เร่งค้นหาผู้ใกล้ชิด2ผู้ป่วยติดโควิดชายแดนตาก
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ เร่งค้นหาผู้ใกล้ชิด2ผู้ป่วยติดโควิดชายแดนตาก
นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานข่าวการตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ชายแดนจังหวัดตาก ว่า
จากรายงานในเบื้องต้น กรณีแรกเป็นชายชาวเมียนมา อายุ 48 ปี (เคยอาศัยในพื้นที่พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยจากการสู้รบบ้านอุ้มเปี้ยม อ.พบพระ จ.ตาก และออกจากศูนย์ได้ประมาณ 2 ปี) ญาติให้ข้อมูลว่าผู้ป่วยไปทำงานที่ อ.วังเจ้า จ.ตาก และกลางเดือนต.ค.63 ไปทำงานต่อที่ อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร ประมาณสองสัปดาห์ จากนั้นผู้ป่วยเดินทางกลับไปอ.วังเจ้า แต่หลงทางในป่า 10 วัน จนมีคนมาพบจึงแจ้งญาติให้มารับกลับ และเดินทางถึงพื้นที่พักพิงฯในวันที่ 4 พ.ย.63 โดยไม่ได้ออกไปไหน ต่อมาวันที่ 11 พ.ย.63 เริ่มมีอาการไข้ วันที่ 19 พ.ย.63 อาการไม่ดีขึ้น จึงเข้ารับการรักษาที่รพ.ในพื้นที่พักพิงฯ
ซึ่งได้ทำการส่งตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากSMRU ผลพบเชื้อ จึงได้ส่งต่อไปรักษาที่รพ.แม่สอด และทีมสอบสวนได้ดำเนินการค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิดทั้งหมด 12 ราย ผลตรวจโควิด ไม่พบเชื้อ 9 ราย รอผลอีก 3 ราย ขณะนี้ทุกรายนำไปพักอยู่ที่สถานที่กักกันโรค ส่วนผลตรวจในกลุ่มบ้านผู้ป่วย 99 ราย ผลไม่พบเชื้อ 49 ราย รอผลอีก 50 ราย
ส่วนกรณีที่2 เป็นหญิงไทย อายุ 17 ปี เป็นนักเรียน ตามทะเบียนบ้านอยู่ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก เริ่มป่วยเมื่อวันที่ 17 พ.ย.63 มีไข้ เจ็บคอ เดินทางมาจากเมียนมาในวันที่ 20 พ.ย.63 เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งใน อ.แม่สอด จ.ตาก ผลตรวจเบื้องต้นพบว่าผลเป็นบวก จึงได้ส่งต่อมารักษาที่โรงพยาบาลแม่สอด โดยผลตรวจทางห้องปฏิบัติการด้วยวิธี RT-PCR ยืนยันพบเชื้อโควิด-19 และภาพถ่ายรังสีปอดพบรอยโรคของปอดอักเสบ ขณะนี้ผู้ป่วยอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด โดยได้ดำเนินการสอบสวนโรคและตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ เพื่อค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยในกรณีนี้ต่อไป
นายแพทย์โอภาส กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ได้เร่งดำเนินการตามขั้นตอนการสอบสวนและมาตรการป้องกันควบคุมโรคอย่างเข้มข้นทั้งสองกรณีดังกล่าว เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่และประชาชนชาวไทยทุกคน
จากรายงานในเบื้องต้น กรณีแรกเป็นชายชาวเมียนมา อายุ 48 ปี (เคยอาศัยในพื้นที่พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยจากการสู้รบบ้านอุ้มเปี้ยม อ.พบพระ จ.ตาก และออกจากศูนย์ได้ประมาณ 2 ปี) ญาติให้ข้อมูลว่าผู้ป่วยไปทำงานที่ อ.วังเจ้า จ.ตาก และกลางเดือนต.ค.63 ไปทำงานต่อที่ อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร ประมาณสองสัปดาห์ จากนั้นผู้ป่วยเดินทางกลับไปอ.วังเจ้า แต่หลงทางในป่า 10 วัน จนมีคนมาพบจึงแจ้งญาติให้มารับกลับ และเดินทางถึงพื้นที่พักพิงฯในวันที่ 4 พ.ย.63 โดยไม่ได้ออกไปไหน ต่อมาวันที่ 11 พ.ย.63 เริ่มมีอาการไข้ วันที่ 19 พ.ย.63 อาการไม่ดีขึ้น จึงเข้ารับการรักษาที่รพ.ในพื้นที่พักพิงฯ
ซึ่งได้ทำการส่งตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากSMRU ผลพบเชื้อ จึงได้ส่งต่อไปรักษาที่รพ.แม่สอด และทีมสอบสวนได้ดำเนินการค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิดทั้งหมด 12 ราย ผลตรวจโควิด ไม่พบเชื้อ 9 ราย รอผลอีก 3 ราย ขณะนี้ทุกรายนำไปพักอยู่ที่สถานที่กักกันโรค ส่วนผลตรวจในกลุ่มบ้านผู้ป่วย 99 ราย ผลไม่พบเชื้อ 49 ราย รอผลอีก 50 ราย
ส่วนกรณีที่2 เป็นหญิงไทย อายุ 17 ปี เป็นนักเรียน ตามทะเบียนบ้านอยู่ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก เริ่มป่วยเมื่อวันที่ 17 พ.ย.63 มีไข้ เจ็บคอ เดินทางมาจากเมียนมาในวันที่ 20 พ.ย.63 เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งใน อ.แม่สอด จ.ตาก ผลตรวจเบื้องต้นพบว่าผลเป็นบวก จึงได้ส่งต่อมารักษาที่โรงพยาบาลแม่สอด โดยผลตรวจทางห้องปฏิบัติการด้วยวิธี RT-PCR ยืนยันพบเชื้อโควิด-19 และภาพถ่ายรังสีปอดพบรอยโรคของปอดอักเสบ ขณะนี้ผู้ป่วยอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด โดยได้ดำเนินการสอบสวนโรคและตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ เพื่อค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยในกรณีนี้ต่อไป
นายแพทย์โอภาส กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ได้เร่งดำเนินการตามขั้นตอนการสอบสวนและมาตรการป้องกันควบคุมโรคอย่างเข้มข้นทั้งสองกรณีดังกล่าว เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่และประชาชนชาวไทยทุกคน
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น