้วย นายอนุสรณ์ อะสุระพงษ์ ทนายความ เดินทางมายัง สภ.เมืองชัยนาท นำหลักฐานเข้าให้ถ้อยคำเพื่อดำเนินการทางวินัยตำรวจ กรณีจัดงานแต่งซ้อนกับหญิงอื่น ทั้งที่มีทะเบียนสมรสถูกต้อง ต่อมาได้ร้องต่อศาลเรียกค่าทดแทนจากฝ่ายหญิง
พ.ต.ท.สมปอง นิลสนธิ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยนาท พร้อมพนักงานสอบสวน ได้นำหลักฐานประกอบการสอบสวนและเตรียมลงโทษทางวินัยตำรวจหนุ่มคนดังกล่าว หากพบว่ากระทำผิดจริงจะถูกลงโทษทางวินัย ซึ่งมีการกำหนดบทลงโทษไว้แล้ว เช่น
1.ข้าราชการตำรวจเกี่ยวข้องกับหญิงอื่น หรือชายอื่น โดยที่ตนเองมีภรรยาหรือสามีอยู่แล้ว และเกิดเรื่องเสื่อมเสีย ลงโทษกักขัง 30 วัน, 2.ได้หญิงหรือชาย เป็นภรรยาหรือสามี แล้วไม่เลี้ยงดู และเกิดเรื่องเสื่อมเสีย หรือเสียหาย ลงโทษกักขัง 30 วัน, 3.จดทะเบียนสมรสซ้อน ลงโทษกักขัง 30 วัน, 4.ไม่เลี้ยงดูคู่สมรสและบุตร และไม่ยกย่องฐานานุรูป ลงโทษกักขัง 30 วัน
สำหรับการประพฤติตนในลักษณะที่ไม่สมควร ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ถือว่าเป็นการกระทำผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรง แต่ถ้ามีพฤติกรรมอย่างอื่นร่วมด้วย เช่นทำหลายครั้ง หลอกเอาเงินทอง ใช้อำนาจหน้าที่บังคับข่มเหง กระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง จะเป็นการกระทำผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ซึ่งจะมีบทลงโทษหนักขึ้น
ด้าน นายอนุสรณ์ ทนายความ เปิดเผยว่า เบื้องต้นทางภรรยาหลวงและสามี ยังไม่ได้ติดต่อหรือนัดหมายเจอกันตั้งแต่วันเกิดเรื่อง ทางครอบครัวเองก็ยังไม่ได้พูดคุยกัน สำหรับเรื่องคดีของสามี ยังไม่ได้รับรายงาน วันนี้มาเรื่องสอบสวนวินัยเท่านั้น ส่วนเรื่องฟ้องร้องกับเจ้าสาว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาล ซึ่งกำหนดนัดหมายในเดือนเมษายน 2564 เรื่องไกล่เกลี่ยนั้นไม่มีแน่นอน เพราะทางลูกความยืนกรานว่าจะเอาเรื่องกับเจ้าสาวให้ถึงที่สุด เบื้องต้นฟ้องร้องค่าเสียหาย 3 แสนบาท
ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 21 ก.พ.64 ภรรยาหลวงของตำรวจ แม่สามี พร้อมด้วย นายอนุสรณ์ อะสุระพงษ์ ทนายความ เดินทางมายัง สภ.เมืองชัยนาท นำหลักฐานเข้าให้ถ้อยคำเพื่อดำเนินการทางวินัยตำรวจ กรณีจัดงานแต่งซ้อนกับหญิงอื่น ทั้งที่มีทะเบียนสมรสถูกต้อง ต่อมาได้ร้องต่อศาลเรียกค่าทดแทนจากฝ่ายหญิง
พ.ต.ท.สมปอง นิลสนธิ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยนาท พร้อมพนักงานสอบสวน ได้นำหลักฐานประกอบการสอบสวนและเตรียมลงโทษทางวินัยตำรวจหนุ่มคนดังกล่าว หากพบว่ากระทำผิดจริงจะถูกลงโทษทางวินัย ซึ่งมีการกำหนดบทลงโทษไว้แล้ว เช่น
1.ข้าราชการตำรวจเกี่ยวข้องกับหญิงอื่น หรือชายอื่น โดยที่ตนเองมีภรรยาหรือสามีอยู่แล้ว และเกิดเรื่องเสื่อมเสีย ลงโทษกักขัง 30 วัน, 2.ได้หญิงหรือชาย เป็นภรรยาหรือสามี แล้วไม่เลี้ยงดู และเกิดเรื่องเสื่อมเสีย หรือเสียหาย ลงโทษกักขัง 30 วัน, 3.จดทะเบียนสมรสซ้อน ลงโทษกักขัง 30 วัน, 4.ไม่เลี้ยงดูคู่สมรสและบุตร และไม่ยกย่องฐานานุรูป ลงโทษกักขัง 30 วัน
สำหรับการประพฤติตนในลักษณะที่ไม่สมควร ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ถือว่าเป็นการกระทำผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรง แต่ถ้ามีพฤติกรรมอย่างอื่นร่วมด้วย เช่นทำหลายครั้ง หลอกเอาเงินทอง ใช้อำนาจหน้าที่บังคับข่มเหง กระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง จะเป็นการกระทำผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ซึ่งจะมีบทลงโทษหนักขึ้น
ด้าน นายอนุสรณ์ ทนายความ เปิดเผยว่า เบื้องต้นทางภรรยาหลวงและสามี ยังไม่ได้ติดต่อหรือนัดหมายเจอกันตั้งแต่วันเกิดเรื่อง ทางครอบครัวเองก็ยังไม่ได้พูดคุยกัน สำหรับเรื่องคดีของสามี ยังไม่ได้รับรายงาน วันนี้มาเรื่องสอบสวนวินัยเท่านั้น ส่วนเรื่องฟ้องร้องกับเจ้าสาว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาล ซึ่งกำหนดนัดหมายในเดือนเมษายน 2564 เรื่องไกล่เกลี่ยนั้นไม่มีแน่นอน เพราะทางลูกความยืนกรานว่าจะเอาเรื่องกับเจ้าสาวให้ถึงที่สุด เบื้องต้นฟ้องร้องค่าเสียหาย 3 แสนบาท
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น