เอาผิดได้ไหม “อนุทิน” ให้สังคมประณาม กลุ่มดีเจ กักตัวทิพย์

ให้สังคมประณามกลุ่มดีเจคนดังปาร์ตี้ช่วงโควิด กักตัวทิพย์ หลังพยายามขอความร่วมมือแล้ว อนุทิน เตือนร้านอาหารขายเหล้าตามเวลา ขึ้นกับจิตสำนึก เรื่องขยายเวลารอฟังที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่วันที่ 29 ม.ค.นี้

เมื่อเวลา 09.10 น. วันที่ 26 ม.ค.64 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีมีเสียงวิจารณ์ผู้ติดเชื้อโควิด กทม. รายที่ 598 ไม่กักตัวตามมาตรการของสาธารณสุขระหว่างรอผลตรวจเชื้อ โดยมีพฤติกรรมออกไปทานข้าวและซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ตระหว่างการกักตัวว่า ถ้ามัวดูในโซเชียล การสาธารณสุขก็ไปผิดที่ ถ้าต้องการข้อมูลเชิงนโยบายเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวเรื่องโควิด ต้องฟังจากกระทรวงสาธารณสุข และสามารถสอบถามทาง ศบค.ได้ อย่าไปเชื่อฟังคนนั้นคนนี้ไปหมด

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าบางคนเป็นผู้มีความเสี่ยงไม่ได้กักตัวครบตามกำหนดเวลาที่ควรทำ

 นายอนุทิน กล่าวว่า เราต้องไปดู ที่จริงไม่มีให้กักตัวที่บ้าน คนที่จะถูกกักตัวต้องเดินทางเข้ามาจากต่างประเทศ 14 วัน ถ้ามีความเสี่ยงเป็นผู้สัมผัสให้เฝ้าระวังสังเกตอาการตัวเอง เหมือนที่ตนเคยไปสัมผัสกับผู้ว่าฯสมุทรสาคร จึงต้องระวังตัวเอง ไม่ไปพบใคร แต่ยังสามารถทำงานได้ แต่คนที่ไม่กักตัวตามแพทย์แนะนำต้องให้สัมคมช่วย

เมื่อถามว่าดีเจ ดารานักแสดงที่จัดปาร์ตี้ช่วงแพร่ระบาดโควิดจะมีกฎหมายเอาผิดได้หรือไม่ 

นายอนุทิน กล่าวว่า กฎหมายไม่ได้กำหนดไว้ เราแค่ขอความร่วมมือให้หลีกเลี่ยงการจัดสังสรรค์ ขึ้นอยู่กับใครร่วมมือหรือไม่ ถ้าไปบังคับเดี๋ยวก็โดนอีก เราพยายามขอความร่วมมือ ถ้าไม่ได้ ก็ให้สังคมประณาม

แต่ที่ผิดคือห้ามขายเหล้าในร้านอาหารและให้เปิดร้านอาหารได้ถึง 3 ทุ่ม และร้านอาหารจะอ้างว่าลูกค้านำมาเอง ไม่ได้ เพราะเรายังไม่อนุญาตให้ดื่มในร้านอาหาร เรื่องนี้กำชับสายตรวจให้เข้มงวดมากขึ้น ทั้งนี้ต้องอยู่กันด้วยจิตสำนึก หากใช้กฎหมายหมดก็ล็อกดาวน์ งานก็เข้าอีก

ผู้สื่อข่าวถามว่าสมาคมภัตตาคารไทยขอขยายเวลาเปิดร้านถึง 5 ทุ่ม จะนำเข้าพิจารณาในศบค.วันที่ 29 ม.ค.นี้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้ามีปาร์ตี้อยู่แบบนี้จะพิจารณาอย่างไร เราพร้อมพิจารณาและจะให้ถึงเที่ยงคืนด้วยซ้ำ แต่คนที่เสนอให้เปิดทำตามกฎที่เราห้ามขายเหล้าในร้าน ให้เว้นระยะห่าง มีช้อนกลางได้อย่างเต็มที่หรือเปล่า ซึ่งข้อเสนอเหล่านี้ รวมถึงการลดจำนวนพื้นที่เสี่ยงให้รอฟังจากที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่วันที่ 29 ม.ค.