อย่างเป็นทางการ! กทม.ประกาศ สั่งปิดล็อก 25 สถานที่เสี่ยงโควิด มีผลทันที 2 ม.ค.64
ตามที่ได้มีการประกาศเรื่อง การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่ 8) ลงวันที่ 23 พ.ย.2563 โดยขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศ สถานการณ์ฉุกเฉินในทุกท้องที่ทั่วราชอาณาจักรออกไปจนถึงวันที่ 15 ม.ค.2564 และประกาศใช้ข้อกําหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 15) ลงวันที่ 25 ธ.ค.2563 และได้มีประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 14) ลงวันที่ 28 ธ.ค.2563 แล้วนั้น
เนื่องจากยังพบการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด - 19) ระลอกใหม่ขึ้น ในบางเขตพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร และจังหวัดใกล้เคียงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 และดําเนินการให้เป็นไปตามข้อกําหนดดังกล่าวข้างต้น อันเป็นการปกป้องความมั่นคง ปลอดภัยทางด้านการสาธารณสุขของประเทศ และป้องกันมิให้เกิดการระบาดเพิ่มขึ้นจนมิอาจควบคุมได้ อาศัย อํานาจตามความในมาตรา 35 (1) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ประกอบกับข้อกําหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2554 (ฉบับที่ 15) ลงวันที่ 25 ธันวาคม 2563 ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อ กรุงเทพมหานคร ตามมติที่ประชุมครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2564 จึงให้ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการ เกิดโรคเป็นการชั่วคราว และกําหนดมาตรการเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดของโรค
ดังต่อไปนี้
1.ปิดสถานที่
1.1 สถานบริการ ผับ บาร์ สถานบันเทิง และสถานประกอบการใดที่เปิดให้บริการ ในลักษณะที่คล้ายสถานบริการ
1.2 สวนน้ำ สวนสนุก
1.3 สนามเด็กเล่น เครื่องเล่นสําหรับเด็กในตลาด ตลาดน้ำ และตลาดนัด
1.4 โต๊ะสนุกเกอร์ บิลเลียด
1.5 สถานที่เล่นเกม
1.6 ร้านเกม และร้านอินเทอร์เน็ต
1.7 สนามชนไก่ และสนามซ้อมชนไก่
1.8 สถานรับเลี้ยงเด็ก หรือสถานดูแลผู้สูงอายุ (ยกเว้นที่มีการรับตัวไว้พักค้างคืนเป็นปกติธุระ)
1.9 สนามมวย
1.10 โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ (ยิม)
1.11 สนามม้า
1.12 สถานประกอบกิจการอาบน้ำ
1.13 สถานประกอบกิจการอาบอบนวด
1.14 สนามแข่งขันทุกประเภท
1.15 สถานที่ให้บริการห้องจัดเลี้ยง สถานที่จัดเลี้ยง รวมถึงสถานที่อื่นใดที่มีลักษณะ ทํานองเดียวกัน
1.16 สนามชนโค สนามกัดปลา หรือสนามแข่งขันอื่นในลักษณะทํานองเดียวกัน
1.17 สนามพระเครื่อง ศูนย์พระเครื่อง
1.18 ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เด็กก่อนวัยเรียน
1.19 สถานเสริมความงาม (ไม่ได้รับอนุญาตเป็นคลินิกเวชกรรม) สถานที่สักหรือเจาะผิวหนัง หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย
1.20 สถานที่ออกกําลังกายฟิตเนส
1.21 สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ สปา และสถานประกอบการนวดแผนไทย นวดฝ่าเท้า
1.22 สนามฝึกซ้อมมวย โรงยิม หรือค่ายมวย
1.23 สถานที่เล่นโบว์ลิ่ง สเก็ต หรือโรลเลอร์เบลด หรือการละเล่นอื่นๆในทํานองเดียวกัน
1.24 สถาบันลีลาศ หรือสอนลีลาศ
1.25 อาคารสถานที่ของโรงเรียน สถาบันกวดวิชา และสถาบันการศึกษาทุกประเภท โดยห้ามใช้เพื่อจัดการเรียนการสอน การสอบ การฝึกอบรม หรือการทํากิจกรรมใดๆ ที่มีผู้เข้าร่วมจํานวนมาก เว้นแต่เป็นการดําเนินการสื่อสารแบบทางไกลหรือด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
2. สถานที่ดังต่อไปนี้ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาด ของโรคแนบท้ายประกาศนี้โดยเคร่งครัด
2.1 ร้านอาหารหรือเครื่องดื่ม ร้านสะดวกซื้อ รถเข็น หาบเร่ แผงลอย ภัตตาคาร สวนอาหาร ศูนย์อาหาร โรงอาหาร ซึ่งไม่รวมถึงสถานบริการ ผับ บาร์ ห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ในสถานที่ดังกล่าว
2.2 ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และคอมมูนิตี้มอลล์
2.3 ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการ
2.4 ห้องประชุมในโรงแรมหรือศูนย์ประชุม
2.5 ร้านค้าปลีก/ค้าส่งขนาดย่อม ร้านค้าปลีก ค้าส่งชุมชน ตลาด ตลาดน้ำ และตลาดนัด
2.6 ร้านค้าปลีก,ค้าส่ง หรือตลาดค้าส่งขนาดใหญ่
2.7 ร้านเสริมสวย แต่งผมหรือตัดผมสําหรับบุรุษหรือสตรี ให้เปิดดําเนินการโดยจํากัดเวลา การให้บริการในร้านไม่เกินรายละสองชั่วโมงและต้องไม่มีผู้นั่งรอในร้าน
2.8 สถานรับเลี้ยงเด็กหรือสถานดูแลผู้สูงอายุ (เฉพาะที่มีการรับตัวไว้พักค้างคืนเป็นปกติธุระ)
2.9 คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม ร้านทําเล็บ
2.10 สนามกอล์ฟ และสนามฝึกซ้อมกอล์ฟ
2.11 สนามกีฬา
2.12 สวนสาธารณะ ลาน - พื้นที่กิจกรรมสาธารณะ สถานที่ออกกําลังกาย สนามกีฬา ลานกีฬา
2.13 สถานที่ให้บริการดูแลรักษาสัตว์ สปา อาบน้ำ ตัดขน รับเลี้ยงหรือรับฝากสัตว์
2.14 สถานที่หรือสนามออกกําลังกายในร่ม
2.15 สระว่ายน้ำสาธารณะทั้งกลางแจ้งและในร่ม
2.16 สวนพฤกษศาสตร์ สวนดอกไม้ พิพิธภัณฑ์ ศูนย์การเรียนรู้ แหล่งประวัติศาสตร์ โบราณสถาน ห้องสมุดสาธารณะ และหอศิลป์
2.17 สระน้ำเพื่อการเล่นกีฬาหรือกิจกรรมทางน้ำในบึง
2.18 โรงภาพยนตร์ โรงละคร โรงมหรสพ
2.19 สวนสัตว์ หรือสถานที่จัดแสดงสัตว์
3. สถานที่อื่นนอกเหนือจากข้อ 2 ให้ผู้เกี่ยวข้องจัดให้มีมาตรการป้องกันโรคดังต่อไปนี้
3.1 บริการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย หรือการคัดกรองอาการป่วยในระบบทางเดินหายใจ
3.2 ให้สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า
3.3 อํานวยความสะดวกในการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1 เมตรและจํากัด จํานวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมมิให้แออัด
3.4 จัดให้มีที่ล้างมือด้วยสบู่ แอลกอฮอล์เจลหรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค
3.5 จัดให้มีการเช็ดทําความสะอาดพื้นผิวสัมผัสของสถานที่ที่เกี่ยวข้องก่อนการทํากิจกรรม รวมทั้งระหว่างและภายหลังการทํากิจกรรมด้วย
3.6 ให้มีการลงทะเบียนก่อนเข้าและออกจากสถานที่และเพิ่มมาตรการใช้แอปพลิเคชั่น ที่ทางราชการกําหนด
ผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามอาจมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และอาจมีความผิดตาม มาตรา 18 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจําคุก ไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจําทั้งปรับและหากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามข้อ 2 และข้อ 3 จะถูกสั่งปิด สถานที่เป็นการชั่วคราว
กรุงเทพมหานครขอความร่วมมือให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า เมื่อออกจาก ที่พักอาศัย
กรณีประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 14) ลงวันที่ 28 ธ.ค.2563 ขัดหรือแย้งกับประกาศกรุงเทพมหานครฉบับนี้ ให้บังคับตามประกาศกรุงเทพมหานครฉบับนี้
อนึ่ง เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจําเป็นรีบด่วนหากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหาย อย่างร้ายแรงแก่สาธารณชนหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้ง ตามมาตรา 30 วรรคสอง (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค. 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง ยกเว้นข้อ 1.25 ให้มีผลถึงวันที่ 17 ม.ค.2564 ประกาศ ณ วันที่ 1 ม.ค. พ.ศ. 2564