กักตัว 14 วันลูกเรือไฟล์ตเดียวกับสาวติด COVID-19 ขึ้นเครื่อง

นกแอร์ สั่งกักตัวลูกเรือของสายการบินเที่ยวบินไฟล์ต DD8717 หลังพบสาวไทยติด COVID-19 เดินทางจากแม่สาย จ.เชียงราย เข้ากทม. ด้านผอ.ดอนเมือง ระบุตรวจสอบกล้องซีซีทีวี พบอุณหภูมิปกติ สวมหน้ากากอนามัยในสนามบิน ส่วนพิจิตร สั่งปิดสถานบันเทิงพ่นน้ำยา 3 วัน

กรณีสาววัย 21 ปี ติดเชื้อ COVID-19 ลักลอบเข้าไทยเดินทางจาก จ.ท่าขี้เหล็ก ของเมียนมา เข้าประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ อ.แม่สาย จ.เชียงราย พร้อมกับเพื่อน 1 คน ในวันที่ 28 พ.ย.63 โดยมีรถจักรยานยนต์ 1 คัน มารับไม่ทราบชื่อ นั่งซ้อนกันสามคน ในวันเดียวกันเริ่มมีไข้ เจ็บคอ น้ำมูก และเข้าพักในโรงแรมกับเพื่อน ก่อนที่จะเรียกแกร็บคาร์ไปสนามบินเชียงราย และบินเข้ากทม.ที่สนามบินดอนเมือง

ร.ท.สัมพันธ์ ขุทรานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามามีอาการปกติ และอุณหภูมิไม่เกิน 37 องศาเซลเซียส ขณะนี้กำลังตั้งข้อสังเกตว่า การตรวจวัดอุณหภูมิไม่สามารถบอกได้เลยว่าผู้โดยสารมีไข้หรือไม่

ในกรณีนี้ผู้โดยสารรู้ตัวอยู่แล้วว่าเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงแต่กลับปกปิดข้อมูล ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะกินยาลดไข้ เนื่องจากได้ตรวจสอบจากกล้องซีซีทีวี พบว่าอุณหภูมิปกติ และได้สวมหน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาที่ใช้บริการสนามบิน พร้อมยืนยันว่าท่าอากาศยานดอนเมืองยังคงมาตรการเข้มงวด

ขณะที่สายการบินนกแอร์ ออกแถลงการณ์กรณีพบสาวติด COVID-19 ใช้บริการเที่ยวบิน DD 8717 วันที่ 28 พ.ย.63 เมื่อเวลา 13.40-14.50 น.จากเชียงรายมาที่ท่าอากาศยานดอนเมือง โดยให้กักตัวนักบินและลูกเรือ 14 วัน ซึ่งเป็นไปตามมาตรการป้องกันโรค รวมทั้งทำความสะอาดและพ่นฆ่าเชื้อ ทำความสะอาดพื้นผิวทั้งหมด

กลุ่มเสี่ยงสาวพิจิตรติดเชื้อ 200 คน
ด้านนายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร กล่าวถึงกรณีพบผู้ป่วยรายแรก เป็นหญิงอายุ 25 ปี เดินทางมาเมียนมา ลักลอบเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ โดยสารทางเครื่องบินเข้ากรุงเทพ จากนั้นขึ้นเครื่องต่อมาลงที่ จ.พิษณุโลก ก่อนที่เพื่อนมารับที่สนามบินพิษณุโลกพักกับเพื่อนในหอพักในเขตเทศบาลเมืองพิจิตร และเที่ยวสถานบันเทิง 2 แห่ง คือร้านเบิร์ดบาร์ และคร็อกโคได ในช่วงเวลากลางคืนตลอด 3 วัน ตั้งแต่ วันที่ 28-30 พ.ย.-1 ธ.ค.ที่ผ่านมา

ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามผู้สัมผัสกับผู้ติดเชื้อในระหว่างที่อยู่ในพิจิตร ทางกรมควบคุมโรค ได้สอบสวนโรค พบมีผู้สัมผัสใกล้ชิดทั้งหมด 3 คนเป็นเพื่อนที่ไปเที่ยวด้วยกันและอีก 1 คน เป็นช่างทำเล็บ 4 คนได้รับตัวมาตรวจเชื้อและจะนำเข้าสู่ระบบกักตัว 

ส่วนสถานบันเทิงทั้ง 2 แห่ง ได้รวบรวมรายชื่อเพื่อเข้าสู่กระบวนการสอบสวนโรค รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวที่เข้าไปในสถานที่เดียวเวลาเดียวกับผู้ติดเชื้อ เบื้องต้นมีจำนวนผู้มีความเสี่ยงกว่า 200 คนให้ขอตรวจเชื้อได้ที่โรงพยาบาลพิจิตรและโรงพยาบาลอำเภอทุกแห่ง พร้อมให้สถานบันเทิงทั้ง 2 แห่ง ปิดทำความสะอาด 3-7 วัน