ชูวิทย์ เปิดพิกัดบ่อนท้าโควิด แฉกลรอดพ้นกฎหมาย ชี้อย่าพุ่งเป้าแค่ตำรวจ!

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ผู้กว้างขวางในแวดวงการเมืองและธุรกิจสถานบันเทิง ออกมาเปิดเผยว่า อ้างว่าขณะที่สังคมกำลังสนใจบ่อนในภาคตะวันออกที่แพร่เชื้อโควิด-19 ขณะนี้ยังมีบ่อนในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา และในกทม.ลักลอบเปิดบริการอยู่ท้าทายการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19

โดยบ่อนการพนันในอ.สะเดา หรือด่านนอกนั้นเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อเนื่องจากติดชายแดนประเทศมาเลเซีย ที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังรุนแรง นอกจากนี้นายชูวิทย์ ยังเผยว่า บ่อนในกทม.มีที่ยังลักลอบเปิด "ฝั่งธนบุรีเจ้าเก่า ยี่ก้อ จ่า ม. ลอยฟ้า แค่โชว์เงิน 5หมื่นบาท ก็เข้าไปได้สบายๆ"

นายชูวิทย์ ยังเผยด้วยว่า บ่อนพระราม 3 ที่เคยเกิดเหตุยิงกันเสียชีวิต เมื่อกลางปี 2563 ที่ผ่านมา ปิดอยู่เพราะเกิดเรื่องใหญ่ ยังไม่กล้าเปิด

นายชูวิทย์ ยังเผยว่า กลวิธีการเปิดบ่อนการพนันมักลอบเปิดในบ้านไม่มีเลขที่ โกดังร้างๆ เพื่อไม่มีเจ้าบ้านรับผิดชอบตามกฎหมาย และเชื่อว่าไม่สามารถลงโทษผู้บังคับบัญชาระดับสูงในสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ เพราะคำสั่ง 234/2548 ที่กำหนดโทษตำรวจบกพร่องเรื่องอบายมุข มีรายละเอียดอยู่ หากของกลางไม่ถึง คนเล่นไม่ถึงจำนวนที่เรียกว่าบ่อน ก็ลงโทษไม่ได้

จึงเป็นไปได้ว่า เมื่อมีการตรวจสอบก็มีวิธีเลี่ยงกฎหมาย เช่น การจับกุม ดำเนินคดี ลงโทษทางวินัยหากความผิดไม่ครบองค์ประกอบก็ทำอะไรไม่ได้ หากจับบ่อน ถ้าไม่มีของกลาง ไม่มีคนเล่น ก็ทำอะไรไม่ได้ ถือว่าไม่มีการเล่นพนัน เมื่อเป็นเช่นนี้ ผู้ที่ถูกสั่งย้ายก็ไม่ถูกดำเนินการทางวินัย รอดทุกราย ย้ายเพื่อลดกระแสเท่านั้น เดี๋ยวก็กลับมาทำหน้าที่ใหม่ บ่อนปิดไปสักพักก็เปิดใหม่

นายชูวิทย์ยังบอกด้วยว่า "บ่อน" ในพื้นที่จะเปิดได้ อย่าพุ่งเป้าแค่ตำรวจ บกพร่อง กล่าวหาว่าตำรวจรับผลประโยชน์ จะเปิด "บ่อน" ต้องมีความร่วมมือ ยอม ทำทีหลับตาจากหลายหน่วยงาน ไม่เฉพาะแค่ตำรวจเท่านั้น คนมีสีอื่นๆ ทหาร ฝ่ายปกครอง ท้องถิ่น ร่วมรับรู้หรือไม่